งูเห่าโผล่สลอน แห่สมัครเข้าภูมิใจไทยเกือบ 40 คน “เสี่ยหนู” ขนแกนนำต้อนรับ แขวะนายใหญ่ไม่ชอบแลนด์สไลด์ ชอบตอกเสาเข็มมั่นคงกว่า ดึง “เพลง ชนม์ทิดา” ลงปาร์ตี้ลิสต์ “ปารีณา” ส่งพี่ชายลงรักษาฐานเดิม “อันวาร์” ทิ้งบอมบ์ก่อนจาก ปชป. อ้างอุดมการณ์แต่ไม่ทำ “ราเมศ” โต้เดือดอย่าเผาบ้านเก่า “กนก วงษ์ตระหง่าน” จ่อซบปลาไหล “บิ๊กตู่” โยกสลับเก้าอี้ “ดิสทัต-พีระพันธุ์” ให้ “ดิสทัต” นั่งที่ปรึกษาฯ ตั้ง “พีระพันธุ์” เลขาฯนายกฯ รับศึกเลือกตั้งใหญ่ “ชวน” แจ้งยอด ส.ส.เหลือ 439 คน “ชูศักดิ์” อัดงูเห่าคิดถึงแต่ตัวเอง ห่วงประชาชนหมดศรัทธา พท.เลื่อนกิจกรรมสมุทรสาคร รุมจวก “บิ๊กตู่” ปัดสวะหนีสภาล่ม ไม่ท้อชงแก้ รธน.159 โละ ม.272 เพิ่มช่องทางเลือกนายกฯจาก ส.ส.ได้
กลุ่ม ส.ส.งูเห่าจากหลากหลายพรรคการเมืองพรึ่บพรั่บ แห่สมัครเข้าพรรคภูมิใจไทยคึกคักเกือบ 40 คน ขณะที่นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ยื่นใบลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปเข้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมทิ้งบอมบ์ก่อนจาก ฝากถึงผู้บริหารพรรคให้เลิกโกหกบิดเบือน ต้องยืนอยู่บนความเป็นจริง
...
ภท.คึกคักเปิดรับสมาชิกใหม่
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่พรรคภูมิใจไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีการเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่เข้าพรรคภูมิใจไทย ถือเป็นการจัดงานใหญ่ครั้งแรกหลังปรับปรุงอาคารที่ทำการพรรคใหม่ทั้งหลัง รวมถึงปรับปรุงห้องกรรมการบริหารพรรค ห้องพักสมาชิก ห้องแถลงข่าว และห้องสื่อมวลชน นอกจากนี้ยังมีการนำต้นกัญชาต้นใหญ่มาประดับที่บริเวณลานจอดรถหน้าเสาธง รวมถึงภายในตัวอาคาร จากนั้นเวลา 13.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรค พร้อมแกนนำพรรค ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งสวมเสื้อแจ็กเกตต้อนรับสมาชิกพรรคใหม่ กลุ่มอดีต ส.ส.ที่ย้ายมาจากพรรคการเมืองต่างๆ อาทิ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล เกือบ 40 คน ต่อด้วยการประชุม ส.ส.ประจำสัปดาห์ ที่คาดว่าจะมีการแนะนำตัวสมาชิกใหม่ รวมไปถึงการวางนโยบายวางกลยุทธ์ทั้งในระดับพื้นที่และภาพรวมทั้งประเทศ เพื่อเตรียมรับมือสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ที่ใกล้จะมาถึง
งูเห่าโผล่สลอนมารอตั้งแต่เช้า
ตั้งแต่ช่วงเช้า อดีต ส.ส.ที่มีชื่อจะมาร่วมงานกับภูมิใจไทย เริ่มทยอยเข้าพรรค อาทิ นายจักรพันธ์ พรนิมิตร นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ นายอนุชา น้อยวงศ์ จากพรรคพลังประชารัฐ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ จากพรรคพลัง นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ จากพรรคเศรษฐกิจไทย นายเอกภาพ เพียรวิเศษ นายคารม พลพรกลาง นายเกษมสันต์ มีทิพย์ จากพรรคก้าวไกล นายนิยม ช่างพินิจ นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น จากพรรคเพื่อไทย นางนันทนา สงฆ์ประชา จากพรรคประชาภิวัฒน์ เป็นต้น นอกจากนี้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรค พปชร. นำนายสีหเดช ไกรคุปต์ พี่ชาย มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค รวมถึง น.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรค พปชร. นำดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดี ยืนยันจะลาออกจาก พปชร. พร้อมกับ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. พปชร. เพื่อมาร่วมงานกับภูมิใจไทยเช่นกัน
