“ประยุทธ์” ย้ำไม่เคยทะเลาะ ขัดแย้งกับพี่ใหญ่ ลั่นใจถึงใจ ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง กำชับ ครม.ทำการบ้าน แจงญัตติซักฟอก ม.152 สู้ฝ่ายค้านด้อยค่า ยักท่าอุบวัน สมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช.โบ้ยยังไม่คิดนั่งประธานพรรคหรือซุปเปอร์บอร์ด สั่งขันนอตฟันสารพัดคดีดัง ขึงขังเอาจริงกำจัดทิ้งคนไม่ดีออกไป “สันติ” ยัน พปชร.ชูเดี่ยว “บิ๊กป้อม” ชิงนายกฯ ไม่ปิดทางจับมือ พท.ตั้งรัฐบาล “อนุทิน” ปฏิเสธข่าวดีลเด็ด “ภท.-พปชร.-พท.” ฟอร์มรัฐบาลแท็กทีมดัน “ลุงป้อม” นั่งนายกฯ โยนผลเลือกตั้งจะชี้ขาดจับมือขั้วไหน “สมคิด” เชื่อ “ลุงตู่” ลากยาวยุบสภาฯเดือน มี.ค. รอ รทสช.แต่งตัวพร้อมต้อน ส.ส.เข้าคอก

หลังผ่านพ้นวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) กลับมาประชุมนัดแรกของปี 2566 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ยืนยันสัมพันธภาพพี่น้อง 3 ป. อีกครั้งว่าไม่เคยทะเลาะ หรือขัดแย้งกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ (พปชร.)

...

นายกฯขอพรปีใหม่บ้านเมืองสงบสุข

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ม.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนการประชุม เมื่อเวลา 07.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ นายกฯพร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานพิธีทำบุญเนื่องในโอกาส วันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 พระสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ โดยสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี วัดไตรมิตรวิทยาราม ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นสิริมงคล โดยมีรองนายกฯ ครม.เลขาธิการนายกฯ ข้าราชการการเมือง หัวหน้าส่วนราชการสังกัด สำนักนายกฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการและ เจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ ร่วมพิธี จากนั้นเวลา 08.19 น. นายกฯสักการะศาลพระภูมิ ศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ โดยได้ทักทายผู้สื่อข่าวว่า “สวัสดีทุกคน ขอให้มีความสุข ช่วยกันทำบ้านเมืองสงบสุข ต่อไป” เมื่อถูกถามว่า อธิษฐานขอพรอย่างไรให้ประเทศชาติ นายกฯกล่าวว่า “อธิษฐานให้บ้านเมืองดี สงบสุข” ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้ากราบไหว้พระพุทธรูปที่ห้องทำงาน

ปลาบปลื้มของขวัญพระราชทาน

วันเดียวกัน ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบ รัฐบาล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานของขวัญปีใหม่แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เนื่องในโอกาสวันขึ้น ปีใหม่ 2566 พร้อมกันนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า สิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานแจกัน ดอกไม้ และ ส.ค.ส.แก่นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2566

3 ป.ล้อมวงคุยจิบกาแฟก่อน ครม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุม ครม.นัดแรกของปี 2566 พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้นั่ง พูดคุยและจิบกาแฟร่วมกัน ที่ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานประชุม ครม.โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม พล.อ.ประวิตร ได้เป็นตัวแทน ครม.กล่าวอวยพรปีใหม่นายกฯ โดย ครม.ทั้งหมดได้ลุกขึ้นยืนร่วมอวยพร พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวขอบคุณและให้พร ครม.

