เรียบร้อยโรงเรียนภูมิใจไทย 34 ส.ส.ลอตแรกจาก 9 พรรค เก็บกระเป๋าย้ายสำมะโนครัวไปอยู่ถิ่นเซราะกราวอย่างเป็นทางการ เปิดตัวกันอึกทึกครึกโครมในการประชุมพรรคใหญ่ภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.

งูเห่ามีรูอยู่ใหม่ชัดเจน ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ ถูกแดกดันเป็นอีแอบอีกต่อไป

พลังดูดภูมิใจไทยทะลุเป้า สูบ ส.ส.เป็นกอบเป็นกำ ตามแนวโน้มที่คงไม่หมดแค่ลอตเดียว อาจมีลอตต่อๆไปรอดูจังหวะทยอยไขก๊อกตามมา

ส.ส.จ่อลาออกไม่ขาดสาย เพื่อย้ายค่าย ส่วนพวกที่เหลือก็มัวแต่ห่วงหนีกลับไปเฝ้าพื้นที่ พะวงทำแต้มรักษาฐานที่มั่นตัวเอง เตรียมพร้อมลงสนามเลือกตั้ง

เอฟเฟกต์พลังดูดสะเทือนการทำงานในสภา เสี่ยงเกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบซ้ำซาก ติดๆขัดๆเวลาจะโหวตผ่านกฎหมาย ต้องลุ้นตัวโก่งจะเกิดเหตุสภาล่มรายสัปดาห์หรือไม่

ถึงแนวโน้มเกมในสภาไม่ราบรื่น แต่ถ้าจะหวังถึงขั้นเป็นตัวเร่งให้ยุบสภาทางอ้อม ดูแล้วยังลำบาก เพราะจำนวน ส.ส.ที่เหลืออยู่ ยังพอถูๆไถๆ ทำงานเอาตัวรอดไปวันๆได้

เต็มที่ก็ทำได้แค่ทำให้เสถียรภาพรัฐบาลและความน่าเชื่อถือถูกบั่นทอนจากเหตุสภาล่มรายสัปดาห์

เพราะคนยุบสภาตัวจริงคือ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยังพร้อมดิ้นสู้ ขออยู่ในอำนาจนานที่สุด จนใกล้ครบวาระ 4 ปี 23 มี.ค.2566

จะกดปุ่มยุบสภาก็ต่อเมื่อมีความได้เปรียบสูงสุด ไม่ถอดใจโยนผ้ายอมแพ้ง่ายๆ

หากยังไม่ถึงจุดสิ้นสุดทางลากจริงๆ ขืนยุบสภาโดยไม่พร้อม โอกาสจะกลับมารักษาอำนาจก็ยิ่งลำบาก

ตามสภาพความเป็นจริงที่ค่ายใหม่อย่างพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังก่อร่างสร้างตัวไม่เสร็จ การจัดตัวผู้สมัคร ส.ส.ยังชักเข้า ชักออก จัดระเบียบในพรรคไม่ลงตัวสักที พลังอ่อนแรงลงไปเยอะ

ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากไม่ต่างจากพรรคพลังประชารัฐที่กำลังเลือดทะลักหนัก โดนเกมเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ลอบมาตกปลาในบ่อออกไปเป็นเข่ง

...

ยอดปัจจุบันโดนสอย ส.ส.ไปแล้ว 14 คน แต่ยอดสุดท้ายยังไม่รู้จะเสียเพิ่มไปอีกเท่าไร

ความตึงเครียดในพรรคยกระดับ แม้แต่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังแอบหงุดหงิด ประชดประชันบอก “เอาไปให้หมด จะได้ปิดพรรค”

อารมณ์ซีเรียสที่ “พี่ใหญ่” ยังอยากไปต่อบนเส้นทางการเมือง แต่ลูกพรรคกลับขอสละเรือ ไม่อยู่ล่มหัวจมท้ายกันเหมือนเก่า

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังทะเลาะกันไม่เลิก ลูกทีมพระแม่ธรณีคอยเปิดศึกวัดกำลัง โค่น “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ลงจากเก้าอี้หัวหน้าพรรค

สถานภาพพรรคเก่าพรรคแก่ส่อฟุบยาว ระดับที่ “ซือแป๋ใหญ่” ชวน หลีกภัย ปรมาจารย์ในพรรค ยังยอมรับ “ประชาธิปัตย์” ไม่โดดเด่นเหมือนก่อน

บรรดาค่ายใหญ่ฝั่งรัฐบาลไม่พร้อมลงสนามเร็ว เพราะยังเคลียร์ปัญหาในทีมไม่ลงตัว ตรงข้ามกับพรรคภูมิใจไทยที่ตั้งท่าพร้อมกว่าใคร มี ส.ส.เข้าสังกัดหัวกระไดไม่แห้ง กระแสก็ดี กระสุนก็มียิงไม่อั้น

แม้อาจเสียหน้าจากร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง นโยบายโบแดงมีโอกาสสูงโดนคว่ำกลางสภา แต่ก็มีข้ออ้างถูกเกมการเมืองเตะตัดขา ขอโอกาสแก้ตัว เอาไปใช้หาเสียงนำกลับเข้ามาใหม่

ยิ่งยุบสภาเร็ว โดยพรรคอื่นไม่พร้อม ภูมิใจไทยก็มีโอกาสทำแต้มทิ้งขาดพรรคซีกรัฐบาลมากขึ้น

สถานการณ์เป็นใจ โกย ส.ส.เหยียบหลักร้อยหลังปิดหีบ มีลุ้นเป็นพรรคใหญ่อันดับ 1 ในฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล อยู่เหนือ “พลังประชารัฐ–รวมไทยสร้างชาติ–ประชาธิปัตย์” ได้สิทธิผงาดชิงเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคเพื่อไทยทำแลนด์สไลด์ไม่สำเร็จ

จังหวะเข้าทางให้คิด “การใหญ่” หากผลการเลือกตั้งเป็นใจ สามารถรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลสู้กับซีกฝั่งพรรคเพื่อไทยได้

ชื่อ “หนู” แต่อาจกลายเป็น “ราชสีห์” คุ้มค่ากับการลงแรงกวาดต้อน ส.ส.เข้าคอก

ราศีพุ่งจับ ไม่ต้องรอเป็น “นายกฯคนละครึ่ง” ต่อไป.

ทีมข่าวการเมือง