“พล.อ.ประยุทธ์” ยัน รัฐบาลยังให้การช่วยเหลือชาวนาในโครงการต่างๆ ต่อเนื่อง ตั้งเป้าให้ไทยก้าวขึ้นเป็น “ครัวโลก” เป็นผู้นำข้าวคุณภาพของโลก ลุยพัฒนาต่อยอดพืชเศรษฐกิจอื่นๆ
วันที่ 24 พ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความเคลื่อนไหวผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ช่วงระยะเวลาต่อจากนี้ไปจะพยายามติดตามผลและเร่งรัดการดำเนินงานนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลได้ให้ความเห็นชอบ และโครงการตามข้อสั่งการของตนในฐานะนายกรัฐมนตรี โดยวานนี้ (23 พ.ย. 2565) ได้เป็นประธานเปิดอีกโครงการเร่งด่วน คือปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่เป็นวาระแห่งชาติ ระยะเร่งด่วน 3 เดือน (พ.ย. 2565 - ม.ค. 2566) เพื่อมอบนโยบายและสั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง บูรณาการการทำงานภายใต้ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ที่มีการขยายผลสำเร็จ และยึด-อายัดทรัพย์สินแล้วมากกว่า 11,000 ล้านบาท ในปีนี้ เพิ่มเป็น 100,000 ล้านบาทในปีหน้า และต้องสาวไปให้ถึงผู้มีอิทธิพลเบื้องหลัง เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติด องค์กรอาชญากรรมให้ได้ในที่สุด จำเป็นต้องหลอมรวมทุกพลังในแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียว รวมถึงสานพลังในชุมชนและหมู่บ้านให้เข้มแข็งด้วย
...
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุต่อไปว่า วันนี้พร้อมด้วยคณะเดินทางลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อพบปะเกษตรกรและมอบเงินช่วยเหลือแบบกดปุ่มเข้าบัญชีโดยตรง ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องของรัฐบาลในการดูแลพี่น้องชาวนาไทยในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการประกันรายได้ การชดเชยส่วนต่าง สนับสนุนต้นทุนการผลิต ช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว ปรับปรุงคุณภาพข้าว สินเชื่อชะลอการขายข้าว เป็นต้น ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา มีเกษตรเข้าร่วมโครงการและได้รับผลประโยชน์จำนวนมาก โดยตั้งแต่ปีการผลิต 2562/63 ถึง 2564/65 ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้กว่า 28 ล้านครัวเรือน จาก 7 โครงการ หรือเฉลี่ยแต่ละโครงการกว่า 4 ล้านครัวเรือน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 310,000 กว่าล้านบาท
ล่าสุด ปีการผลิต 2565/66 รัฐบาลยังคงให้การช่วยเหลือชาวนาในโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง วงเงินกว่า 81,265 ล้านบาท ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีความมุ่งมั่นตั้งใจให้เกษตรกรของไทยพึ่งพาตนเองได้ มีรายได้เพียงพอและอยู่ดีมีสุข ต้องปรับตัวทำเกษตรกรรมที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบันและในอนาคต ด้วยการก้าวไปสู่เกษตรมูลค่าสูง ภายใต้ BCG โมเดล ที่ได้นำเสนอต่อผู้นำโลกในการประชุมเอเปก (APEC 2022) ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนการจัดทำแผนการผลิต และส่งเสริมการตลาดข้าวอย่างครบวงจร ให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิต การทำเกษตรอินทรีย์ การใช้จุลินทรีย์เพื่อการเกษตรแทนที่การใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมี ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า ตลอดจนดูแลตลาดในประเทศและส่งออก
“เพื่อให้ไทยก้าวขึ้นเป็นครัวโลกอย่างครบถ้วนรอบด้าน โดยเป็นผู้นำการผลิต การตลาดข้าว และผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพของโลก ผมจึงมีแนวความคิดให้มีชุมชนชาวนา เพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาและสร้างเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกข้าว อีกทั้งชุมชนข้าว เช่น ชุมชนแปลงขยายพันธุ์ข้าว ชุมชนข้าวแปลงใหญ่ ชุมชนข้าวอินทรีย์ เป็นต้น เพื่อพัฒนาการผลิตข้าวและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีได้อย่างต่อเนื่อง อันจะนำไปสู่การพัฒนาชาวนาในชุมชนข้าวให้เป็นชาวนาปราดเปรื่อง (Smart Farmers) ปราชญ์ชาวนา และชาวนารุ่นใหม่ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งในวันข้างหน้าก็จะต่อยอดกับพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ของประเทศ เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด อ้อย อีกด้วย นี่คืออีกหนึ่งศักยภาพของประเทศไทย ที่จะสามารถผลักดันให้เราก้าวไปสู่ประเทศชั้นนำของโลกได้อย่างแน่นอน”