ขอช่วยกันทำเพื่อ ปชช.-ประเทศ

ต่อมา เวลา 13.25 น. ภายหลังประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สวัสดีท่านผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบทุกคน ขออวยพรให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ขออวยพรอีกครั้ง ทำสิ่งใดประสบความสำเร็จ ขอให้ช่วยๆกัน ช่วยรัฐบาลในการพัฒนาบ้านเมืองของเราต่อไป สร้างความเข้าใจเรื่องสำคัญๆ ประชุม ครม.มีหลายเรื่องพิจารณา คุยกันเรื่องการทำงานว่า มีปัญหาอะไรบ้าง จะแก้ไขกันไป หลายอย่างเร่งรัดแก้ไขโดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างต่างๆที่ไม่ใช่โครงสร้างพื้นฐานอย่างเดียว แต่เป็นโครงสร้างการทำงาน กลไก กฎหมาย กฎกติกาต่างๆ ต้องพยายามแก้ไปให้ได้ มากที่สุด เพื่อผลประโยชน์กลับมาสู่ประชาชนและประเทศ คือ ต้องมอง 2 อย่าง ประชาชนมีรายได้มากขึ้น และประเทศมีรายได้สูงขึ้น ถ้า 2 อย่างไม่สมดุลกัน มันมีปัญหา ต้องดูแลคนจำนวนมาก แต่ละเรื่องแต่ละ กิจกรรม การดูแลประชาชนยังมีอีกหลายอย่าง แต่ละกลุ่มต้องดูแลคนเป็นสิบล้านขึ้นไป ต้องดูว่าเราจะหาได้จากตรงไหน จึงต้องหาวิธีการใหม่ๆเพื่อเพิ่มรายได้ให้ประชาชน เอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร ตนคิดมาตลอด มีหลายอย่างที่ทำได้ แต่ก็มีหลายอย่าง ที่ติดขัด ต้องร่วมมือช่วยกัน

อุบวันสมัคร รทสช.ไม่คิดถึงตำแหน่ง

เมื่อถามถึงท่าทีทางการเมือง สมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเมืองอีกแล้ว รอหน่อยสิ เดี๋ยวก็ไปเองแหละ เมื่อถามว่ามีการกำหนดวันหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องดูวันที่เหมาะสม เมื่อถามว่าจะเร็วๆนี้ หรือภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “จะวันไหนก็ไม่ได้สำคัญอะไรหนักหนา” เมื่อถามว่าจะรับตำแหน่งอะไรในพรรคด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น เมื่อถามว่ามีข่าวว่านายกฯ จะไปเป็นประธานซุปเปอร์บอร์ดพรรค รทสช. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อย่าไปพูดอย่างนั้นสิ พูดอย่างนั้น ใครออกไปพูดไม่รู้เรื่อง ซุปเปอร์บอร์ดบ้าง เรื่องอะไรอีกนะ ผู้สื่อข่าวตอบว่าประธานพรรค พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลยสักอย่าง แค่จะไปสมัครเป็นสมาชิกก่อนเท่านั้น จะได้ไม่มีปัญหามากนัก

เสียงพอชิงนายกฯหรือไม่อยู่ที่ ปชช.

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะนำ ส.ส.มาได้มากกว่า 25 เสียงเพื่อเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ แข่งกันในสภา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “จะมั่นใจได้อย่างไรก็ต้องถามประชาชนสิจ๊ะ คนเลือกไม่ใช่ฉันเองนะ ฉันจะประเมินตัวเองไม่ได้ ต้องให้ประชาชนเป็นคนประเมิน เพราะทุกอย่างเป็นการเลือกตั้ง กระบวนการทางประชาธิปไตยว่ากันไป ตามรัฐธรรมนูญว่ากันไป ส่วนใครจะได้ไม่ได้ เป็นเรื่องของประชาชนที่จะตัดสินใจ ไม่ใช่เราจะไปกำหนดได้ เราจะไปคาดหวังนี่โน่นไม่ได้หรอก” เมื่อถามว่าจะเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ของพรรค รทสช.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม เมื่อถามอีกว่าระยะเวลาที่เหลือ 2 ปีจะเอาอะไรเป็นจุดขายเพื่อให้ได้กลับมา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยู่ก็ทำงานให้มันจบ ให้เรียบร้อยราบรื่น

ยันไม่เคยทะเลาะ งัดข้อพี่ใหญ่

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บอกว่าไม่ได้เป็นคู่แข่งนายกฯ เพราะนายกฯ เป็นน้องแต่สุดท้ายใครดีใครได้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “อ้าว ในฐานะหัวหน้าพรรคท่านต้องพูดอย่างนั้นละมั้ง ใช่ไหม มันเป็นเรื่องของการเมือง” เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ให้พรปีใหม่อย่างไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็เหมือนเดิมแหละ ไม่มีปัญหาอะไร เสาร์-อาทิตย์ตนก็ไปคุยกับท่าน ไม่ใช่ว่าทะเลาะกัน ไม่เคยทะเลาะกัน ทะเลาะกันไม่ได้อยู่แล้วนะจ๊ะ เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ นั่งคุยกันอยู่เป็นชั่วโมง คุยกระเซ้าเย้าแหย่กันเหมือนเดิม ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น เมื่อถามว่าแค่ในทางการเมืองมีความเห็นต่างกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ถามเอง ตอบเองได้อยู่แล้ว

