จำได้ว่า “นายกฯบิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยพูดในหลายกรรมหลายวาระ เรื่องการดูแลประชาชนทั่วประเทศอย่างทั่วถึง ไม่เลือกปฏิบัติ

พร้อมยกคำพูดของผู้นำรัฐบาลในอดีตมาตอกย้ำเรื่องการจัดงบฯพัฒนาพื้นที่ให้เฉพาะ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล

ก็อาจจะเป็นความตั้งใจจริงของ พล.อ.ประยุทธ์มากกว่าการพูดเพื่อสร้างภาพ

แต่เมื่อวันก่อน ที่พรรคภูมิใจไทยขนคณะชุดใหญ่ นำโดย “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ไปเปิดตัวผู้จะลงสมัคร ส.ส.นครพนมทั้ง 4 เขต

ท่ามกลางกองเชียร์ที่แห่แหนมาให้กำลังใจเรือนหมื่น

เมื่อคราวเลือกตั้งปี 2562 ภูมิใจไทยมี ส.ส.นครพนมเพียงคนเดียวคือ นายศุภชัย โพธิ์สุ นอกนั้นเป็น ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยทั้งหมด

แต่ก็ยังได้รับการตกรางวัลเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร

เป็นที่รู้กันดีว่าการเมืองในพื้นที่ “ครูแก้ว ศุภชัย” เป็นพันธมิตรแน่นแฟ้นกับ “ไพจิต ศรีวรขาน” ส.ส.นครพนม เพื่อไทย จนสร้างความหวาดระแวงให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ในเพื่อไทย

ในการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมาถึง ภูมิใจไทย ต้องการกวาด ส.ส.นครพนมยกจังหวัด เทียวไล้เทียวขื่อ “ไพจิต” มาหลายรอบ

สูตรสำเร็จของภูมิใจไทย คือทุ่มงบฯลงพื้นที่แบบจัดหนักจัดเต็มให้ ส.ส.ใต้สังกัด

จนถูก ส.ส.ขั้วฝ่ายค้านวิจารณ์หนักว่าจัดให้แต่พื้นที่ ส.ส.ของตัวเอง

ตัวนายศุภชัยเอง ก็ต้องการโชว์ผลงาน เพื่อโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีในสมัยหน้า

ยึดเวทีปราศรัย สบถด่า ส.ส.อีสานพรรคคู่แข่งด้วยความหยาบ มีเนื้อหาดูถูกเย้ยหยันขั้วตรงข้าม

“ผมสงสาร ส.ส.สกลนคร และ ส.ส.อุดรธานี อภิปรายในสภาฯเรื่องงบประมาณทีไร ก็ด่า รมว.คมนาคม ว่าทำไมเอางบประมาณไปพัฒนาแต่จังหวัดบุรีรัมย์มากมาย ทำไมต้องไปพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ หรือจังหวัดสุรินทร์ แล้วสุดท้ายมาลงที่จังหวัดนครพนม ทั้งที่นครพนมมี ส.ส.ไม่กี่คน ทำไมเอางบฯมาลงเยอะเหลือเกิน...

...

ผมเป็นประธานบนบัลลังก์อยากจะบอกมันว่า ก็นครพนมมี ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยอยู่ที่นี่ไงไ_้โง่ มันโง่จริงหรือมันแกล้งโง่ ถ้าสกลนครอยากได้งบพัฒนาเยอะๆ _ึงเลือกฝ่ายรัฐบาลซิ เลือกพรรคภูมิใจไทยสัก 6-7 เขต รับรองสกลนครเจริญทัดเทียมนครพนม แน่นอน”

นี่คือคำพูดของคนที่มีอีกสถานะ คือรองประธานสภาฯ

แต่คำพูดแบบคะนองปากเช่นนี้ นับว่าสะท้อนอะไรหลายๆอย่าง

ทั้งสะท้อนตัวตนของคนพูด

เท่ากับดูถูกเหยียดหยามประชาชน ที่ใช้สิทธิโหวตผู้สมัครจากพรรคอื่น

และยังสะท้อนว่าการจัดงบฯพัฒนาพื้นที่ที่ผ่านมาของกระทรวงคมนาคม เน้นไปแต่เฉพาะพื้นที่ ส.ส.ลูกพรรคภูมิใจไทย

โดยใช้ “บุรีรัมย์โมเดล” เป็นต้นแบบ

หวังแต่เป้าหมายคะแนนเสียงไม่ได้ยึดภาพรวมของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งประเทศ

แล้วยังสะท้อนว่าคำพูดของคนที่เป็นผู้นำรัฐบาลอย่าง “บิ๊กตู่” ประยุทธ์ ไร้ความหมาย

ที่บอกว่าจะดูแลประชาชนทั่วประเทศอย่างทั่วถึง ไม่เลือกปฏิบัติ มีแต่ราคาคุย

ไม่สามารถกำกับดูแลกระทรวงที่อยู่ในมือพรรคร่วมรัฐบาลได้

อย่างนี้จะต่างอะไรกับอดีตนายกฯที่ตัวเองเย้ยหยันเอาไว้.

เพลิงสุริยะ