“ปารีณา” ส่งพี่ชายลงพื้นที่เดิม
น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรค พปชร. กล่าวว่า มาเป็นเพื่อนพี่ชาย ที่ตัดสินใจมาร่วมงานกับภูมิใจไทยเอง ทั้งนี้ พี่ชายจะลงสมัครในเขตพื้นที่เดิมของตน มั่นใจ 100 ล้านเปอร์เซ็นต์ เมื่อถามว่าจะช่วยนายสีหเดชหาเสียงหรือไม่ น.ส.ปารีณาตอบว่า จะไม่ช่วยหาเสียง แค่ไปเป็นเพื่อนเวลาพี่ชายออกหาเสียง หรือไปเจอกันตามงานต่างๆบ้าง เพราะเป็นอดีต ส.ส.ในพื้นที่ เมื่อถามว่าน้อยใจพรรคพปชร.หรือไม่ที่ส่งคนอื่นลงแทน ไม่เลือกนายสีหเดช น.ส.ปารีณาตอบว่า ยังคงรัก “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคที่สุดใน 3 โลก ทุกวันนี้ยังไปหาท่านอยู่ เมตตาให้พบเสมอ ก่อนมานี่ พล.อ.ประวิตรทราบและรู้ทุกอย่าง
แบไต๋ “พุทธิพงษ์” ต่อคิวมาติดๆ
นายจักรพันธ์ พรนิมิตร อดีต ส.ส.กทม. พรรค พปชร. กล่าวว่า กลุ่ม ส.ส.กทม.เข้าไปกราบลาพล.อ.ประวิตรท่านเข้าใจ ส่วนตัวยังเคารพเสมอ ท่านแยกแยะเรื่องการทำงานกับเรื่องส่วนตัวได้ แต่ในฐานะ ส.ส.กทม. เรามีโจทย์ทำงาน 4 ปี นายอนุทินพิสูจน์ให้เห็นถึงผลงานเป็นกำลังสำคัญให้รัฐบาล ขณะที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต กก.บห.พปชร. จะมาร่วมงานกับภูมิใจไทยเร็วๆนี้ รวมถึง ส.ส.กทม.คนอื่นด้วย
แซะนายใหญ่ไม่ชอบแลนด์สไลด์
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า พยายามนัดมาสมัครพร้อมกัน ให้เห็นถึงความมั่นใจในนโยบายพรรค ที่เปิดตัววันนี้ถือฤกษ์สะดวก เมื่อถามว่า ส.ส.ลาออกจำนวนมากนี้ เป็นการกดดันให้นายกฯ ยุบสภาหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่เคยกดดันใคร ภูมิใจไทยว่านอนสอนง่าย รู้ว่าอะไรควรไม่ควร วันนี้ที่พร้อมใจกันมาสมัครเป็นความเต็มใจของทุกฝ่าย ไม่มีนัยทางการเมือง เมื่อถามว่าจะเป็นพรรคใหญ่เลยหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า เราเป็นมานานแล้ว เลือกตั้งครั้งนี้ส่งครบทุกเขต มั่นใจทุกคน เราใช้คำว่าตอกเสาเข็ม อยู่อย่างมั่นคง ไม่ใช่แลนด์สไลด์ เพราะไม่มั่นคงไม่มีเสาเข็ม เราจะตอกไปเรื่อยๆ ชอบตอกเสาเข็ม “สำหรับ พล.อ.ประวิตรท่านเมตตาพวกเราเสมอ โดยเฉพาะเลขาธิการพรรค (นายศักดิ์สยาม) ที่เป็นหลานเลิฟ”
ส่ง “เพลง อัศวเหม” ลงปาร์ตี้ลิสต์
นายอนุทินยังกล่าวถึงการสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยของ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม บุตรสาวนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าสมุทรปราการ แกนนำกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า และ น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการว่า น.ส.ชนม์ทิดา จะลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องติดตามตนลงพื้นที่ทั่วประเทศ เมื่อถามว่าต่อไปจะดีลกลุ่มสมุทรปราการร่วมงานหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่มีการคุยหรือดีลอะไรทั้งสิ้น น.ส.ชนม์ทิดาเปรียบเสมือนลูกสาวตนคนหนึ่ง สนใจทำงานรับใช้ชาติบ้านเมือง ทุกวันนี้ก็ช่วย น.ส.นันทิดาทำงาน
“อันวาร์” ทิ้งบอมบ์ก่อนจาก ปชป.