ลั่นใจถึงใจ ไม่ใช่คู่ขัดแย้งกัน

เมื่อถามว่านายกฯ จะโหวงๆ หรือไม่ที่ไม่มี พล.อ.ประวิตรเดินเคียงคู่ในทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “คือใจมันถึงใจกันอยู่แล้ว เรื่องอื่นก็คือเรื่องอื่น การเมืองก็ว่ากันไป ผมเรียนท่านไปแล้วว่าเราไม่ใช่คู่ขัดแย้งกัน การเมืองต้องไม่ใช่คู่ขัดแย้งกัน ไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตาม เพราะเราทำเพื่ออะไร เพื่อประเทศไทยใช่ไหม ไม่ว่าจะพรรคฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล ประเทศไทยใช่ไหม เราทำเพื่อคนไทยใช่ไหม ฉะนั้น อะไรต่างๆก็ตามที่ไม่ใช่เรื่องจะมาเป็นประเด็นขัดแย้งกันสู่การเลือกตั้ง ผมไม่อยากให้ทำ อันตราย”

เหน็บฝ่ายค้านจะฟังรึเปล่าแจงซักฟอก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงความพร้อมในการตอบญัตติการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติว่า “ก็จะบอกว่าไม่พร้อมได้อย่างไรล่ะ ก็ในเมื่อเขามีมติมาเราพร้อมตลอด สำคัญอยู่ที่ว่าจะฟังกันหรือเปล่านั่นแหละ” เมื่อถามว่าได้มีการกำหนดวันจากฝ่ายรัฐบาลไปแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเป็นเรื่องของสภา วันนี้เขายังไม่มีการเสนอมาว่าจะเป็นเมื่อไหร่อย่างไรก็ต้องฟังทางสภาก่อน ซึ่งต้องถามกลับมายังรัฐบาลที่มีคณะทำงานของรัฐบาลโดยคณะกรรมการประสานงานสภา (วิปรัฐบาล) ต้องมีการชี้แจงกันไปว่าตรงไหนจะเหมาะสม ทั้งนี้ต้องดูว่าหลายเรื่องมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ตอนนี้หรือเปล่า หวังผลเพื่ออะไรก็ต้องดู ถ้าเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ ตนไม่ขัดข้องอะไรอยู่แล้วนะจ๊ะ บ้านเมืองมันมีปัญหาเยอะอยู่แล้ว เราพยายามทำให้เต็มที่

กำชับ รมต.ทำการบ้านตอบโต้ด้อยค่า

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ช่วงหนึ่งในที่ประชุม ครม.นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมฯ (พม.) ได้พูดถึงญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ของฝ่ายค้านจะเป็นโอกาสให้ ครม.ได้ชี้แจงการทำงานที่ผ่านมาเต็มที่ นายกฯได้กล่าวว่า เห็นโจทย์กันอยู่ว่ามี 5 ข้อตามที่เขาพูดกันทราบว่าไม่มีการลงมติ แต่อาจสร้างความสับสนเข้าใจผิดแก่ประชาชน อาจเป็นการด้อยค่ากัน ขอให้ทุกฝ่ายรับมือการอภิปรายให้ทำการบ้าน รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง กระทรวงใครกระทรวงมันให้เตรียมตอบคำถามเรื่องเกี่ยวกับนโยบายและเรื่องที่ฝ่ายค้านจะยกมาพูด ที่อาจมีการกล่าวหาเรื่องการทุจริตให้ได้ และอยากให้กำชับไปยังลูกพรรคให้เข้าร่วมประชุมสภาฯอย่าให้บรรยากาศโหรงเหรง นอกจากนี้มีการประชุมลับพิจารณาวาระสำคัญ แจ้งให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากห้องประชุม ครม.เหลือเพียง ครม.เพื่อพิจารณาวาระพื้นที่พัฒนาร่วมกันระหว่างไทยกัมพูชา ที่ต้องเร่งพิจารณาเนื่องจากสภาฯใกล้หมดวาระ ต้องนำไปขอความเห็นชอบต่อสภาฯ ตามมาตรา 178

