“บิ๊กตู่” อารมณ์ค้างเคืองฉายารัฐบาล หวดกลางวง ครม. เจออย่างนี้ใครจะไม่โมโห เรือแป๊ะโค้งท้ายโคลงเคลง พปชร.-ปชป.งัดข้อตั้งอธิบดีกรมฝนหลวง “จุรินทร์” ยันกำกับดูแล กษ.หารือ “ เสี่ยต่อ” เป็นอำนาจ รมว.กษ. เสนอชื่อ “สุพิศ พิทักษ์ธรรม” แต่ถูก รมช. “สุนทร” ทักท้วงทันควัน “บิ๊กป้อม” อ้างเป็นโควตาของ รมช.ค่าย พปชร.เอาคนอื่น “สันติ” โวยแบ่งงานแล้วต้องให้เกียรติ ไม่เช่นนั้นจะมี รมช.ไว้ทำไม “บิ๊กป๊อก” มาแปลกขัดขาพี่ใหญ่ เตือน ครม.สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรมาอ้างเรื่องโควตา “ธนกร” ตื๊อจีบสามมิตร เข้าร่วม รทสช. “สมศักดิ์” ติ๊ดชึ่งยังมีเวลา การันตี ไม่พลิกขั้ว รทสช.เปิดตัวสมาชิกใหม่หน้าเก่า “ชัช” ดันสุดลิ่มกาสิโนถูกกฎหมาย “เพื่อชาติ” ผุดศูนย์นโยบายมีชีวิต โชว์แนวทางแก้ปัญหาของจริงไม่มโน “ยงยุทธ” แซะ “ลุงตู่” ขึ้นแล้วไม่ยอมลง ต้นเหตุหมักหมมปัญหาของชาติ
ควันหลงจากการที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี 2565 จน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม แสดงอาการไม่พอใจระบุเป็นการดิสเครดิต ล่าสุดในที่ประชุม ครม.นายกฯยังคงหยิบเรื่องนี้กับ ครม.ขึ้นมาปรารภกับ ครม.ว่า ฉายาครั้งนี้เป็นใครโดนจะไม่โมโห
...
“บิ๊กตู่” ชูไทยศูนย์กลางแพทย์จีโนมิกส์
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนการประชุมที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า นายหวัง เจี้ยน ผู้ก่อตั้งและประธาน กลุ่มบริษัท BGI เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ โดยนายกฯกล่าวขอบคุณบริษัทที่สนับสนุนรัฐบาลรับมือสถานการณ์โควิด-19 ด้วยการบริจาคห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่หัว-เหยี่ยน เพื่อใช้ตรวจหาเชื้อ ทราบว่า ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท BGI ได้พบ กับกระทรวงสาธารณสุข หารือขยายความร่วมมือด้านการแพทย์และ EEC ความร่วมมือด้านการแพทย์ จีโนมิกส์ นายกฯยืนยันความพร้อมของไทยในการเป็นศูนย์การแพทย์จีโนมิกส์ของภูมิภาค หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะยกระดับความร่วมมือระหว่างกันได้ ขณะที่ ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท BGI ขอบคุณนายกฯ เชื่อมั่น ขณะที่ทั้งสองฝ่ายหวังหารือแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญ การศึกษา การฝึกอบรมบุคลากร เพื่อให้ คนรุ่นใหม่ก้าวทันเทคโนโลยี ถ่ายทอดเทคโนโลยีสมัยใหม่นำมาพัฒนาประเทศต่อไป
หน้านิ่งงดจ้อโยนสื่อฟังแถลง
ต่อมา เวลา 13.10 น. หลังประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ หลังผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และตำรวจ จะแถลงข่าวจับกุมนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ฐานเรียกรับเงินจากการโยกย้ายตำแหน่งจำนวนหลายราย กล่าวแค่ว่าให้ไปฟัง ผู้สื่อข่าวพยายามถาม ถึงกรณีนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือนอท CEO กองสลากพลัส ทุ่ม 67 ล้านบาทซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลอาเซียนคัพ ทั้งที่มีผลประกอบการปี 64 เพียง 9.3 ล้านบาท รวมทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ที่ยังไม่เข้า ครม. นายกฯไม่ตอบเช่นกัน ผู้สื่อข่าวถามย้ำจะไม่แถลงหน่อยหรือ นายกฯตอบว่าให้รอฟังแถลงโฆษกฯ เมื่อถามว่าดูเหมือนนายกฯ กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จะแข่งกันเองที่ตั้งพรรคทำการ เมือง พล.อ.ประยุทธ์ยังคงไม่ตอบ กลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ทันทีด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ฉุนไม่เลิกฉายาขยี้ใครจะไม่โมโห
