โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ห่วงใยประชาชน หลายพื้นที่มีอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิลดลง ช่วง 17-20 ธ.ค. ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพ ดูแลร่างกายให้อบอุ่น เตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้พร้อมและเพียงพอ

วันที่ 16 ธ.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยพี่น้องประชาชนในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งหลายพื้นที่มีอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิลดลง หลังกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศ ระบุว่า ในช่วงวันที่ 17-20 ธันวาคมนี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส บริเวณพื้นราบอุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

“นายกรัฐมนตรีห่วงใยในสุขภาพของประชาชน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย ดูแลร่างกายให้อบอุ่น ดังนั้น ควรเตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้พร้อมและเพียงพอ พร้อมทั้งดูแลร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งนี้ หากพื้นที่ใดมีความจำเป็นที่จะต้องก่อไฟเพื่อช่วยให้อุ่นขึ้น ขอให้ดูแลระมัดระวังในเรื่องอัคคีภัยด้วย” นายอนุชาฯ กล่าว

...

นายอนุชาฯ กล่าวด้วยว่า ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสาร และประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ เพราะนอกจากจะได้เตรียมพร้อมรับกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงแล้ว ในภาคใต้ยังต้องระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มด้วย โดยสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th หรือโทรศัพท์สอบถามที่สายด่วน หมายเลข 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง