ภูมิใจไทย “เสี่ยหนู” ดูดแรง “บิ๊กป้อม” หัวเราะลั่น “เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ไม่ว่าอะไร” อ้อมแอ้มไม่รู้อนาคต “น้องตู่” หยอดอยู่ที่ไหนก็รักกันเหมือนเดิม ยัน 3 ป.ไม่แตก พปชร.เปิดตัว “นิพิฏฐ์” ขอสู้ถวายหัว นำทีมลุยปักษ์ใต้ แจงเหตุทิ้ง สอท.ลดเกรดรวม ทสท.เปลี่ยนเป้าแคนดิเดตนายกฯจาก “สมคิด” ไปเป็นอื่น หึ่งอีกระลอก สอท.เจรจาจับมือชาติพัฒนากล้า “อนุทิน” โวพรรคดีห้ามคนไหลเข้าไม่ได้ เพื่อไทยยังมั่นใจ ส.ส.ย้ายค่ายไร้ผลกระทบแลนด์สไลด์ เดินหน้าชูค่าแรง 600 บาท “เฉลิมชัย” สยบคลื่นใต้น้ำระส่ำ ปชป.ปัด กก.บห. ลาออกกดดัน “จุรินทร์” ไขก๊อก ขณะที่รัฐบาลรับลูก “ชวน” เร่งแก้ปัญหาสภาล่ม

ช่วง 180 วัน ก่อนครบเทอม ส.ส.เคลื่อนไหวย้ายพรรคกันหนักหน่วง พรรคภูมิใจไทย เนื้อหอม ส.ส.แห่ย้ายเข้าเตรียมเปิดหน้าเปิดตัวกันคึกคัก โดยเฉพาะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ พากันทิ้งพรรค จน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เอ่ยท้าเชิงประชดประชันพรรคภูมิใจไทยทันที

...

“บิ๊กป้อม” นั่งหัวโต๊ะ ครม.ลา 6 คน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป (อียู) สมัยพิเศษ ฉลองครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-อียู ที่กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ระหว่างวันที่ 12-15 ธ.ค. มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค พปชร.กับนายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์ สมาชิก พปชร.กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าหรือกลุ่มปากน้ำ มายืนรอรับ ก่อนเข้าห้องประชุม โดย พล.อ.ประวิตรมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างเห็นได้ชัดแม้จะสวมแมสก์ก็ตาม ขณะที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ ลาประชุม ครม.เพื่อร่วมคณะไปกับนายกฯ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว. อุตสาหกรรม น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ แจ้งลาประชุม ส่วนนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน แจ้งประชุมผ่านระบบ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์

เมิน ส.ส.กทม.ตีจาก พปชร.ยกรัง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าว ส.ส. กทม.พรรค พปชร.เตรียมลาออกย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ รวมถึงจะมอบหมายให้นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค หรือนายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรอง ผู้ว่าฯ กทม.และอดีตกรรมการบริหารพรรค พปชร.ทำหน้าที่คุมสนามเลือกตั้ง กทม.แต่ พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถาม เพียงแต่หันมายิ้มให้กับผู้สื่อข่าว

ประชด ภท.เอาไปให้หมดเลยไม่ว่า

ต่อมาเวลา 11.20 น. หลังประชุม ครม.พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวมี ส.ส.พปชร.กว่า 10 คน เตรียมย้ายไปพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า ยังไม่ทราบว่าเขาจะลาออกหรือเปล่า เพราะตอนนี้ เขายังไม่ลาออก เมื่อถามว่า ต้องเรียก ส.ส.ที่จะไปมา พูดคุยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่ต้องหรอก ก็แล้วแต่เขา ความคิดของคนไม่เหมือนกัน ที่เข้ามา ก็เยอะ เมื่อถามว่า มีโอกาสพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรค ภท.หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ส่ายหัวพร้อมตอบว่า ยังไม่ได้คุย เมื่อถามย้ำว่า ภท.จะดึง ส.ส.พรรค พปชร. ไปพอสมควร พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ก็เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ผมไม่ว่าอะไร ผมจะได้ปิดพรรคเลย” พูดจบ พล.อ.ประวิตรหัวเราะ เมื่อถามอีกว่า สรุปแล้ว ไปทั้งหมดเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรได้แต่หัวเราะ

