เอ๊ะมันยังไง ชักเข้าชักออกชอบกล คอการเมืองจับอารมณ์ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย ก่อนหน้านี้ก็นึกว่าแยกทางกันชัดเจนแล้ว
แนวโน้มแบบที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ จัดไมโครโฟนให้ “เฮียมิ่ง” นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จัดหนักไล่ส่ง
โพนทะนาออกอากาศ พล.อ.ประยุทธ์ไปแล้ว
แต่สถานการณ์เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา นักข่าวไปถาม “บิ๊กตู่” ก็ยังออกลีลา “ผมเป็นนายกรัฐมนตรีมาจากพรรคพลังประชารัฐสนับสนุนผมนะ เข้าใจไหม”
เมื่อนักข่าวถามย้ำ จะให้ค่าย พปชร.สนับสนุนเป็นแคนดิเดตนายกฯในบัญชีพรรคต่อหรือไม่ ทั่นผู้นำก็ตอบแบบยักท่า “ถ้ายังไม่มีใครขอมาก่อนนะ”
ส่วนที่จะไปร่วมหอลงโรงกับค่ายรวมไทยสร้างชาติ ปรากฏ “บิ๊กตู่” บอกปัด ยังไม่มีคำตอบ
อาการละล้าละลัง อารมณ์ “ลังเล” แบบจับทางได้
สะท้อนความไม่มั่นใจกับความเสี่ยงบนเส้นทางใหม่ที่ “น้องเล็ก” ถูกบีบให้เลือกเดิน
และนั่นมันก็สอดคล้องกันเลยกับปรากฏการณ์แปร่งๆแบบที่ “แหล่งข่าว”
จากค่ายรวมไทยสร้างชาติออกมาบอกปัดปมป่วน “วงแตก”
ถึงตรงนี้ก็ยังไม่สามารถดูด “มวยเกรดเอ” เพื่อการันตีจะได้ ส.ส.อย่างน้อย 40 ที่นั่งในการเลือกตั้งรอบหน้า ส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ เปลี่ยนแผนไม่ใช้งานให้หามแห่
ตามฟอร์ม โบ้ยเป็นวิชามารของพรรคการเมืองคู่แข่งที่โดนพรรครวมไทยสร้างชาติแย่ง ส.ส.ออกมา ปล่อยข่าวเจาะยาง หวังดิสเครดิต
รีบเคลียร์กันพัลวัน สะท้อนอาการหวั่นไหวกับแค่ “ข่าวลือ”
...
ของแบบนี้ “ไม่มีมูลหมาไม่ขี้” มันต้องมีคนใน “คาบข่าว” ออกมากระซิบสื่อ นักข่าวถึงหูผึ่ง
เรื่องของเรื่อง ตามข่าววงในที่กระฉ่อนออกข้างนอก ภายในค่ายรวมไทยสร้างชาติฟัดกันแรงตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มนับหนึ่ง
เมื่อ “นักเลงเมืองชลฯ” อาละวาดฟาดงาใส่ก๊วน กปปส.
เล่นบทไอ้เข้ขวางคลอง ขวางลำทีม “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่หอบผ้าหอบผ่อนทิ้งบ้าน “รวมพลัง” มาร่วมชายคาพรรค รทสช. ร่วมขบวนแห่ “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ รอบ 3
ถึงขั้นยื่นคำขาด ถ้ามี “ลุงกำนัน” ต้องไม่มี “นักเลงเมืองชลฯ”
นี่หรือเปล่าที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์หันรีหันขวางจะไปต่อกับรวมไทยสร้างชาติก็โอกาสริบหรี่ จะกลับมาค่ายพลังประชารัฐ “พี่ใหญ่” ก็ปิดประตูใส่ ไล่ส่ง
แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว สไตล์ “บิ๊กตู่” ถอยหลังก็หกล้ม
เกมบีบแค่ไหน หนทางแคบเท่าไหร่ ยังไงก็ต้องลุยต่อจนสุดซอยตันแน่
แม้ในทีมแห่ทั่นผู้นำยังรวมแต้มไม่ติด แต่ก็ใช่ว่าคู่แข่ง
จะอยู่ในสถานะได้เปรียบแบบแบเบอร์ เป็นบอลต่อขาดแบบ 2 ลูก 3 ลูก
จับทางจากทีม “นายห้างดูไบ” ที่ส่ง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินสาย โหมกระแสแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน แต่อีกทางดูจากการจัดคณะกรรมการบริหารพรรคชุดล่าสุด ก็กล้าๆกลัวๆโดนคว่ำกระดานเหมือนกัน
เพราะมันคือการสร้างโอกาสให้ “บิ๊กตู่” เป็นหนทางสุดท้าย
เอาเป็นว่า ตอนนี้ปม “ยุบพรรคเพื่อไทย” เป็นเงื่อนไขที่นายหน้าทีมทหารเฒ่า เอาไปต่อรองกับ “ค่ายการเมืองยี่ห้อใหม่” ให้รอช้อนแต้มจากค่ายดูไบ เพื่อแตะมือกันตั้งรัฐบาล
ถึงขั้นตกปากรับคำ รับ “มัดจำ” กล้วยกันล่วงหน้าไปแล้ว
ปากบอกเกลียดทหาร แต่ฝันลมๆแล้งๆก็ทำอุดมการณ์เพี้ยนได้.
ทีมข่าวการเมือง