“บิ๊กป้อม” นำ ครม.อวยพรปีใหม่

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงภายหลังประชุม ครม.ว่าก่อนเริ่มประชุม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นตัวแทน ครม.กล่าวอวยพรปีใหม่นายกฯว่าตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นมา นายกฯปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ทุ่มเท ท่ามกลางปัญหาและอุปสรรค ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 และปัญหาเศรษฐกิจ แต่นำพาประเทศข้ามพ้นปัญหาต่างๆ ด้วยความไม่ย่อท้อเพื่อประเทศและความผาสุกของประเทศ ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกและพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้โปรดประทานพรให้นายกฯมีสุขภาพแข็งแรง มีจิตใจเข้มแข็ง ฟันฝ่าอุปสรรคนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ขณะที่นายกฯขอบคุณ พล.อ.ประวิตร และ ครม.ที่มีน้ำใจไมตรีมอบให้ ทุกคนใน ครม.ร่วมกันทำหน้าที่พาประเทศเดินไปข้างหน้า ท่ามกลางปัญหาท้าทายทั้งโควิดและเศรษฐกิจ ฝ่าฟันจนพ้นเป็นที่ยอมรับของนานาชาติปี 2566 รัฐบาลจะมุ่งเน้นเดินหน้าแก้ปัญหาประเทศและประชาชน ขออวยพรให้ทุกท่านใน ครม.ทำงานให้สำเร็จด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

ลั่นเอาจริงทุกคน กำจัดคนไม่ดีออกไป

นายอนุชากล่าวอีกว่า นายกฯยังได้สั่งการเรื่องคดีต่างๆว่า ให้ทุกหน่วยงานดำเนินการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ตามข้อมูลพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะสาวไปถึงใครให้ดำเนินการตามกฎหมายทุกขั้นตอน และหลายคดีที่ปรากฏเป็นข่าวในช่วงนี้ต้องขอขอบคุณข้าราชการ ประชาชน ที่นำข้อมูลส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนสามารถนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ ทั้งนี้ทุกหน่วยงานมีทั้งคนดีและไม่ดี ฉะนั้นการที่เราจะพัฒนาบ้านเมือง จะต้องกำจัดคนไม่ดีออกไป ถือเป็นหลักการทำงานของนายกฯ ที่ผ่านมา

“วิษณุ” ไม่กังวลถามมาตอบไป

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 ภายใต้ยุทธการ “ถอดหน้ากากคนดี” ของฝ่ายค้านว่า หากสภาฯส่งญัตติมาถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะปรึกษาหารือทันทีว่าจะพร้อมไปชี้แจงต่อสภาฯเมื่อใด ตอนนี้ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเป็นช่วงใด เนื่องจากต้องถามความพร้อม ครม.ทั้งคณะ การอภิปรายครั้งนี้ต่างจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ระบุเป็นตัวบุคคล แต่ครั้งนี้เป็นการอภิปรายทั่วไป ครม.ทั้งคณะต้องไปตอบข้อซักถาม หากสภาฯยังไม่ส่งยังไม่สามารถตีตนไปก่อนไข้ได้ น่าจะไม่เหมาะสม แต่ไม่กังวล เป็นเรื่องที่ทำกันมาทุกครั้ง ตามกฎหมายระบุไว้ชัดว่าสมาชิกสภาฯ สอบถามข้อเท็จจริงหรือให้ข้อเสนอแนะ ไม่ใช่การว่าหรือโจมตีเหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นการถามให้ตอบเพื่อเสนอแนะให้นำไปปฏิบัติ และจะจบลง โดยไม่มีการลงมติใดๆ ยิ่งเป็นปลายสมัยรัฐบาล ยิ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากจะพูด

“สันติ” ชู “บิ๊กป้อม” ชื่อเดียวเอาอยู่

นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค พปชร.กล่าวถึงการประชุมใหญ่พรรค พปชร.ว่ายังไม่ชัดเจนว่าจะประชุมวันที่ 14 หรือ 21 ม.ค. เป็นเรื่องปกติทดแทนตำแหน่งที่ว่าง จะมีนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ นักเศรษฐกิจและผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านเข้ามา นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ก็ยังอยู่กระแสข่าวที่ออกมาเป็นเฟกนิวส์ ส่วนแคนดิเดตนายกฯพรรค พปชร.เมื่อประชุมใหญ่เสร็จจะประชุมกรรมการบริหารพรรคราวๆสิ้นเดือนจะประกาศรายชื่อเร็วที่สุด ทุกอย่างเป็นตามที่ทุกคนเข้าใจ เรามั่นใจชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคคนเดียว แต่ขึ้นกับกรรมการบริหารพรรค ถ้าเป็นเอกภาพควรส่งคนเดียว จะได้มุ่งมั่นไปทิศทางเดียว เมื่อถามว่าหากพรรค พปชร.เสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร พรรค รทสช.เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม จะตัดคะแนนกันเองหรือไม่ นายสันติตอบว่า ไม่หรอก เราเน้นพี่น้องประชาชนเน้นชนบท เน้นการอยู่ดีกินดีตามที่ พล.อ.ประวิตร พูดมาตลอด

ไม่ปิดทางจับมือ พท.ตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าพรรค พปชร.จะได้เสียง ส.ส.มากที่สุดในซีกรัฐบาลปัจจุบัน นายสันติกล่าวว่า จะมากหรือเท่าไหร่แล้วแต่ เราคงประเมินไม่ได้ แต่ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้แต่ต้นที่ 150 เสียง เรายืนยันคำนั้นอยู่ เชื่อมั่นว่าการที่ พล.อ.ประวิตรได้ทำเรื่องน้ำที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัยเป็นที่ประจักษ์ ท่านแก้ปัญหาได้ลุล่วง เมื่อถามถึงการจับขั้วรัฐบาลหลังเลือกตั้ง พปชร.จับได้ทุกขั้วหรือไม่ นายสันติกล่าวว่าต้องดูที่พี่น้องประชาชนว่าเลือกพรรค พปชร.มาเท่าไหร่ เลือกอย่างไรคิดไปตามที่ประชาชนเลือกเรามา เมื่อถามย้ำว่ามีกระแสข่าวพรรค พปชร.จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลเป็นไปได้หรือไม่ นายสันติกล่าวว่าเรื่องเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ คงตอบไม่ได้ในตอนนี้ แต่พรรคไหนที่ทำเพื่อชาติเพื่อประชาชน ให้อยู่ดีกินดีตามนโยบายของเรา เราคงไม่มีปัญหาอะไร สำหรับการอภิปรายตามมาตรา 152 ไม่กังวลว่าจะทำให้รัฐบาลเสียคะแนน ฝ่ายค้านถามมาก็ตอบด้วยเหตุผลด้วยผลงาน เชื่อว่ารัฐมนตรีผลงานของรัฐมนตรีแต่ละท่านจะชี้แจงได้ เมื่อได้โจทย์มา เราคงตอบได้หมดไม่หนักใจ

“อนุทิน”โยนผล ลต.ชี้จับมือทางไหน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ภายใต้ยุทธการถอดหน้ากากคนดีว่า หากอภิปรายเรื่องงานที่ทำมาทุกอย่างพร้อมตอบ ไม่มีประเด็นอะไรก่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชน หากอภิปรายด้วยคำแนะนำควรรับฟัง ถ้าเป็นประโยชน์เอาไปช่วยปฏิบัติ เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรคภท.พร้อมจับมือกับทุกขั้ว นายอนุทินตอบว่าเป็นเพียงการวิเคราะห์ของผู้สื่อข่าว ใครเขาจะออกมาให้สัมภาษณ์จะพูดเช่นนั้นได้อย่างไร คนที่อยากเห็นบ้านเมืองเจริญก้าวหน้า ควรบอกว่าไม่ควรขัดแย้ง ไม่ควรแบ่งขั้ว ไม่เคยพูดสักคำว่าพร้อมจับมือทุกขั้ว พูดอยู่คำเดียวตลอดเวลาและย้ำมาตลอดหลายครั้งว่าต้องรอผลเลือกตั้ง แล้วผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวกำหนดว่าเราควรจะไปทางไหน