โยนสมาชิก พปชร.เข็น “บิ๊กตู่” ไปต่อ

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหมยังอยากอยู่พรรค พปชร.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า นายกฯดูเหมือนแสดงว่าจะไป ยังไม่รู้ เมื่อถามว่า ทำไมมีคำว่าเหมือน พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ก็ผมยังไม่รู้ เพราะนายกฯไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคตั้งแต่แรก” เมื่อถามว่า นายกฯมีโอกาสเปลี่ยนใจอยู่กับพรรคพปชร.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า คือนายกฯไม่ได้อยู่ในพรรค พปชร.เป็นเพียงพรรคที่สนับสนุนให้เป็นนายกฯ จะอยู่หรือไม่อยู่เป็นเรื่องของท่าน เมื่อถามถึงการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ต่อไป พล.อ.ประวิตรตอบว่า อย่างนี้มันต้องแล้วแต่สมาชิกพรรคที่จะว่ากัน เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าพรรคพปชร.ไม่เห็นถามมา ตกลง พปชร.จะถาม พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ก็ยังไม่รู้ ผมเองก็ไม่รู้เลย ผมเองก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของพรรค ผมจะตอบอะไรได้” เมื่อถามว่าจะชวน พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบย้ำว่า ก็บอกไปแล้วตอบแล้วตอบอีก เมื่อย้ำถามว่าวันนี้การมาเดินคนละพรรคทั้งที่เคยบอกว่า มาด้วยกันไปด้วยกันจะตอบอย่างไร พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถาม

ยัน 3 ป.ไม่แตกรักน้องเหมือนเดิม

เมื่อถามว่า ไม่ว่าอยู่ที่ไหนจะยังเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “อ๋อใช่ อยู่ที่ไหนมันก็รักกันเหมือนเดิม” เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์เหมือนกับว่ายังรอพรรค พปชร.ทาบทามก็พร้อมจะมา พล.อ.ประวิตรตอบว่า ยังไม่รู้เลยว่าจะทาบทามหรือเปล่า เมื่อถามว่า จะคุยหรือไม่ ในฐานะเป็นพี่ใหญ่และเป็นผู้จัดการรัฐบาล พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า ใครเป็นผู้จัดการ เมื่อถามว่า เป็นบารมีของ พล.อ.ประวิตรที่ดูแลรัฐบาลได้ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ผมจะไปเป็นผู้จัดการที่ไหน” เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรเคยพูดว่า 3 ป.มาด้วยกันไปด้วยกัน และจะไม่มีวันแตกกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่วันนี้มาแยกทางกัน พล.อ.ประวิตรตอบว่า ก็ไม่แตก เมื่อถามว่า แต่วันนี้จะแยกทางกันเดิน พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ไม่ได้แยกทางกัน พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้อยู่ ในพรรค พปชร.เลยนะ ไม่เคยเป็นสมาชิกเลย เมื่อถามว่า ต่อจากนี้ไปพรรคพลังประชารัฐก็ไม่ได้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตฯของพรรคแล้วใช่ หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ก็ยังไม่รู้เลย ต้องไป ประชุมพรรคก่อน

ส่ายหัวยุบสภาแล้วแต่นายกฯ

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับกระแสข่าวการยุบสภาในช่วงนี้ พล.อ.ประวิตรส่ายหัวก่อนตอบว่า ไม่รู้ เมื่อถามอีกว่า เวลายุบสภาที่เหมาะสมที่สุดคือปลายปีหรือไม่ เพราะ ส.ส.ลาออกกันเยอะ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ไม่รู้ ก็แล้วแต่เขา เมื่อย้ำถามว่า เวลาที่เหมาะสม หากมีการยุบสภาเร็วขึ้น พรรคพลังประชารัฐเตรียมพร้อม ผู้สมัครทันหรือไม่ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถาม

“แด๊ก” ฟุ้ง “ลุงตู่” แต่งตัวเสร็จมาแน่

นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีผลสำรวจนิด้าโพล ระบุว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกว่า ผลโพลก็คือผลโพล การเลือกตั้งก็อีกส่วนหนึ่ง อีกสักพักถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ชัดเจนมากกว่านี้ กระแสจะดี จากที่ตนลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช กระแส พล.อ.ประยุทธ์ดีมาก มีผลงานเป็นรูปธรรมชัดเจน พี่น้องคนใต้ชอบคนซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ถึงความชัดเจนที่จะไปอยู่พรรค รทสช.หรือไม่ นายธนกรตอบว่า น่าจะเร็วๆนี้ เมื่อถามว่า ผลโพลจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจไม่ไปพรรคใหม่หรือไม่ นายธนกรตอบว่า คงไม่ โพลมีหลายโพล มีขึ้นมีลงแค่ส่วนหนึ่ง เชื่อมั่นประชาชนยังไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์