รายงานข่าวจากที่ประชุม ครม.แจ้งว่าช่วงหนึ่ง ของการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ปรารภถึงนโยบาย หาเสียงของบางพรรคการเมืองว่า การจะหาเสียงอะไร ช่วยดูงบประมาณประเทศด้วย ใครเป็นนายกฯ หรือ รัฐบาลต่อปวดหัวแน่นอน ถ้าหาเสียงแบบนี้ ก็เข้าใจและอยากดูแลประชาชนเหมือนกัน แต่บางเรื่อง เช่น ล้างหนี้ ยกให้หมดจะเอาเงินมาจากไหน ส่วนการตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีปี 65 ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลตั้ง โดนกันหมด นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ยังโดนฉายา ลุ่มๆดอนๆ เจออย่างนี้ ใครจะไม่โมโห โดนหาว่าทำเอเปกสู้ครั้งก่อนไม่ได้ แต่เวลาตนไปต่างประเทศก็มีแต่คนชื่นชม
นำ “นริศ” เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในวัน พุธที่ 28 ธ.ค. เวลา 18.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม มีกำหนดนำนายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ครม.งัดข้อตั้งอธิบดีกรมฝนหลวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งที่ประชุม ครม.หารือถึงวาระการแต่งตั้งอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรตามที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอรายชื่อ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม เป็นอธิบดีกรมฝนหลวง โดยนายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรฯ ยกมือทักท้วงไม่เห็นด้วย นายกฯ ถามเลขาฯ ครม.ว่า ทักท้วงใน ที่ประชุมได้หรือไม่ เลขาฯ ครม.แจ้งว่าทำได้ จากนั้น ที่ประชุมผ่านการพิจารณาไปประชุมเรื่องอื่นต่อ กระทั่ง จบการประชุมวาระต่างๆแล้ว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือ อีกครั้ง ระบุว่า ตนกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ ได้ โทรศัพท์พูดคุยกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ที่ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม ยืนยันเสนอชื่อนายสุพิศ ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แย้งว่าตำแหน่ง อธิบดีกรมฝนหลวงฯ เป็นโควตาในกำกับของรัฐมนตรี พปชร.ได้ตกลงกับนายเฉลิมชัยแล้วว่าจะเป็นคนอื่น
“ป๊อก” ขัด “ป้อม” ไม่ควรยกโควตามาอ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทั่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ต้องออกความเห็นว่าในที่ ประชุม ครม.เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรยกเรื่องโควตาพรรคมาพูดกันและตามกฎหมายผู้มีอำนาจแต่งตั้งอธิบดีคือปลัดกระทรวงเกษตรฯ ทำให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง พูดสนับสนุน พล.อ.ประวิตรว่า เมื่อมีการแบ่งงานกันแล้วก็ควรให้เกียรติ รมช.ที่กำกับดูแลหน่วยงานต่างๆ ไม่เช่นนั้นจะมี รมช.ไว้ทำไม ขณะที่นายจุรินทร์ยังยืนยันหลักการเดิมว่า เป็นสิทธิของรัฐมนตรีว่าการในการแบ่งงานในกระทรวง จะมอบหมายให้ใครทำอะไร ทำให้นายกฯ ตัดบทว่าให้ ครม.ผ่านเรื่องดังกล่าวไปก่อนพร้อมกับตำแหน่งอื่นๆ ทั้ง 11 ตำแหน่ง เพราะระหว่างนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ หลังการประชุม พล.อ.ประวิตร เรียกเลขาฯ ครม.ไปคุยอยู่นาน โดยรัฐมนตรีหลายคน เข้าไปพูดคุยด้วย
“ประวิตร” เมินตอบประเด็นการเมือง
เมื่อเวลา 13.14 น. ภายหลังการประชุม ครม. สื่อมวลชนพยายามสอบถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร.ในประเด็นการเมืองต่างๆ ทั้งเรื่องฉายาที่สื่อมวลชนตั้งไว้ ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว. กลาโหม ประกาศร่วมงานกับพรรค รทสช.จะแข่งกัน ในสนามเลือกตั้งหรือไม่ แต่ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบ คำถาม รีบเดินแหวกสื่อมวลชนเพื่อขึ้นรถยนต์เดินทาง ออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที
“ชัยวุฒิ” ขอความเป็นธรรมให้ “ลุงตู่”
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงฉายาวันทอง 2 ป. ที่สื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลตั้งให้ประจำปี 65 ว่า ขอบคุณสื่อมวลชนตั้งฉายาให้รัฐบาลและรัฐมนตรีอย่างน้อยให้ข้อคิดว่า สิ่งที่ทำมาว่ามีจุดไหนที่สื่อมวลชน สนใจ ฝากสื่อมวลชนให้ข้อมูลข้อเท็จจริงตรงไปตรงมา ถูกต้องกับประชาชน ข่าวสารบางอย่างที่ประชาชนอาจไม่ได้รับทราบ ฉายา “แปดเปื้อน” ของนายกฯ มองว่าเหมือนเสื้อผ้าที่ใช้มานานหลายปี มีรอยเปื้อนบ้าง แต่รอยเปื้อนนี้ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจหรือความ ผิดพลาด การทำงานของนายกฯ และรัฐบาลมีข้อจำกัด บางอย่างอาจไม่ถูกใจประชาชน โดยเฉพาะปัญหาสินค้าแพงหรือน้ำมันแพงเป็นปัจจัยภายนอก นายกฯ และรัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเปื้อนจากความผิดพลาดหรือตั้งใจ นายกฯ ตั้งใจดี ทำเพื่อบ้านเมือง ให้ความเป็นธรรมนายกฯด้วย
2 ป.แยกพรรคไหว-ไม่ไหวอยู่ที่ ปชช.
นายชัยวุฒิกล่าวว่า ส่วนฉายาตนไม่มีปัญหาอะไร เป็นข้อเท็จจริง ทำงานให้พรรค พปชร.ให้กับ พล.อ.ประวิตร และทำงานให้กับรัฐบาล ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ เรารักและผูกพันกัน นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร รักกันเหมือนพี่เหมือนน้อง ทำงานด้วยกันมา ผูกพันกัน ตลอด ไม่คิดแบ่งแยกอะไร เมื่อถามว่า สุดท้ายต้องเลือก 1 ป.จะอยู่กับ ป.ไหน นายชัยวุฒิกล่าวว่า เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งไปว่ากันอีกที แต่ตอนนี้ถือว่ายังรักและผูกพันกันดีอยู่ เมื่อถามว่า แม้จะอยู่กับ พล.อ.ประวิตร แต่จะ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ในรัฐบาลหน้าใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ต้องสนับสนุนอยู่แล้ว เพราะทั้งสองท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือ เป็นคนดี มีจิตใจ ที่ดีกับพวกเราทุกคน เราต้องรักและสนับสนุนอยู่แล้ว
“วิษณุ” เฉยๆฉายาเครื่องจักรซักล้าง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงฉายา “เครื่องจักรซักล้าง” ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งให้ประจำปี 2565 ว่า “ไม่รู้สิ” เมื่อถามว่าถูกใจหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “เฉยๆ ชิน แต่เครื่องจักรมันเสีย ถอดปลั๊กไปแล้ว”
ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงฉายา “ลุ่มๆ ดอนๆ” ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งให้ประจำปี 2565 ว่า “ไม่ได้มองอะไร เอาชื่อไปประกอบก็คือเป็นเรื่องดี”
“อู๊ดด้า” ขอบคุณพีอาร์ประกันรายได้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีปัญหาอะไร ขอขอบคุณที่ช่วยประชาสัมพันธ์ เป็นปกติเราเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีปัญหาการรับฟังความเห็นทุกฝ่าย ประกันรายได้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ถึงเป็นที่มาของสโลแกนของพรรคที่บอกว่าทำได้ไว ทำได้จริง เพราะประสบผลสำเร็จในเวลาไม่ถึง 4-5 เดือน พอร่วมรัฐบาลปั๊บ จ่ายเงินส่วนต่างได้ ทั้งข้าว มัน ยาง ปาล์ม ข้าวโพดและพืชผลเกษตรตัวอื่น ผลไม้ปีหน้าจะดีอีก แล้วจะมีมาตรการเชิงรุกตั้งแต่ต้นมือเหมือนปีที่แล้ว ที่หลายฝ่ายกังวลผลไม้จะราคาตกส่งไปจีนไม่ได้ สุดท้ายเราเข้าไปแก้ปัญหาตั้งแต่ต้น กำหนดมาตรการเชิงรุกตั้งแต่ต้นประสบความสำเร็จ ปีนี้เหมือนกันมั่นใจ เมื่อถามว่ามีการวิจารณ์ว่าสื่อมวลชนตั้งฉายารัฐบาลเหมือนบูลลี่นักการเมือง นายจุรินทร์กล่าวว่า ปีหนึ่งให้โอกาสน้องๆสื่อสักครั้ง เขาจะได้มีความสุข จะบอกว่าเป็นกระจกบานหนึ่งก็เป็นได้ เพราะประเทศมีกระจกหลายบาน ไม่โกรธ จะไปโกรธทำไม