ด้านนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้ทำหนังสือขอลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ส่งถึงนายทะเบียนพรรค เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. เป็นต้นไป เป็นการลาออกจากพรรคที่รักและศรัทธาในอุดมการณ์ เข้าพรรคมาตั้งแต่ปี 2548 รวมเวลา 17 ปี หลังขอประชามติจากพี่น้องประชาชนชาวปัตตานี เขต 1 เห็นพ้องว่าพรรคที่จะไปสังกัดใหม่คือพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ต้องแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้ การลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ส่งผลให้ขาดจากการ เป็น ส.ส.ในสภาฯไปด้วย วันที่ 19 ธ.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ติดตามการแก้ไขปัญหาของคนในพื้นที่ด้วย
ฉะอ้างอุดมการณ์แต่ไม่ทำ
สำหรับหนังสือลาออกของนายอันวาร์ มีสาระสรุปใจความได้ว่า หลังเลือกตั้งปี 2562 พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้จากที่เคยมี ส.ส. 161 คน ได้มาเพียง 52 คน ตนเป็นรองเลขาธิการพรรค จึงเสนอแก้ไขปรับปรุงพรรคด้วยวิธีทำสิ่งถูกให้เป็นถูก สิ่งผิดให้เป็นผิด แต่นำเสนอต่อผู้บริหารพรรคไปแล้วก็ไม่เป็นผล จึงทำเป็นบันทึกเตือนว่าหากไม่สนใจแก้ไขจะมีสมาชิกทยอยลาออก ที่สุดก็เป็นความจริง คือมีสมาชิกพรรคลาออกไปแล้วกว่า 30 คน เคยถูกผู้ทรงอิทธิพลในพรรคขู่ไม่ส่งลงสมัคร ส.ส. อ้างผลโพลว่าตนจะแพ้ แต่สุดท้ายชนะเลือกตั้งเป็น ส.ส.ติดต่อกันถึง 4 สมัย การลาออกครั้งนี้ยังยึดเหตุผลเดิม พรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนเดิม อุดมการณ์เดิมต้องทำจริง ไม่ใช่ดีแต่พูด ล่าสุดมีข่าวการล่ารายชื่อเพื่อปลดผู้บริหารพรรค ยิ่งทำให้พรรคเสียหายมาก
“ราเมศ” โต้อย่าป้ายสีบ้านเกิด
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้นายอันวาร์ สาและ ว่า เป็นข้อมูลบิดเบือนที่ทำให้พรรคเสียหาย คนมีวุฒิภาวะไม่ทำกัน การลาออกเป็นการตัดสินใจส่วนตัว แต่ไม่ควรทำร้ายบ้านเกิดที่เคยใช้อาศัย สิ่งนี้จะทำให้ประชาชนตัดสินได้ว่า ลูกที่ด่าพ่อแม่ตัวเอง ดีหรือไม่ดี สิ่งที่นายอันวาร์ทำควรหรือไม่ การอ้างว่าที่ทำไปเพื่อเสนอแนวทางการแก้ไขปรับปรุงพรรคด้วยวิธีคิด ทำในสิ่งถูกให้เป็นถูก ผิดให้เป็นผิดนั้น เป็นเพียงประโยคที่ดูดีเท่านั้น เพราะพรรคยึดหลักการนี้มาตลอด สิ่งที่สำคัญคือสมาชิกพรรคต้องมีวินัย ซื่อสัตย์ต่อองค์กร ดังคำพูดนายชวน หลีกภัย ที่ขอร้องสมาชิกทุกคนว่า หากไม่ทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับพรรค ก็อย่าเป็นตัวถ่วงพรรค เพราะแต่ละคนก็ได้ประโยชน์จากการเป็นสมาชิกพรรคทั้งนั้น
11 ศท.รอเวลาย้ายกลับ พปชร.
นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวว่า ยื่นสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค พปชร.แล้ว พร้อม พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจไทย ให้มีผลวันที่ 16 ธ.ค. หลังจากนี้จะเป็น ส.ส.พรรค พปชร. เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ได้เข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร. ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด การย้ายกลับพรรค พปชร.เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย เพราะถูกพรรคเศรษฐกิจไทยมีมติให้ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ด้วยเหตุผลว่าตนและ พล.ต.อ.ยงยุทธไม่มีเจตนาจะร่วมงานการเมืองกับพรรคเศรษฐกิจไทย เพราะเห็นว่าด้วยกติกาการเลือกตั้งใหม่ พรรคขนาดกลางและขนาดเล็ก ขับเคลื่อนงานการเมืองลำบากมากในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน พรรคเศรษฐกิจไทยจึงควรยุบ เชื่อว่า ส.ส.อีก 11 คน มีความเป็นไปได้ที่จะมาร่วมงานกับพรรค พปชร. รอสถานการณ์การเมือง 3 แนวทาง คือ 1.ลาออกจาก ส.ส. 2.ยุบพรรค และ 3.รอให้ยุบสภาแล้วค่อยไปสังกัดพรรคใหม่
“กนก” เล็งเปิดตัวซบปลาไหล
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ว่า หลังนายกนก วงษ์ตระหง่าน ยื่นลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์แล้ว คนใกล้ชิดนายกนกเปิดเผยว่า ต้องการไปทำงานด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกับพรรคชาติไทยพัฒนา จะมีการแถลงเปิดตัวที่พรรค ชทพ. ในวันที่ 19 ธ.ค. เวลา 11.00 น. โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้การต้อนรับด้วยตัวเอง
“ตู่” สลับเก้าอี้ “ดิสทัต–พีระพันธุ์”
นายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลงนามแต่งตั้งนายดิสทัต โหตระกิตย์ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เนื่องจากนายดิสทัต ได้ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นายกฯจึงแต่งตั้งนายดิสทัตเพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษา พิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆ ตามที่นายกฯมอบหมาย มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดิสทัตได้ขนย้ายเครื่องใช้ส่วนตัวออกจากห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า มาห้องทำงานตึกบัญชาการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ จะแต่งตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามที่มีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้
“วิษณุ” เตือนระวังแง่กฎหมาย
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. วันที่ 20 ธ.ค.เพื่อแต่งตั้งนายพีระพันธุ์ ยืนยันเป็นความประสงค์ของนายดิสทัตที่ลาออกเอง ไม่มีใครสั่งให้ออก เมื่อถามว่าการตั้งหัวหน้าพรรคการเมืองมาเป็นเลขาธิการนายกฯ อาจถูกมองหวังผลทางการเมือง นายวิษณุตอบว่า ไม่เป็นไร นายกฯทุกคนต่างตั้งคนของพรรคมาเป็นเลขาธิการนายกฯ หน้าที่คนละอย่างกับรัฐมนตรี ต้องทำงานหลายอย่าง ดูงบลับ ให้นายกฯ ประสานกับสภาฯ ประสานกับมวลชน ประสานงานต่างประเทศ หมวกหัวหน้าพรรคที่มาเป็นเลขาธิการนายกฯ ไม่มีอะไรต้องระวัง แต่ถ้านายพีระพันธุ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ตรงนั้นมีบทบาทที่ต้องระมัดระวัง
“ชวน” แจ้งยอด ส.ส.เหลือ 439 คน