กลุ่มปากน้ำสิงสถิตที่ “ลุงป้อม”

นายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรฯ สมาชิกกลุ่มสมุทรปาราการก้าวหน้า กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในพื้นที่ จ.สมุทรปราการว่า ต่างคนต่างหาเสียง ส.ส.สมุทรปราการ พรรค พปชร.ทำงานเต็มที่ เมื่อถาม ว่า ยืนยันว่ายังอยู่กับ พปชร.หรือไม่ นายสุนทรตอบว่า พูดได้เต็มปากจะเรียกว่า “สิงก็ได้”ก่อนหัวเราะ เมื่อถามย้ำว่า คำว่า “สิง” คือให้คำมั่นว่าจะกลับ พปชร.ใช่หรือไม่ นายสุนทรตอบว่า ใช่ ส่วนที่ ส.ส.ในพรรค เตรียมย้ายเป็นเรื่องของ ส.ส. แต่ทีมงานสมุทรปราการก้าวหน้า ทุกคนไปในทางเดียวกัน

พปชร.เปิดตัว “นิพิฏฐ์” นำทัพใต้

เมื่อเวลา 15.15 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ ถนนรัชดาภิเษก นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค พร้อมนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค นายอภิชัย เตชะอุบล แกนนำพรรค ร่วมกันแถลงต้อนรับนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ที่เข้ามาเป็นทีมงานภาคใต้ พร้อมกับเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พื้นที่ภาคใต้ ประกอบด้วย จ.สงขลา ได้แก่ นายณรงค์พร ณ พัทลุง เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช ได้แก่ นางสุภาพ ขุนศรี เขต 2 และนายสุธรรม จริตงาม เขต 4 นอกจากนี้ยังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พื้นที่ภาคอีสาน ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา ได้แก่ นายประพิศ นวมโคกสูง เขต 3 นางอรทัย พลวิเศษ เขต 6 นายตติรัฐ รัตนเศรษฐ เขต 8 น.ส.อรัชมน รัตนเศรษฐ เขต 9 นายวิรัตน์ วาริชอลังการ เขต 14 นายพจน์ เจริญสันเทียะ เขต 16 และ จ.ชัยภูมิ ได้แก่ น.ส.จิตราภรณ์ กล้าแท้ เขต 1 น.ส.กาญจนา จังหวะ เขต 2 และนายสนั่น พัชรเตชโสภณ เขต 4

“อันวาร์” สงสัยติดโควิดเลื่อนนัด

ขณะที่นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ที่จะมาเปิดตัวที่พรรคพลังประชารัฐด้วยนั้น ล่าสุดนายอันวาร์เผยว่า ยังไม่ได้เดินทางไปเพราะรู้สึกไม่สบาย เจ็บคอ ครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่มั่นใจว่าจะติดโควิดหรือไม่ ขอดูอาการจากนี้ไปอีก 2-3 วัน ได้แจ้งให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคทราบแล้ว หลังจากนี้ตั้งใจจะไปยื่นหนังสือลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ด้วยตัวเอง เพื่อลาผู้ใหญ่ที่เคารพรัก

“นิพิฏฐ์” ลั่นขอถวายหัวสู้สุดกำลัง

นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า วันนี้ได้รับเกียรติจากหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค มาร่วมทำงานกับพรรคพลังประชารัฐ ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พูดกับตนว่าอยากให้ช่วยดูแลภาคใต้และยังบอกให้นายอภิชัยมาช่วยตนในภาคใต้ด้วย สำหรับภาคใต้เรามีบุคคลที่หัวหน้าพรรคมอบหมายหลายคน รวมถึงนายอนุมัติ อาหมัด อดีต ส.ว. แต่นายอนุมัติยังอยู่ในเงื่อนไขพ้นตำแหน่ง ส.ว.ไม่ครบ 2 ปี จึงจะช่วยแนะนำโดยเฉพาะด้านกฎหมาย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สิ่งไหนที่ตนทำได้เพื่อชัยชนะของ พปชร. พร้อมจะใช้พลังทุกส่วน ต้องขอขอบคุณหัวหน้า เลขาธิการพรรค และนายวิรัชที่เป็นผู้เชื้อเชิญมาอยู่ตรงนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุผลที่ออกมาจากพรรคสร้างอนาคตไทยเพราะมีข่าวว่าจะไปรวมกับพรรคไทยสร้างไทยที่นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือไม่ นายนิพิฏฐ์ตอบว่า มีหลายเรื่อง นั่นเป็นสาเหตุแรกเริ่ม แต่ทราบว่าตอนนี้เขาไม่ไปรวมแล้ว

อ้างชิ่ง สอท.ลดเกรดรวม ทสท.

