“ยุทธพงศ์” รองหัวหน้าและส.ส.มหาสารคามเพื่อไทย ซัด ความผิด “บิ๊กตู่” ปล่อยจีนสีเทาเกลื่อนเต็มเมือง 8 ปี ไม่ควรกลับมาเป็นนายกฯ อีก แนะโอนหนี้ ทรัพย์สิน รถไฟฟ้าสายสีเขียวคืน รฟม.
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค เพื่อไทย กล่าวถึงธุรกิจสีเทาของกลุ่มทุนจีน ที่มีการขยายผลจับกุม และพบว่าได้บริจาคเงินให้พรรคการเมืองใหญ่ว่า ผู้เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบที่มาของเงินว่าได้มาจากธุรกิจผิดกฎหมาย หรือจากธุรกิจสีเทาหรือไม่ ไม่ใช่ปล่อยให้เงียบหาย การมีกลุ่มธุรกิจจีน 5 กลุ่มเกิดขึ้น สะท้อนว่า ปัญหาทั้งหมดยังมีระบบส่วยอยู่เต็มไปหมด และแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันและยาเสพติด กรณีนี้ธุรกิจจีนสีเทา มีหลักฐานชัดเจนว่า อาจมีเจ้าหน้าที่รับส่วย และยังมีธุรกิจสีเทาชาติอื่นๆ อีก คนที่ควรออกมาชี้แจงเรื่องนี้ คือ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ขณะนี้ได้แจกหนังสือรวมผลงานรัฐบาล 3 ปี ให้ ส.ส.ได้รับทราบ แต่สำหรับตนนั้น ตนให้คะแนนการแก้ปัญหาเท่ากับศูนย์ เพราะรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาบริหารงาน เป็นปีที่ 8 ยังจัดการปัญหาทุจริตคอร์รัปชันไม่ได้ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก ให้คนอื่นเข้ามาแก้ไขปัญหาจะดีกว่า
...
นายยุทธพงศ์ ยังกล่าวถึง กรณีปัญหาการต่อสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า หลังบีทีเอส ได้ขึ้นป้ายทวงหนี้ 4 หมื่นล้านบาท จากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า เรื่องดังกล่าวพรรคเพื่อไทย เคยอภิปรายคัดค้านมาแล้ว 3 ครั้ง แต่การแก้ไขยังไม่คืบหน้า ปัญหาดังกล่าวสืบเนื่องมานาน ปัญหาทั้งหมดเกิดมาจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม บริหารล้มเหลว ที่เลี่ยงกฎหมายแล้วไปออกคำสั่ง มาตรา 44 และนำไปสู่การเจรจาและต่อสัมปทานล่วงหน้า ซึ่งปัญหาตรงนี้เกิดก่อนที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะมาเป็นผู้ว่าฯ กทม.จึงเป็นเหตุผลที่นายชัชชาติ ไม่สามารถจ่ายเงินได้ เพราะส่วนต่อขยายอยู่นอกเขตกทม.ซึ่งสภากทม.ไม่มีอำนาจเบิกจ่ายได้ ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จึงขอเสนอทางออก คือให้ กทม.โอนหนี้และทรัพย์สินส่วนต่อขยายที่ 2 ที่วิ่งรถนอกเขต กทม.กลับคืนไปให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ส่วน รฟม.จะนำไปวิ่งรถหรือจะเปิดประมูลอย่างใดให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน ไม่ควรให้เป็นภาระของกทม. นอกจากนั้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) ควรมีมติยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ 3/2562 กรณีส่วนต่อขยายสัมปทานนอกเขตกทม.โดยเร็วที่สุด