ผมเป็นคนช่างสงสัย เรื่องที่คนสองซีกโลก โลกตะวันตกกับโลกตะวันออกคุยๆกันตกลงร่วมกัน แล้วจะผลิดอกออกผลออกมาอย่างไร คนสองพวกนี้มีวิธีคิดและความเชื่อที่แตกต่าง บางครั้งก็ตรงข้าม
เอาแค่งานเอเปกหนนี้ นักข่าวแอบได้ยินผู้นำจีนต่อว่าผู้นำแคนาดา เอาเรื่องคุยกันสองคนไปออกข่าว...ธรรมเนียมคนตะวันออก เรื่องอะไรๆ คุยกันในที่ลับ เขาไม่เอาไปไขในที่แจ้ง
แต่ธรรมเนียมตะวันตกมีเรื่องสับสนกลในแค่ไหน ก็ต้องบอกให้ประชาชนของเขารู้
มี “เรื่องง่ายๆ ความหมายดีๆ” (สำนักพิมพ์อินสปายร์ เครือนานมี พ.ศ.2553) เรื่องที่ 34 ทำงานแบบเอาชีวิตเข้าแลก อ่านให้จบก่อนนะครับ แล้วค่อยมาหาข้อสรุปกันใหม่
โดยฐานะพนักงานทำความสะอาดบริษัทใหญ่ในเกาหลีก็ดูจะเป็นที่ดูแคลนของคนทั่วๆไป แต่คืนนั้นเมื่อเขาสร้างวีรกรรมเสี่ยงชีวิตต่อสู้กับหัวขโมยที่กำลังงัดตู้เซฟบริษัท จนหัวขโมยหนี เขาได้รับความชื่นชมมาก
มีคนไปสัมภาษณ์ อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้เขา “กล้าตาย” ได้ถึงขนาดนั้น คำตอบ ไม่มีใครคาดหมาย
“ทุกครั้งที่ผู้จัดการใหญ่เดินผ่าน ตอนผมกวาดพื้น ท่านมักชมผม คุณกวาดพื้นได้สะอาดจริงๆ”
ก็แค่คำชมสั้นๆไม่กี่คำนั้น สร้างความจงรักภักดีให้เกิดขึ้นได้กับคนบางคนอย่างไม่น่าเชื่อ
เรื่องเล่าง่ายๆเรื่องนี้มีคำอธิบายความหมายดีๆสำหรับผู้ใหญ่ การรู้จักให้เกียรติผู้น้อยเป็นเรื่องที่สำคัญ เงินทองไม่ทำให้ผู้น้อยยอมทำทุกสิ่งเพื่อบริษัทได้เสมอไป
การชมเชยต่างหากทำสิ่งที่เงินทองไม่สามารถให้ได้
การชมเชยอย่างจริงใจ กระตุ้นศักยภาพพวกเขาได้ ไม่ว่าความจงรักภักดี ความปรารถนาดีต่อองค์กร
แมรี่ เคย์ นักธุรกิจหญิงชาวอเมริกัน เคยกล่าว โลกนี้มีของอยู่สองสิ่งที่จำเป็นต่อมนุษย์มากกว่าเงินทองและเซ็กซ์ คือ การยอมรับและการชมเชย
...
การชมเชยด้วยความจริงใจ การสรรเสริญด้วยเจตนาที่ดีเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อสร้างความประทับใจ
แต่?อย่าเพิ่งเชื่อในบทสรุปนี้เร็วเกินไป ในโลกอันกว้างใหญ่ไพศาล ยังมีความคิดและความเชื่อที่แตกต่าง การกระทำของพนักงานทำความสะอาดคนนี้ ได้รับการยกย่องชมเชยในเกาหลี แต่หากในสหรัฐอเมริกา การที่พนักงานเสี่ยงชีวิตต่อสู้ผู้ร้าย...นอกจากจะไม่ได้รับการยกย่องแล้ว
เขาอาจถูกไล่ออก
วิถีปกติคนสหรัฐฯถ้ามีขโมยบุกเข้าบริษัท สิ่งแรกที่พนักงานที่รู้เห็นจะต้องทำคือรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
การเสี่ยงชีวิตเข้าสู้ผู้ร้าย นอกจากอาจได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแล้ว ยังอาจทำให้ทรัพย์สินบริษัทเสียหาย ความจงรักภักดีแบบเกาหลีในสหรัฐฯจึงเป็นความโง่เขลา
งานเลี้ยงเอเปกเลิกราไปแล้ว ผลก็เป็นไปตามกฎแห่งกรรมวิถีตะวันออก เมื่อผู้นำสหรัฐฯไม่มา ผู้นำจีนมา ท่านสีจิ้นผิงจึงเล่นบทพระเอกได้เต็มที่ มีภาพจู๋จี๋กับนายกฯไทย เพิ่มสง่าราศีให้พลเอกประยุทธ์ไม่ใช่น้อยๆ
คนที่ไม่รักรัฐบาลทหารก็ใช้อคติ เอเปกรอบนี้ผู้นำไทยไม่มีบทเด่นตรงไหน เทียบผู้นำอินโดนีเซีย หรือกระทั่งสมเด็จฮุนเซนของเขมร ยังไม่ได้...
แต่ผมไม่คิดยังงั้น...ผมคิดว่า งานเอเปกจบลงแล้ว มีเรื่องปะทะกับกลุ่มคนประท้วงบ้าง แต่ก็หวังว่าคงจะผ่านไปได้ ชื่นอก
ชื่นใจไปด้วยกัน ทั้งบรรดาแขกเหรื่อที่มา รวมไปถึงเจ้าบ้าน
ผมใช้หลักผู้เป็นใหญ่ คือประชาชน ชมเชยและยอมรับ ผู้รับใช้ผู้นำรัฐ...หวังให้ท่านซื่อตรงมั่นคงกับงานในหน้าที่ เวลาของงานนายกฯ หากสรุปลงตัวได้ว่าหมดแล้ว
การลาออกเปิดช่องให้คนที่เหมาะควรกว่า เป็นงานเฉพาะหน้าที่ต้องรีบตัดสินใจ
อย่าห่วงไปเลย คนดีศรีอยุธยามีอยู่มากมาย ไม่จำเพาะแต่ทหารพวกเดียว.
กิเลน ประลองเชิง