ต่อมานายนิพิฏฐ์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า การที่ต้องเดินออกมาจากพรรค สอท.มันมีเหตุจำเป็น แต่เกิดจากอะไรขอให้พรรคสร้างอนาคตไทยเป็นคนพูดเอง คุยกันมาไม่ต่ำกว่า 3 เดือนแล้ว ไม่ใช่ปัญหาความขัดแย้ง ช่วงที่ตนร่วมตั้งพรรคสร้างอนาคตไทยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค มีหลักการที่นำอยู่ 2 เรื่องคือ 1.ไม่สุดขั้วทางการเมือง ไม่แดงจัด ไม่เหลืองจัด ไม่ซ้ายจัด ไม่ขวาจัด 2.เราจะเป็นพรรคที่มุ่งเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากกว่าปัญหาทางการเมือง พอพรรคเดินมาได้ระยะหนึ่งก็มีแนวคิดควบรวมพรรค ไม่ขัดข้องหากมันจะทำให้พรรคมีที่ยืนทางการเมือง โดยการควบรวมพรรคต้องไม่ขัดหลักการ 2 ข้อ แต่ปรากฏว่ามีการเบี่ยงเบนไปบางส่วน เช่น เปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคจากนายอุตตมเป็นคนอื่น ที่สำคัญคือเปลี่ยนแปลงแคนดิเดตนายกฯจากนายสมคิดไปเป็นบุคคลอื่น โดยนายสมคิดจะเป็นเบอร์ 2 และเบอร์ 3 ไป ยืนยันไปแล้วว่าหากรวมกันแบบนี้ คงไม่สามารถทำงานในพรรคได้ ทุกคนก็เข้าใจ ไม่ได้มีความขัดแย้ง

หึ่ง สอท.จ่อจับมือชาติพัฒนากล้า

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวพรรค สอท.หลังเจรจารวมพรรคกับพรรค ทสท.ไม่สำเร็จ เนื่องจากติดเงื่อนไขวางตัวบุคคลในตำแหน่งต่างๆไม่ลงตัว ล่าสุดมีรายงานข่าว พรรค สอท. นำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค จะหารือกับพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) ที่นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค เพื่อเจรจาถึงความเป็นไปได้ในการควบรวม คาดจะได้ความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ หากเงื่อนไขพูดคุยไม่ลงตัวจะให้แกนนำแต่ละคนเลือกตัดสินใจอนาคตการเมืองของตนเองในการอยู่กับพรรคอื่น โดยแกนนำบางคนอาจจะขอเว้นวรรคทางการเมืองไว้ก่อน ส่วนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่เตรียมวางตัวไว้ ต้องหาสังกัดพรรคลงสมัครต่อไป บางคนอาจไปอยู่กับพรรค ภท.

“หนู” รอลุ้นหน้าใหม่แห่ซบ ภท.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมพรรค ภท. และจะแถลงเปิดตัว ส.ส.ที่ย้ายมาจากพรรคอื่นว่าให้รอวันที่ 16 ธ.ค. พรรคเราไม่ได้ปิดกั้นอะไร รอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน วันนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่ได้เซ็นใบสมัครด้วยซ้ำ ส่วนรายชื่อที่มีข่าวออกไปนั้น ไม่รู้ว่าออกมาได้อย่างไร จริงบ้างไม่จริงบ้างคาดเดากันไป จะพูดได้ก็ต่อเมื่อตนลงนามในใบสมัครของคนที่จะเข้ามา วันที่ 16 ธ.ค.จะแจ้งให้ทราบ เมื่อถามถึงกระแสข่าว ส.ส.กทม.พรรค พปชร.จะมาอยู่กับพรรค ภท. นายอนุทินตอบว่า ต้องรอให้มาสมัครก่อนจะแถลงให้ประชาชนรับทราบ

โวพรรคดีใครย้ายมาห้ามไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร.แล้วหรือยัง นายอนุทินตอบว่า พรรคการเมืองเป็นของทุกคน ใครมาใครไปเราห้ามไม่ได้ เป็นความพอใจ ไปบังคับใครไม่ได้ ถ้าไปที่ไหนแล้วมีโอกาสที่ดีกว่า ทำงานที่ชอบมากกว่าและดีกว่าก็ไป เคยผ่านเอกชนมาก่อน ไม่ได้คิดอะไรตรงนี้ เซ็นใบลาออกวันละไม่รู้กี่คน แต่ถ้าเจอคนเก่งก็ชวนมาทำงานทำให้องค์กรเจริญรุ่งเรือง เป็นปกติ