ช่วงสายที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ ประธานการประชุม แจ้งต่อที่ประชุมว่า มี ส.ส.ลงชื่อร่วมเป็นองค์ประชุมไม่ครบ ขาดอีก 12 คน ทำให้นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นท้วงติงว่า บรรยากาศขณะนี้ไม่สง่า นายกฯให้สัมภาษณ์โยนภาระให้สภาฯว่าเล่นการเมือง นายชวนจึงกล่าวว่า อย่าไปกังวลกับเหตุการณ์ภายนอก ขอให้เราที่อยู่ทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ที่สุดนาทีสุดท้าย ถ้าเรารักศักดิ์ศรีสภาเราต้องทำหน้าที่ จากนั้น นายชวนแจ้งต่อที่ประชุมว่ารับทราบเรื่องการสิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส. อีก 2 คน คือ นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี และ พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายกนก วงษ์ตระ หง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 3 คนมีหนังสือลาออกวันที่ 16 ธ.ค. ทำให้ปัจจุบันมี ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่ได้ 439 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่งอยู่ที่ 220 คน
“ชูศักดิ์” อัดงูเห่าคิดถึงแต่ตัวเอง
ขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ส.ส.ลาออก และย้ายพรรคพร้อมกันจำนวนมากว่า ที่ผ่านมาการย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติ แต่ส่วนใหญ่มักเกิดหลัง ยุบสภา หรือสภาหมดอายุ และเป็นรายคน มิใช่เป็นแบบกระบวนการ กรณีที่เกิดขึ้นนี้ดูจะชัดเจนว่าลาออก เพื่อไปสังกัดพรรคใหม่ เป็นไปตามคำสั่งของพรรคที่จะย้ายไป เพื่อกันปัญหาการเป็นสมาชิกพรรค 90 วัน และเพื่อความชัวร์ว่ามาแน่ การลาออกและย้ายพรรคกันเป็นลอต 30-40 คน ชัดเจนว่าเกิดจากการวางแผนกันมา โดยไม่สนใจว่ายังมีภารกิจในฐานะตัวแทน ประชาชนที่ต้องทำอยู่หรือไม่ ไม่สนใจว่าประชาชนเลือกให้มาทำหน้าที่ในสภา มีระยะเวลา 4 ปี
หวั่นประชาชนหมดศรัทธา
“เป็นส่วนหนึ่งในการสอบสวนทางวินัยจรรยาบรรณ ส.ส.หลายคน บอกอย่างตรงไปตรงมาว่าที่มาที่ไปคือได้ผลประโยชน์ ได้โครงการ ได้การดูแลที่พรรคเดิมไม่อาจให้ได้ หลายคนยอมเป็นงูเห่าแถมบอกให้รีบขับเร็วๆ แสดงว่าไม่เกี่ยวกับอุดมการณ์อะไร สภาพการเมืองเช่นนี้น่าห่วง ส่วนหนึ่งแสดงว่ารัฐธรรมนูญปราบโกงล้มเหลวสิ้นเชิง ปฏิรูปการเมืองของรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลว การเมืองย้อนไปสู่ธนกิจการเมือง แจกกล้วย ดูคล้ายก่อนยุครัฐธรรมนูญ 2540 เป็นเหตุให้ต้องปฏิรูปการเมืองขนานใหญ่ ยิ่งได้ฟังคำสัมภาษณ์ของนายกฯเรื่องสภาล่ม ยิ่งรู้สึกว่าลอยตัว และแปลกประหลาดพรรคที่เสนอชื่อเป็นนายกฯทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรเลยแม้แต่สมาชิกพรรค แต่มีอิทธิพลถึงขั้นให้เสนอชื่อเป็นนายกฯได้ เป็นห่วงความรู้สึกของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะความศรัทธาในระบอบพรรค การเมือง นักการเมือง และระบอบประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญที่บอกว่าให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วม เป็นเพียงลายลักษณ์อักษรหรูๆของพวกสร้างภาพเท่านั้น นี่คือรัฐธรรมนูญปราบโกงของพวกคนดีทั้งหลาย” นายชูศักดิ์กล่าว
ซัด “บิ๊กตู่” ปัดสวะหนีสภาล่ม
นายสมคิด เชื้อคง รองประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวตอบโต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ที่โยนปมสภาล่มบ่อยเป็นเรื่องของสภาว่า พูดเช่นนี้ใช้ไม่ได้ แบบนี้จะเป็นรัฐบาลไปทำไม เป็นการพูดปัดสวะให้พ้นตัวในฐานะหัวหน้า รัฐบาล ขอให้ไปถามนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคยพูดไว้ว่าองค์ประชุมเป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าไม่เกี่ยว กินยาผิดซองหรือเปล่า 8 ปีที่ผ่านมา ประชาชนไม่เคยมีความสุขเลย ให้เลิกฝันที่จะไปต่อ ถ้าอยากลงการเมืองให้มาต่อสู้กันในสนามเลือกตั้ง อย่ากลัวการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องเข้าใจการเมืองว่าพี่น้องประชาชนเป็นคนตัดสิน แค่คุมเสียงในสภายังทำไม่ได้ แล้วจะไปสร้างความสุขให้ประชาชนได้อย่างไร