ปัดข่าวฟอร์ม รบ.ดัน “ลุงป้อม” นั่งนายกฯ

เมื่อถามว่า ไม่ปิดประตูทุกด้านทุกฝ่ายใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เราไม่นิยมความขัดแย้ง เราไม่ต้องการทะเลาะเบาะแว้งกับใคร เราไม่ต้องการสร้างความจงเกลียดจงชังระหว่างกัน ฉะนั้นที่ดีที่สุดคือรอผลการเลือกตั้ง ต้องปฏิเสธข่าว 2-3 วันที่ผ่านมาช่วงปีใหม่ไม่รู้ว่าจะไปแก้ข่าวอย่างไร ที่บอกว่าอนุทินไปเอ่ยชื่อพรรคก้าวไกล ไม่มีคำว่าก้าวไกลออกจากปากเลยจนถึงวินาทีนี้ แต่ละพรรคมีนโยบายอย่างไรเป็นเรื่องของแต่ละพรรค ส่วนทิศทางของพรรคการเมือง เชื่อว่าทุกพรรคต้องรอผลการเลือกตั้ง เมื่อถามว่าแสดงว่าจับมือกับพรรคก้าวไกลได้ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่ได้บอกว่าจับมือกับใครเลย ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ามีการวิเคราะห์กันว่า พรรค ภท. พรรค พปชร.และพรรคเพื่อไทยดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค พปชร.เป็นนายกฯ โดยการดึงเสียงจากกลุ่ม ส.ว. นายอนุทินกล่าวว่า เท่าที่ตามข่าวไม่ได้เป็นการวิเคราะห์เลย ระบุว่าคุยเรียบร้อยแล้วตอนปีใหม่ ขอให้ไปตรวจสอบดูว่าช่วงปีใหม่ตนอยู่ที่ไหน “ไม่มีหรอกครับ ไม่ได้คุยอะไรกับใครเลย ทำบุญอย่างเดียว” นายอนุทิน กล่าว

“ศักดิ์สยาม ” สั่งสอบป้ายสถานีบางซื่อ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์กรณีโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย มูลค่าโครงการ 33,169,726.39 บาท ถูกวิพากษ์วิจารณ์ราคาสูงเกินจริงว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงคมนาคมตรวจสอบแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. ไม่เกิน 7 วันคงรู้ผล เป็นป้ายที่มีขนาดใหญ่และเป็นป้ายแบบพิเศษ ต้องดูว่าราคากับปริมาณงานจะเป็นอย่างไร ต้องเปลี่ยนป้ายทุกจุด มีหลายรายการในพื้นที่ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีอยู่ อย่ากลัวเลย เพราะผิดคือผิดถูกคือถูก เมื่อถามว่าถ้าพบสิ่งผิดปกติยกเลิกได้ใช่หรือไม่ นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ได้ ไม่ใช่แค่ยกเลิกอย่างเดียวจะต้องถูกลงโทษด้วย ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ยืนอยู่ข้างนายศักดิ์สยามกล่าวเสริมว่า นอกจากยกเลิกต้องถูกลงโทษด้วยเช่นกัน

ตั้งอธิบดีกรมฝนหลวงมติเอกฉันท์

เมื่อเวลา 08.40 น. นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการแต่งตั้งอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรฯว่า การประชุม ครม.สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้พิจารณาเห็นชอบแต่งตั้งตามที่มีการเสนอรายชื่อทั้ง 12 ราย ส่วนตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นตามที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ เสนอนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม เป็นอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร การถกกันในที่ประชุม ครม. ถือเป็นเรื่องปกติ ถือเป็นการแสดงความเห็นแต่มีมติไปแล้ว เมื่อถามว่าปกติแล้วมติ ครม.จะเป็นเอกฉันท์หรือไม่ เลขาธิการ ครม.กล่าวว่า การออกความเห็นได้หลายอย่าง แต่มติก็ต้องเป็นเอกฉันท์

“อู๊ดด้า” ฟุ้ง 3 ปัจจัย ปชป. ชนะ ลต.