เหนียมผลโพลแซงหน้า “ลุงตู่”

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ซุปเปอร์โพลเปิดเผยผลสำรวจความนิยมของประชาชน ระบุว่านายอนุทิน นำมาเป็นอันดับ 1 ที่อยากให้มาเป็นนายกฯแซง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ นายอนุทินตอบว่า อยู่ที่ประชาชน เป็นอะไรก็แล้วแต่หลังเลือกตั้งเราต้องพร้อม และประชาชนเป็นคนตัดสิน เราตัดสินนักการเมืองเองไม่ได้แต่ส่วนตัวต้องเตรียมความพร้อมประมาทไม่ได้ ของตายมีที่ไหนในโลก ทุกอย่างจะประสบผลสำเร็จหรือจะออกมาอย่างไร อยู่ที่การทำงานถ้าไม่ขยันคงทำอะไรไม่ได้ เมื่อถามว่า ได้ให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ หลังผลโพลออกมาอย่างไรบ้าง นายอนุทินตอบว่า เรื่องโพลฟังไว้เป็นแค่กำลังใจ ของแท้คือผลการเลือกตั้ง ต้องให้กำลังใจกันอยู่แล้ว ทำงานร่วมกันมา 4 ปี ให้กำลังใจทุกวันต่างคนต่างให้กำลังใจ โพลใครทำก็ไม่รู้ ของแท้คือประชาชนตัดสิน

“บุญรื่น–จุฑาพัตธน์” ยันไม่ทิ้ง พท.

นางบุญรื่น ศรีธเรส ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมนางจุฑาพัตธน์ เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี เขต 5 พรรค พท.ร่วมกันแถลงถึงกรณีทีวีช่องหนึ่งเสนอข่าวเตรียมย้ายไปร่วมพรรค ภท.นางบุญรื่นกล่าวว่า ยืนยันไม่มีความคิดย้ายไปพรรคการเมืองอื่น เป็น ส.ส.ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงเพื่อไทยรวม 23 ปี หากรวมเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ 2 ครั้ง รวมชนะเลือกตั้ง 7 ครั้ง ไม่เคยคิดไปอยู่พรรคอื่น เพราะพรรค พท.มีนโยบายที่ดี ทำให้ชีวิตของประชาชนดีขึ้น ที่ผ่านมาบอกลูกหลานมาตลอดว่าพรรค พท.เป็นพรรคที่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี มีนโยบายที่ดี ในจิตใจของตนไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนพรรค เกิดที่นี่ขอตายที่นี่ นี่คือปณิธาน ขอพูดครั้งสุดท้าย อย่าเชื่อข่าว ต้องเชื่อตนเท่านั้น ขณะที่นางจุฑาพัตธน์กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวสร้างความสับสน ขอแจ้งให้ชาวอุดรธานี อ.วังสามหมอ อ.ศรีธาตุ อ.กู่แก้ว อ.ไชยวาน ว่า ไม่ย้ายไปพรรค ภท.ตามที่เป็นข่าว ไม่คิดทรยศต่อคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ไม่หักหลังพรรค พท.เด็ดขาด

พท.มั่นใจแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคพท. กล่าวว่า นักการเมืองสังกัดพรรค พท.ที่จะย้ายพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่น่ามีผลกระทบกับพรรคมากนัก เพราะผู้บริหารพรรคทราบมานานแล้วว่าใครจะย้ายออก ดังนั้นมีการเตรียมคนเพื่อส่งผู้สมัครแข่งขันในนามพรรคลงสนามเลือกตั้งในพื้นที่ของ ส.ส.ที่ย้ายออกไป พร้อมทั้งเดินหน้าสร้างกระแสแลนด์สไลด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งกำชับให้ผู้สมัครของพรรคทุกคน เดินหน้าเข้าหาประชาชนอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

“พิชัย” การันตีค่าแรง 600 ทำได้ชัวร์

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ พรรค พท.กล่าวว่า ตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประกาศนโยบายโดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ อยากให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า นโยบายของพรรคสามารถทำได้จริงตามที่ได้ประกาศแน่นอน เช่น การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ หากเป็นรัฐบาลจะทำให้เศรษฐกิจขยายเฉลี่ยปีละ 5% ได้จริง เป็นศักยภาพที่ควรจะขยายให้ได้อยู่แล้ว เพราะทั้ง ธนาคารโลก ไอเอ็มเอฟ ต่างบอกตรงกันว่าประเทศไทยขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพมาโดยตลอด และค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท ในปี 2570 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า สามารถทำได้จริงถ้าสามารถขยายเศรษฐกิจปีละ 5% อีกนโยบายที่ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนได้ทันที คือ ลดราคา น้ำมัน ไฟฟ้า และก๊าซหุงต้ม โดยเข้าไปปรับเปลี่ยนแก้ไขโครงสร้างราคาพลังงาน ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในระดับครัวเรือนที่เป็นทิศทางของโลก

ยื่น กกต.สอบ “ทักษิณ” ครอบงำ

ที่ กกต.นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบกรณีนายทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ วู๊ดซัม ไลฟ์พูดคุยในกลุ่ม CARE ชี้แจงนโยบายขึ้นค่าแรง 600 บาทของพรรค พท.อาจเข้าข่ายเป็นการชี้นำครอบงำกิจกรรม หรือนโยบายของพรรคการเมืองตามมาตรา 28 และมาตรา 29 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ อาจผิดตามมาตรา 92 (3) ถึงขั้น กกต.เสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคได้ นายศรีสุวรรณกล่าวว่า นายทักษิณออกมาพูดแก้ต่างเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เชื่อมโยงให้เห็นว่าการกำหนดนโยบายของพรรค พท.แท้จริงแล้วมีพื้นฐานความคิดมาจากนายทักษิณ

“เฉลิมชัย” ปัด ปชป.ระส่ำกดดัน หน.

ขณะที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกระแสข่าวกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค ปชป.จะลาออกทั้งคณะเพื่อกดดันให้มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค ปชป. ว่า ไม่มีอะไรหรอก เมื่อถามว่ามีการล่ารายชื่อล้มนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรค ปชป. จริงหรือไม่ นายเฉลิมชัยตอบว่า ไม่รู้จริงๆไม่มีอะไรจริงๆ เมื่อถามว่าในฐานะเลขาธิการพรรคจะตรวจสอบข่าวดังกล่าวหรือไม่ นายเฉลิมชัยตอบว่า มันไม่มีอะไรต้องตรวจสอบ ยืนยันว่าไม่มีอะไร ภายในพรรคไม่มีปัญหาหรอก เมื่อถามว่ายังมั่นใจนายจุรินทร์นำทัพเลือกตั้งหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายเฉลิมชัยตอบว่า ยืนยันไม่มีอะไร

โฆษก ปชป.เช็ก 34 กก.บห.อยู่ครบ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. กล่าวถึงกระแสข่าวที่ กก.บห.พรรค ปชป.จะลาออกว่า ขอยืนยันว่าไม่มีการล่ารายชื่อ กก.บห.พรรคเพื่อให้ลงชื่อลาออกแต่อย่างใด คณะ กก.บห.พรรค ปัจจุบันมีทั้งหมด 34 คน แต่ละคนรับผิดชอบหน้าที่ดูแลในแต่ละภาค รวมกรุงเทพมหานครด้วย ไม่เคยได้ยินเรื่องการล่ารายชื่อ และได้ตรวจสอบแล้วว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ไม่มีใครดำเนินการในเรื่องนี้ ยืนยันว่าพรรคมีเอกภาพภายใต้การนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ทุกคนในพรรคพร้อมสนับสนุน แต่ยอมรับว่าอาจมีปัญหาความเห็นไม่ตรงกันบ้างถือเป็นเรื่องปกติ พูดคุยกันเป็นการภายในได้ตลอด ทุกคนเปิดรับฟังความเห็นของสมาชิกตลอดเวลา

ทีมเหนือ–อีสานให้กำลังใจ “จุรินทร์”

ต่อมาเวลา 14.30 น. นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค ปชป.ภาคเหนือ และนายไชยยศ จิรเมธากร รองหัวหน้าพรรค ปชป.ภาคอีสาน นำแกนนำ ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภาคเหนือ และภาคอีสานเข้ามอบกระเช้าผลไม้ และข้าวหอมใหม่ทุ่งสัมฤทธิ์เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่เพื่อให้กำลังใจนายจุรินทร์ นายนราพัฒน์กล่าวว่า คณะทำงานภาคเหนือจะเป็นทีมงานที่เข้มแข็งอยู่กับพรรคต่อเนื่องยาวนานตลอดไป และพร้อมเป็นกำลังใจให้หัวหน้าพรรค ขอให้หัวหน้าเป็นหลักนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ทีมภาคเหนือพร้อมที่จะเคียงข้างและร่วมสู้กับหัวหน้า นายไชยยศกล่าวว่ามากราบขอบคุณหัวหน้าพรรคแทนผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสานทุกคน ถึงความสำเร็จของนโยบายประกันรายได้ข้าว ความนิยมจากผลโพลหลายสำนักของหัวหน้าที่สูงขึ้นทุกวัน มายืนยันว่า ปชป.ภาคอีสานพร้อมที่สนับสนุนหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯในนามพรรค ปชป.

“อู๊ดด้า” ปลื้มลูกพรรคเหนียวแน่น

นายจุรินทร์กล่าวว่า ขอบคุณทีมภาคเหนือและภาคอีสานที่มั่นคงและเหนียวแน่นอยู่กับพรรค ปชป.ขอขอบคุณที่มาให้กำลังใจเนื่องในวาระใกล้ปีใหม่ ยืนยันว่าพร้อมจะจับมือทำงานร่วมกันกับทุกคน ขอให้ประสบความสำเร็จในการปักธงประชาธิปัตย์ ทั้งในภาคเหนือและภาคอีสานต่อไป

จี้พรรครัฐบาลแก้ปมสภาล่ม

อีกเรื่องปัญหาสภาล่มซ้ำซาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มวาระการประชุม ครม.ในวันที่ 13 ธ.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ครม. ได้กล่าวแสดงความห่วงใยต่อการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่เกิดปัญหาสภาล่ม ทำให้ไม่สามารถดำเนินการพิจารณากฎหมายต่างๆ ได้ว่า ขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลที่เข้าร่วมประชุม ครม.ผ่านไปยัง ส.ส.ของพรรคทุกท่าน ให้เข้าร่วมประชุมสภาฯโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อทำหน้าที่ผู้แทนประชาชนอย่างมีเกียรติในการร่วมกันพิจารณาหารือ และผ่านกฎหมายที่สำคัญ ซึ่งจะเกิดประ โยชน์ต่อพี่น้องประชาชน และประเทศชาติโดยรวมต่อไป

“วิษณุ” รับลูก “ชวน” ขันนอต ส.ส.

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองว่า สภาฯส่งมาถึงรัฐบาลแล้ว คาดว่าสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯได้ในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประสานให้พูดคุยกับนายกฯไปขอความร่วมมือจากหัวหน้าพรรคการเมืองกำชับลูกพรรคให้เข้าประชุมสภาไม่ให้สภาล่ม นายวิษณุตอบว่า ได้แจ้งให้นายกฯและหัวหน้าพรรคต่างๆรับทราบแล้ว แต่ละพรรคคงไปบอกกล่าวกันเอง

“มาดามเดียร์” โชว์ทรัพย์สินอื้อ

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการเปิดเผยบัญชี ทรัพย์สินและหนี้สินของ น.ส.วทันยา บุนนาค กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 16 ส.ค.65 โดย น.ส. วทันยาแจ้งว่า มีทรัพย์สินรวม 536,032,740 บาท เป็นทรัพย์สินของ น.ส.วทันยา 240,075,840 บาท อาทิ เงินลงทุนมูลค่า 11.7 ล้านบาท เงินให้กู้ยืม 45.3 ล้านบาท ที่ดิน 4 แปลง ย่านบางกะปิและบึงกุ่ม มูลค่า รวม 32,077,500 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4 รายการ มูลค่ารวม 111,206,460 บาท หนึ่งในนั้น เป็นห้องชุดเพนต์เฮาส์ แขวงคลองตันเหนือมูลค่า 92 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 10,173,084 บาท และทรัพย์สินอื่นๆ 20,429,372 บาท ที่น่าสนใจอาทิ กระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดัง 30 ใบ ทั้ง Hermes, Chanel, Celine, Bottega Veneta, Christian Dior รวม 30 รายการ มูลค่ารวมกว่า 7.9 ล้านบาท โดยใบที่มีมูลค่าสูงสุดมีราคา 3.1 ล้านบาท เป็นกระเป๋า Hermes รุ่น Himayan Birkin ส่วนนาฬิกาหรู มี 11 เรือน มูลค่า 6.7 ล้านบาท และเครื่องเพชร ทองคำ เครื่องประดับต่างๆ 38 รายการ มูลค่า 7.6 ล้านบาท และแจ้งว่ามีหนี้สินจากเงินกู้ธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 45,149,407 บาท