“ธนกร” ตื๊อจีบสามมิตรไปช่วยนายกฯ
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ตนและนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน คงยังไม่ไปเปิดตัวร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ ในวันที่ 28 ธ.ค.ตามที่มีกระแสข่าว เพราะขณะนี้เรายังเป็น ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐอยู่ แต่ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม อยู่ตรงไหนตนก็อยู่ตรงนั้น และหากมีโอกาสได้ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ในพรรคว่าจะมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบงานใด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้เพราะตนเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช และลงพื้นที่อยู่ตลอด ส่วนนายกฯ ขณะนี้ชัดเจนอยู่แล้ว เพียงแต่รอกระบวนการทางกฎหมาย ทั้งนี้ ได้ชวนกลุ่มสามมิตร ทั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมและนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ไปร่วมงานกับพรรค รทสช.หลายครั้ง อยากให้มาช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ เพราะตลอดเวลาที่ตนอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์มา ท่านเป็นผู้นำและนักบริหาร ที่ซื่อสัตย์สุจริต แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทั้ง 3 คน เพราะเป็นผู้ใหญ่ ต้องพิจารณาในทุกมิติ
“สมศักดิ์” วอนสื่ออย่าจี้ถามอนาคต
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนของกลุ่มสามมิตร หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหมประกาศอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ถือว่าข้อมูลเพียงพอสำหรับการตัดสินใจหรือยัง ว่า ข้อมูลมีเพิ่มขึ้นแล้วจะให้ตนตัดสินใจอย่างไร เพราะผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตนอยู่ด้วย และบริหารงานด้วยก็เป็นที่เคารพรักทั้งนั้น หากพูดอะไรไปอย่างหนึ่ง การทำงานที่เราทำอยู่ ก็อาจจะเกิดความอึดอัดใจ ฉะนั้นอย่าให้ตนพูดเลยว่าจะตัดสินใจอย่างไร มีแนวทางที่สามารถทำงานให้กับผู้ที่เลือก และสนับสนุนตนเข้ามาได้ เวลานี้ขอให้ได้ทำงานในหน้าที่รัฐมนตรียุติธรรม ขอร้องสื่อมวลชนว่าท่านอื่นท่านใดจะขยับหรือพูดว่ารักชอบใคร แต่ตนมีมาตรฐานของตัวเอง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องพูด เมื่อถามว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานหรือไม่นายสมศักดิ์กล่าวว่า เคยระบุแล้วว่าถ้ารัฐบาลอยู่ครบเทอม เส้นตายการขยับขยายคือวันที่ 7 ก.พ.ถือเป็นรถรางเที่ยวสุดท้าย แต่ตนไม่ได้ร้อนรนขนาดนั้น ยังมีเวลาอยู่ เมื่อถามย้ำว่าจะรอให้ถึงวันที่ 7 ก.พ. ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตอบไปชัดเจนแล้ว
การันตีไม่มีทางพลิกขั้ว
เมื่อถามว่านายสมศักดิ์ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม จะไปด้วยกันไม่มีทางแยกกันใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่ายังไม่ได้คุยกันอย่างเป็นทิศเป็นทางอันเดียวกัน ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปหรือไม่ไป เมื่อถามย้ำว่าแต่ถ้าไปจะไปด้วยกันใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่าไม่มีแต่ถึงเวลาค่อยตัดสินใจกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ เมื่อถามถึงนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯระบุได้จีบนายสมศักดิ์ ไปร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติกับ พล.อ.ประยุทธ์ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ต้องจีบตนหรอก เพราะรู้จักคนในรัฐบาลอยู่แล้ว เมื่อถามอีกว่าการตัดสินใจสุดท้ายมีโอกาสพลิกขั้วหรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า “ไม่มี”
พปชร.เปิดตัว 10 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 5 จังหวัด 10 คนคือ จ.สุราษฎร์ธานี ได้แก่ นายสุชาติ อินทรมณี เขต 1 นายธนโชติ ติณพันธ์ เขต 2 นายสุริญญา ยืนนาม เขต 3 นายณัฐวรันธร ทองคำ เขต 4 และนายมนู วณิชชานนท์ เขต 5 จ.หนองบัวลำภู นายทรงศักดิ์ ศิริสถิตย์ เขต 1 จ.ประจวบคีรีขันธ์ 2 คน นายณภัทร ชุ่มจิตตรี หรือคิงก่อนบ่าย เขต 1 และนายพิษณุ กล้าขาย เขต 2 จ.นครปฐม นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ เขต 2 จ.ปทุมธานี นายนพดล ลัดดาแย้ม นายสันติกล่าวว่าการเปิดตัวถือเป็นเครื่องยืนยันว่า พปชร.มีนโยบายเข้มแข็ง เหมือนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค มุ่งมั่นพัฒนาบ้านเมืองให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เป็นแกนนำพัฒนาประเทศ ด้านนายไพบูลย์กล่าวว่า เรามุ่งมั่นหลังเลือกตั้งปี 66 จะมีนายกฯคนที่ 30 เป็นของ พปชร.เพราะมีทั้งบารมี ความสามารถ เป็นผู้ใหญ่ใจดี เป็นที่ยอมรับของทุกพรรคและ ส.ว. ที่สำคัญห่วงใยประชาชน ไม่ขัดแย้งกับใคร มีแต่ความรักความเมตตา
รทสช.เปิดตัว “ไตรรงค์-ชัช-ชุมพล”
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซอยอารีย์ 5 มีการเปิดตัว 3 สมาชิกวีไอพีของพรรค คือ 1.นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 2.นายชุมพล กาญจนะ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรค ปชป. 7 สมัย และ 3.นายชัชวาลล์ คงอุดม หรือชัช เตาปูน อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคพลังท้องถิ่นไท โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช.สวมเสื้อสัญลักษณ์พรรคให้ ก่อนกล่าวต้อนรับว่า คณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคและเพื่อนๆน้องๆดีใจ และเป็นเกียรติยิ่งที่ผู้อาวุโสทางการเมืองที่มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์มาร่วมงานกับพรรคเพื่อประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง และเป็นพี่เลี้ยงให้กับพวกเรา
“สามสี” เปรยต้องการหายใจเอง
นายไตรรงค์กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น หลังลาออกจากพรรค ปชป.ใครๆก็ต้องการมีลมหายใจของตัวเอง ไม่ต้องเกรงใจใคร นายกฯตั้งเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ยินดีที่นายกฯขอให้มาเป็นที่ปรึกษาฯ แต่ไม่ขอรับเงินเดือน ไม่อยากตกเป็นขี้ปากคน ขอใช้เงินส่วนตัว ไม่อยากมานั่งโต้เถียงเรื่องไร้สาระ ได้พูดคุยกับนายกฯมีความเห็นตรงกันหลายเรื่อง สงสารนายกฯไม่รู้จะระบายกับใคร นายกฯมีแต่เรื่องของประชาชนและประเทศชาติ ทุกข์ของนายกฯกับตนมี 3 เรื่องคือ 1.ต้องปัดกวาดทุจริตคอร์รัปชันทุกวงการที่มีเพิ่มมากกว่าในอดีต ทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น ตอนนี้เก็บ 40-50% ต้องแก้ไขกฎหมาย เช่น เรื่องตู้ห่าวชนตอหรือไม่ จะจบอย่างไร 2.ต้องแก้ปัญหาความยากจน 3.ต้องดูแลบ้านเมืองให้เกิดความสงบ ปฏิรูปการศึกษาให้เด็กรุ่นใหม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ไม่ให้ซุปเปอร์เพาเวอร์มาปั่นหัวเด็ก ต้องทำภายใน 2-3 ปี นายกฯอยู่ได้อีก 2 ปีต้องเร่งทำ ผลักดันนโยบายแก้ปัญหา เพราะปัจจุบันมีปัญหาความไม่สะอาด ความไม่สว่างและความไม่สงบ เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯครั้งนี้ไม่ต้องเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้วต้องปราบทุจริตคอร์รัปชัน
“ชัช” ดันสุดลิ่มบ่อนกาสิโนถูก ก.ม.