เมื่อเวลา 09.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความมั่นใจนโยบายหาเสียงของพรรคที่จะชนะการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้น ว่า ขึ้นอยู่กับ 1.ความเป็นสถาบันทางการเมือง ที่มีหลักการชัดเจนในการนำประเทศไปสู่ความสำเร็จ และสามารถแก้ปัญหาทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองในอนาคตได้ 2.ตัวผู้สมัครที่พรรคได้เตรียมการไว้เกือบครบทั้งหมดแล้ว 3.นโยบาย ขณะนี้ได้เริ่มเปิดแคมเปญไปแล้วผ่านการรณรงค์ทางป้ายที่ติดอยู่ทั่วประเทศ โดยมีหลักใหญ่ที่เราจะเดินหน้าไปสู่ทิศทางในการสร้างเงิน สร้างคน และสร้างชาติ ซึ่งจะมีรายละเอียดอยู่ในนั้นและจะมีการประกาศต่อไป

เป้าปักษ์ใต้ 35-40 ต้องมากกว่า 22

เมื่อถามว่าปีใหม่นี้จะเดินในภาคใต้อย่างไร หลายพรรคตั้งความหวังจะชิงเก้าอี้ ส.ส. พรรค ปชป.ตั้งเป้าไว้เท่าไหร่ นายจุรินทร์กล่าวว่า เคยตอบหลายรอบแล้วมีผู้สมัครครบทั้งหมดแล้ว ทั้ง ส.ส.ปัจจุบัน อดีต ส.ส.และคนรุ่นใหม่มาร่วมจำนวนมาก ปักษ์ใต้มี 58 ที่นั่ง คราวที่แล้วเราได้ 22 ที่นั่ง ตั้งไว้ 35-40 มีความเป็นไปได้สูงจาก 58 เขต ยังมีพื้นที่เป็นการบ้านให้ทำอีกมากเกินกว่าครึ่งหนึ่ง แต่ไม่ได้กังวล เตรียมผู้สมัครพร้อมหมดแล้ว ลงพื้นที่ต่อเนื่อง ทั้ง ส.ส.และผู้สมัครรุ่นใหม่มาเป็นปีแล้ว พื้นที่ภาคใต้ ปชป.เตรียมพร้อมนานแล้ว ส.ส.ไหลออกความจริงมีแค่คนสองคนเท่านั้นแล้วพูดวนเวียนกัน ไม่ได้กังวลอะไร จัดคนสำรองไว้ชัดเจนอยู่แล้วไม่มีปัญหา คนส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดยังมั่นคงอยู่กับพรรค กรณี น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม จะย้ายไปพรรค รทสช. พรรคลำบากใจไม่ขอพูดถึงจะกระทบกันใครมั่นคงอยู่กับพรรค คนใหม่ๆพร้อมเข้ามาร่วมงานกับเรา ยังไม่มีอะไรกระทบเป้าหมายใหญ่

“สมคิด” เชื่อ “ลุงตู่” ลากยาวยุบสภาฯ มี.ค.

นายสมคิด เชื้อคง รองประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การเมืองปี 2566 ประชาชนจะพิสูจน์ว่า รัฐบาลชุดนี้จะได้ไปต่อหรือไม่คงต้องไปวัดกันในสนามเลือกตั้ง ผลออกมาอย่างไรทุกฝ่ายต้องยอมรับ เลือกตั้งจะทวีความเข้มข้นมากขึ้นและแข่งขันดุเดือด โดยเฉพาะพรรคที่สะสมกระสุนดินดำไว้เยอะ แต่ เชื่อว่าประชาชนรู้ดี 8 ปีที่ผ่านมารัฐบาลสร้างความลำบากให้แค่ไหน ประชาชนจะให้บทเรียน มั่นใจว่าพรรคฝ่ายค้านจะได้รับชัยชนะและหลังการเลือกตั้งไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ที่พรรคอันดับหนึ่งไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล เพราะประชาชนตาสว่างแล้ว การที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม จะมาสืบทอดอำนาจต่อไปประชาชนคงไม่ยอม ถึงเวลานี้เชื่อว่าจะลากอำนาจยาว เพื่อให้พรรค รทสช. แต่งตัวเสร็จ เพราะหากยุบเร็วจะไม่พร้อมคัดตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค เป็นไปได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะยุบสภาช่วงกลางเดือน มี.ค.66 รอให้บางพรรคดึง ส.ส.ต่างพรรคไปอยู่ภายใต้สังกัดเรื่อยๆ จนถึงวันสมัคร ส.ส.เชื่อว่าการย้ายพรรคยังมีเรื่อยๆ

แนะ ปชช.ต้องเลือกผู้บริหาร ศก.