พท.เลื่อนกิจกรรมสมุทรสาคร
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า จากกรณีพรรคเพื่อไทยมีกำหนดการจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยสัญจรที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อพบปะประชาชน และปราศรัยในหัวข้อ “การยกระดับเศรษฐกิจเดินหน้า ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินตอบแทนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน” วันที่ 18 ธ.ค. และจะแนะนำตัวผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในกลุ่มภาคกลางบางส่วนและภาคตะวันตก ได้แก่ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี และนครปฐม นั้นล่าสุดค่ำวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมาทางพรรคเพื่อไทยได้ประกาศเลื่อนกิจกรรมดังกล่าวออกไป โดยจะจัดกิจกรรมอีกครั้งหลังจากช่วงปีใหม่เป็นต้นไป
ไม่ท้อชงแก้ รธน.159 โละ 272
ที่รัฐสภา เวลา 10.00 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และคณะ ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่าน นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตรา 159 และยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 272 นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีเจตจำนงและมุ่งมั่นมาตลอด คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยเฉพาะมาตราที่เห็นว่าเป็นปัญหาที่สุดในการบังคับใช้ และกระทบต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คือมาตรา 272 ที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้บัญญัติไว้ชั่วคราว ให้ ส.ว. 250 คนเลือกนายกฯได้ เราพยายามยื่นแก้ไขมาตลอดแต่ไม่สำเร็จ เพราะกติกาที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญทำให้ไม่สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ แต่ไม่ย่อท้อ สามารถยื่นแก้ไขเพิ่มเติมในมาตราที่สภาไม่รับหลักการได้
เสนอให้เลือกนายกฯจาก ส.ส.ได้
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า สำหรับมาตรา 159 ประเด็นที่มานายกฯ ยังคงที่มาตามมาตรา 88 คือผู้ที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ต้องมาจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง ซึ่งพรรคนั้นๆต้องได้เสียงในสภาฯไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 หรือจำนวน 25 เสียงขึ้นไป และเราจะขอเพิ่มที่มานายกฯ ว่าสามารถ เลือกนายกฯได้จากการเป็น ส.ส. ในพรรคนั้นๆได้
“นิพนธ์” ขอรัฐช่วย “คนต้มยำกุ้ง”
อีกเรื่อง นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีรับเรื่องร้องทุกข์จากกลุ่มเครือข่ายร้านอาหารต้มยำกุ้งของคนไทยที่ไปทำมาหากินในประเทศมาเลเซียว่า ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายร้านต้มยำกุ้งคนไทยในมาเลเซีย ร้องขอให้รัฐบาลไทยช่วยเหลือในเรื่องการแก้ไขการแจ้งเกิด-แจ้งตาย ที่ปัจจุบันมีรายละเอียดและขั้นตอนการทํางานที่ยุ่งยาก การอำนวยความสะดวก ออกใบขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ในประเทศมาเลเซีย การออกหนังสือเดินทาง (Passport) การออกใบอนุญาตให้เข้ามาทํางานในมาเลเซีย (Work Permit) เป็นต้น วันที่ 17 ธ.ค.นี้ จะไปยื่นเอกสารเพื่อรายงานภาพรวมของสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในมาเลเซีย เรียนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เพื่อพิจารณาสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเกี่ยวพันหลายหน่วยงาน