ด้านนายชัชวาลล์ คงอุดม กล่าวว่า เหตุผลที่ย้ายพรรค เพราะต้องการทำนโยบายให้เด็กเรียนหนังสือฟรีจนถึง ดร. เพื่อที่จะต้องการผลักดันนโยบายให้นำไปสู่การปฏิบัติ ควรจะต้องมาจับสัมผัส จึงต้องมารวมกับพรรค รทสช.รวมถึงนโยบายเรื่องการทำบ่อนกาสิโนให้ถูกกฎหมาย แก้ปัญหาความยากจนให้ประชาชนกินดีอยู่ดี
ขณะที่นายชุมพลกล่าวว่า เป็น ส.ส.มาหลายสมัยเห็นสัจธรรม ชื่นชอบนายกฯติดตามดูนายกฯคนนี้มาหลายปีแล้ว ท่ามกลางวิกฤติบ้านเมืองจนไม่เหลืออะไร นายกฯคนนี้เข้ามากอบกู้ไปได้มากพอสมควร งานที่คั่งค้างอยู่หลายอย่างมั่นใจว่านายกฯจะทำสำเร็จ น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส. สุราษฎร์ธานี เขต 3 พรรค ปชป.จะตามมา รทสช.หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ให้เขาพูดเองดีกว่า ส่วนนายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี แกนนำพรรค รทสช.ที่เคยเป็นคู่แข่งกัน ไม่มีปัญหา ผู้ใหญ่พาไปทานข้าวที่บ้านตนแล้ว ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ใจ
“ณัฐชา” แซะฉายาแปดเปื้อนน้อยไป
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงฉายาแปดเปื้อนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ว่า ยังน้อยไป ตลอดเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯประเทศไทยและประชาชนต้องตกอยู่ในสถานการณ์มืดแปดด้าน กรุณาละอายใจต่อเสียงสะท้อนของสังคม ตลอด 8 ปี แทบนึกไม่ออกว่าผลงานที่ช่วยทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้นคืออะไร นอกจากพวกคุณจะไม่ได้ เป็นคนดีจริงตามที่ชอบอ้าง แต่สวมหน้ากากคนดีปิดยังไงก็ปิดไม่มิด ยังหน้าด้านหน้าทนหวงอำนาจ เลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนจะให้บทเรียน
ยืนกรานไม่จับมือพรรคร่างทรงทหาร
นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรค ก.ก. กล่าวถึงกรณี น.ส.ลักขณา ปันวิชัย หรือแขก คำผกา พิธีกร วอยซ์ทีวี วิเคราะห์ขั้วการเมืองถึงความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทย ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ และก้าวไกล จับมือตั้งรัฐบาลเลือกตั้งปี 66 เพื่อล้ม พล.อ.ประยุทธ์ว่า ก้าวไกลไม่มีวันจับมือกับพรรคที่สืบทอดอำนาจเผด็จการทหาร ไม่ว่าจะเป็น พปชร.หรือ รทสช.ก้าวไกลย้ำจุดยืนว่า ปัญหาของประชาธิปไตยในประเทศไทยไม่ใช่แค่เมื่อเผด็จการทหารคืนอำนาจให้เลือกตั้งแล้วจบ แต่ระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยดำรงอยู่ได้ด้วยการสร้างเครือข่ายสืบทอดอำนาจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ และพรรค การเมืองร่างทรงทหาร การจับมือกับพรรคเหล่านี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลไกสืบทอดอำนาจทหาร พรรคก้าวไกลไม่สามารถเล่นละครหลอกประชาชนแบบนั้นได้
“เพื่อชาติ” ตั้งศูนย์โชว์นโยบายมีชีวิต
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 12 กรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคเพื่อชาติ พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ รองหัวหน้าพรรค พล.ต.สุวิทย์ วังยาว รองหัวหน้าพรรค ร.อ.จารุพล เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรค และ นพ.วิชัย ทวีปวรเดช โฆษกพรรค ร่วมจัดกิจกรรมทาสี-เทปูนจุดจัดสร้างศูนย์นโยบายมีชีวิต (Live Policy) ของพรรค มีนายยงยุทธ ติยะไพรัช วิทยากรพิเศษพรรคเพื่อชาติ เข้าร่วม โดยนายยงยุทธเปิดเผยขณะนำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมสถานที่จัดสร้างศูนย์นโยบายมีชีวิตว่า จะใช้สำหรับนำเสนอนโยบายของพรรคเพื่อชาติด้านต่างๆ เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาของประเทศทั้งด้านสิ่งแวดล้อมความมั่นคง กระบวนการยุติธรรม การศึกษา ตลอดจนนโยบายการแก้ไขความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกันในสังคม ถือเป็นปัจจัยหลักของทุกมิติปัญหาของประเทศไทย จะนำเสนอในรูปแบบนิทรรศการมีชีวิต เพื่อให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้สัมผัสตั้งแต่ปัญหาด้านต่างๆไปจนถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง กรอบนโยบายต่างๆของพรรค พช.จัดทำแล้วเสร็จ ได้มีโอกาสไปนำเสนอกับพี่น้องประชาชนหลายจังหวัดมาตลอด 1-2 เดือนที่ผ่านมา นโยบายพรรคพช.จะไม่ใช่กระดาษแผ่นเดียว แต่จะทำให้เห็นและสัมผัสเป็นตัวอย่างว่าทำได้จริง ศูนย์แห่งนี้จะเปิดให้ผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมได้ช่วงเดือน ม.ค.66
ซัด “บิ๊กตู่” ขึ้นแล้วไม่ลงหมักหมมปัญหา
เมื่อถามถึงแนวทางเตรียมพร้อมเลือกตั้งของพรรค นายยงยุทธกล่าวว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรคดำเนินการ ตนเป็นเพียงกองเชียร์หรือนั่งร้านสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ ทั้งส่วนที่อายุน้อยและอายุมาก แต่มีประสบการณ์ด้านต่างๆ สนใจทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองร่วมนำเสนอนโยบายดีๆ ให้ประเทศและประชาชน กรอบนโยบายต่างๆทำงานร่วมกันของคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรค ทั้งในส่วนกลางและระดับพื้นที่ ที่ผ่านมามีโอกาสไปทำหน้าที่วิทยากรพิเศษระหว่างที่คณะกรรมการบริหารพรรค พช.ลงพื้นที่ เพื่อร่วมนำเสนอชุดนโยบายของพรรคในหลายจังหวัด ส่วนความพร้อมด้านผู้สมัคร ส.ส. พรรคตั้งใจจะส่งผู้สมัครให้ครบทุกเขต ถึงแม้วันนี้บางพรรคจะมีเครื่องดูด ขณะที่พรรค พช.ไม่มี คงต้องปล่อยให้ดูดกันไป แต่เครื่องที่ดูดไปพี่น้องประชาชนไม่ได้เข้าไปด้วย พรรค พช. จะใช้นโยบายเป็นเครื่องดูดประชาชน แสดงให้เห็นว่าพรรค พช.ยืนเคียงข้างประชาชนอยู่ เราไม่ยอมเข้าเครื่องดูดเด็ดขาด เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ประกาศไปร่วมงานกับพรรค รทสช. นายยงยุทธกล่าวว่า เป็นเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นแล้วไม่ยอมลง จึงเป็นปัญหาของประเทศ ที่ผ่านมา 8 ปีน่าจะพิสูจน์ได้แล้วว่าเป็นประโยชน์หรือไม่ ควรให้คนอื่นเข้ามาเป็นแทน จะเป็นทางออกที่ดีกว่า ส่วนกรณีระบุว่าจะทำหน้าที่อีก 2 ปีเพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ หากอนุญาตให้อยู่ได้ตลอดไป อาจอยากอยู่ตลอดไป
“สุดารัตน์” ปั้นเครือข่ายบำนาญ ปชช.
ที่ จ.ร้อยเอ็ด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พร้อมนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรค นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานยุทธศาสตร์บริหารพื้นที่และผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสานกว่า 100 คนร่วมสัมมนา “กลยุทธ์สู่ชัยชนะในการเลือกตั้งที่จะมาถึง” โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ภาคอีสานใหญ่ที่สุด ประชากรมากที่สุด พี่น้องขยันทำมาหากินที่สุด อดทน ซื่อสัตย์ที่สุด แต่กลับยากจนขาดโอกาส ทสท.มีนโยบายจะทำเพื่อคนตัวเล็ก มอบแนวทางภารกิจแก่ผู้สมัครในภาคอีสาน โดยเฉพาะการสร้างเครือข่ายบำนาญประชาชน ล่าสุดมีประชาชนสนใจร่วมลงชื่อเป็นเครือข่ายบำนาญประชาชนกับพรรคต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน มีผู้สนใจสมัครแล้วกว่า 1,500,000 คนจากเป้าหมาย 5 ล้านคนก่อนเลือกตั้ง
“เสี่ยอี๊ด” มั่นใจคนอีสานหนุนหลัง
ด้านนายสิทธิชัยระบุว่า พรรคไทยสร้างไทย เป็นพรรคของคนอีสานอย่างแท้จริง พี่น้องคนอีสานมีความรักและศรัทธาในคุณหญิงสุดารัตน์ มั่นใจว่าพรรค ทสท.จะได้รับความไว้วางใจ ปักธงในภาคอีสานได้จำนวนมาก โดยเฉพาะนโยบายพรรค ทสท.มาจากการเล็งเห็นปัญหาของพี่น้องชาวอีสาน และเป็นสิ่งที่อยู่ในหัวใจของคุณหญิงสุดารัตน์ ในฐานะลูกอีสาน คือพี่น้องชาวอีสานยังยากจน ขาดโอกาสแม้จะทำงานหนัก ดังนั้นพวกเราทุกคนจะต้องช่วยกันผลักดันนโยบายเพื่อคืนโอกาสให้พี่น้องชาวอีสาน ให้มีรายได้อย่างยั่งยืนภายในสามปีให้ได้
ร้อง กกต.สอบ “อุ๊งอิ๊ง” บินพบพ่อ
เมื่อเวลา 10.45 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาฯ เข้ายื่นคำร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไต่สวน วินิจฉัยและพิจารณาในเบื้องต้น กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ฮ่องกง ตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 44, 45, 28, 29 รวมถึงยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองตามมาตรา 92 (3) (4)
ครม.แต่งตั้ง “ธนกร” นั่ง กก.ป.ย.ป.
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (สำนักงาน ป.ย.ป.) เสนอแต่งตั้งนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.65 เป็นต้นไป
อีสานชู “ชัชชาติ” นักการเมืองแห่งปี
วันเดียวกัน นายสุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการสำรวจอีสานโพล ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ขอนแก่น (มข.) เผยผลสำรวจเรื่อง “รางวัลแห่งปีของคนอีสาน ปี 2565” ระหว่างวันที่ 28 ก.ค.-2 ส.ค.65 และระหว่างวันที่ 22-25 ธ.ค.65 จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 2,227 ราย ในพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด โดยพบว่าคะแนนสูงสุด 3 อันดับแรกของนักการเมืองแห่งปี คือนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ร้อยละ 21.5 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 16.9 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 11.3 รายชื่ออื่นๆ ร้อยละ 39.6 ยังไม่มีผู้เหมาะสม ร้อยละ 10.5 ส่วนอันดับ 4 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อันดับ 5 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อันดับ 6 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นอกจากนี้ผลสำรวจต่อหนังสือพิมพ์/เว็บไซต์ข่าวแห่งปี พบว่า ไทยรัฐร้อยละ 22.3 มติชน ร้อยละ 11.2 เดลินิวส์ร้อยละ 8.9 ฉบับอื่นๆร้อยละ 51.3