น.ส.จุฑาพร เกตุราทร โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรค พท. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางรัก สาทร ปทุมวัน กล่าวว่า การส่งออกไทยเดือน พ.ย.หดตัวติดลบที่-6% ติดลบติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกอาจเข้า สู่ภาวะถดถอยได้จะทำให้เศรษฐกิจไทยอาจไม่ขยายตัวได้มากเท่าที่ควร หากยังเป็นผู้บริหารประเทศชุดเดิม เศรษฐกิจจะยิ่งทรุดลง การอ้างว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเร็วจนธนาคารโลกชม น่าจะไม่เป็นความจริงและเข้าใจผิด เพราะเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในแดนลบมา 3 ปีติดต่อกันแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ลงอีกได้ หากยังเป็นผู้บริหารประเทศชุดเดิม ผลการทำงานจะเป็นแบบเดิมๆไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้อยากขอให้ประชาชนเลือกทางออกที่ดีที่สุด เลือกพรรคที่บริหารเศรษฐกิจได้จริงและเคยทำสำเร็จมาแล้ว ให้มาบริหารประเทศโดยเร็ว ประชาชนจะได้หลุดพ้นจากความลำบากได้

จี้ ส.ว.โหวตนายกฯตามเสียง ปชช.

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ระบุไม่จำเป็นต้องรีบปิดสวิตช์ ส.ว. และการลงมติเลือกนายกฯครั้งหน้าจะเป็นไปตามดุลพินิจของ ส.ว.ว่าแสดงถึงการละเว้นไม่พูดถึงสาระสำคัญของปัญหา หาก ส.ว.อยากเห็นประเทศเดินหน้าตามวิถีประชาธิปไตยควรทำ 2 เรื่องคือ 1.ลงมติเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ พท.ยื่นแก้ไขยกเลิกมาตรา 272 ปิดสวิตช์ตนเองก่อนการเลือกตั้ง 2.ควรออกมาให้คำมั่นต่อสาธารณะโดยพร้อมเพรียงกัน หากแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทัน ส.ว.พร้อมจะลงมติสนับสนุนนายกฯ ที่ได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ ไม่แทรกแซง ไม่อนุญาตให้บุคคลหรือพรรคใดเอาเสียง ส.ว.ไปต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาล

แซะปลัด มท.ดูคลิป “ลุงตู่” เยอะไป

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิป นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประชุมตำหนิ จ.ภูเก็ต ด้วยถ้อยคำเชิงเสียดสีว่า ความคิดของปลัด มท. มีแต่การบั่นทอน ไม่สร้างสรรค์ ไม่แสดงถึงภาวะผู้นำ หรือแม้แต่การเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี ไม่ว่ามีอุปสรรคอะไรต้องแก้ไขให้ลุล่วงปักธงให้งานสำเร็จ ไม่ใช่เสียดสี ถืออำนาจ บาตรใหญ่จากส่วนกลาง ปลัดสุทธิพงษ์คงดูคลิปคุณประยุทธ์มาเยอะ เช่น ทุ่มโพเดียม ขว้างกล้วย ดังนั้น ที่สุดปลัดคนนี้คงอยู่รอด เพราะพฤติกรรมเป็นไปได้ว่าเลียนแบบเอาอย่างมาจากนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ยังนิ่งเฉยเลือกเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เมื่อเห็นว่าเลียนแบบมาจากคนที่ใหญ่กว่าเลยไม่กล้าแตะ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต พรรคก้าวไกล ทั้ง 3 เขต ได้แก่ นายสมชาติ เตชถาวรเจริญ เขต 1 นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล เขต 2 และนายเฉลิมพงศ์ แสงดี เขต 3 ได้ร่วมออกจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ รมว.มหาดไทย พิจารณาปลดปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้คนที่เหมาะสมมากกว่าเข้ามาทำหน้าที่