“นราพัฒน์” มึนยอดไม่ลงตัว

วันเดียวกัน ป.ป.ช.ยังเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายนราพัฒน์ แก้วทอง กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 26 ส.ค.65 โดยนายนราพัฒน์แจ้งต่อ ป.ป.ช. ว่า มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 1,636,258,102 บาท อย่างไรก็ตาม จากการนำทรัพย์สินรายการต่างๆ เฉพาะของนายนราพัฒน์มารวมกันพบว่า มีมูลค่ารวมเพียงแค่ 206 ล้านบาทเท่านั้น ต่อมา นายนราพัฒน์ ออกมาเปิดเผยว่า ต้องขอตรวจสอบก่อนว่าตัวเลขผิดเพราะอะไร เข้าใจว่าน่าจะบวกผิด เพราะยื่นบัญชี ทรัพย์สินรับและพ้นตำแหน่งติดๆกัน ไม่รู้ว่าทีมงานตนทำผิดหรือไม่ แต่เมื่อยื่น ป.ป.ช.แล้ว ถ้าพบว่าบวกผิด ป.ป.ช.ได้แจ้งกลับมาให้แก้ไขหรือไม่ ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน แต่ยืนยันทรัพย์สินทุกอย่างที่ยื่นไปเป็นความจริงทั้งหมด ไม่มีความผิดอะไร

ขณะที่นายศักดิ์ชัย จันทร์แสงวัฒนา ผอ.สำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง กล่าวว่า ประเด็นที่ตัวเลขคลาดเคลื่อนเป็นเรื่องผู้ยื่น ป.ป.ช.ยังไม่ได้ตรวจสอบ หลังจากนี้ ป.ป.ช.จะตรวจสอบบัญชีนายนราพัฒน์ ถ้าพบข้อผิดปกติต้องให้นายนราพัฒน์มาชี้แจง หากเจ้าตัวประสงค์จะมาชี้แจงก็ชี้แจง ประกอบบัญชีที่ยื่นมาได้ ป.ป.ช.จะตรวจดูทุกเรื่อง ไม่ใช่เรื่องตัวเลขคลาดเคลื่อนอย่างเดียว ต้องดูมีประเด็น สงสัยเรื่องอื่นหรือไม่

อดีต ผบ.ทร.–ผบ.ทอ.รวยไม่เบา

นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของอดีต 3 ผู้บัญชาการเหล่าทัพ กรณีพ้น จากตำแหน่ง ส.ว.เมื่อวันที่ 1 ต.ค.65 ประกอบด้วย พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ อดีต ผบ.ทอ. มีทรัพย์สิน 72,104,856 บาท ขณะที่ พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ยื่นบัญชีทรัพย์สินกรณีพ้นตำแหน่ง ส.ว. มีทรัพย์สินรวม 47,841,188 บาท ส่วน พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย อดีต ผบ.ทร. มีทรัพย์สินรวม 89,842,213 บาท

“นายกฯตู่” ถึงบรัสเซลส์พร้อมถกอียู

สำหรับภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ที่เดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป (อียู) สมัยพิเศษ ฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ระหว่างวันที่ 12-15 ธ.ค. ที่กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.20 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ของวันที่ 12 ธ.ค. (ช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศพร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานกรุงบรัสเซลส์ จากนั้นเดินทางเข้าโรงแรมที่พัก โดยนายกฯจะเข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลม ผู้บริหารระดับสูง ในช่วงอาหารกลางวันวันที่ 13 ธ.ค. จัดโดยสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน โอกาสนี้ยังจะหารือทวิภาคีกับรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้านเศรษฐกิจและคณะกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น กับภาคเอกชนยุโรป ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าการลงทุน ที่ประเทศไทยจะผลักดัน ให้เกิดการพัฒนา ทางเศรษฐกิจและสังคมที่ครอบคลุมผ่านการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งสอดคล้องกับข้อริเริ่ม Global Gateway ของสหภาพยุโรป

พีมูฟทวงรัฐรับผิดชอบสลายม็อบ

วันเดียวกัน ระหว่างการประชุม ครม.ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ นำโดยนายจำนงค์ หนูพันธ์ ประธานคณะกรรมการบริหารพีมูฟ พากันมาชุมนุมอยู่ที่หน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล ทวงถามหาผู้รับผิดชอบ กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุม ช่วงการจัดประชุมเอเปกในวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีประชาชนถูกยิงเข้าที่ดวงตา ทำให้ตาบอด และไม่มีใครรับผิดชอบ ทั้งนี้ทางกลุ่มเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการอิสระ เพื่อมาตรวจสอบการสลายการชุมนุม จากทุกภาคส่วนที่มีการสั่งการให้สลายไม่เป็นไปตามหลักสากล มีนายพันศักดิ์ เจริญ รักษาการตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกฯเข้าไปพูดคุยขอให้จัดตัวแทนเข้าหารือ