รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล เผย คัดผู้สมัครบัญชีรายชื่อใกล้สะเด็ดน้ำ มั่นใจขั้นตอนสรรหาผู้สมัครแน่นปึ้ก ไม่มีปัญหาสมองไหล คาดฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอก ม.152 ช่วงปีใหม่

วันที่ 12 พ.ย. 65 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และการเปิดตัวนโยบายพรรคก้าวไกล ว่า พรรคก้าวไกลทยอยเปิดนโยบายเดือนละ 1 เรื่อง แต่ต่อจากนี้จะเปิดเดือนละ 2-3 เรื่อง ต่อไปจะเปิดนโยบายราชการไทยก้าวหน้า เพื่อกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และจะเปิดตัวจนครบนโยบาย 9 เสาหลัก ในเดือนมีนาคม พ.ศ.2566 ส่วนการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 400 เขต พรรคก้าวไกลคัดเลือกตัวได้คืบหน้ากว่า 95 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าต้นเดือนธันวาคมจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน มีผู้สนใจสมัครหลายพันคน เราเริ่มกระบวนการคัดเลือกตามประเด็นที่สนใจ และความถนัดเพื่อให้เกาะติดประเด็นนั้น ขับเคลื่อนผ่านเครือข่ายมวลชน ขณะนี้เราคัดกรองผ่านเข้ารอบมาประมาณ 100 กว่าคน จะต้องคัดให้เหลือ 70 คน เพราะยังมี ส.ส.บัญชีรายชื่อเดิมอีก 30 คน โดยกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จะพิจารณาว่าเครือข่ายไหน และใครอยู่ลำดับบัญชีรายชื่อที่เท่าไหร่

เมื่อถามถึงกระแส ส.ส.ไหลออกจากพรรคก้าวไกล นายณัฐชา กล่าวว่า เราตกผลึกเรื่องการคัดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และคาดว่า จะไม่มี ส.ส.พรรคไหลไปอยู่พรรคอื่น ทั้งนี้จากการยุบพรรคอนาคตใหม่ และการตัดสินคดีความ ได้คัดกรองคนที่จะมาอยู่ที่พรรคได้ระดับหนึ่งแล้ว เรายังมีกระบวนการคัดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ใหม่มากขึ้น ทั้งการทำงานระดับจังหวัด ผ่านกระประเมินการทำงาน จากนั้นเข้าสู่การกลั่นกรองจากคณะกรรมการสรรหาส่วนกลาง ส่งให้คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พิจารณาอีกรอบ ค่อนข้างมั่นใจ 100% ในว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่

...

เมื่อการถึงยื่นญัตติอภิปรายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นเมื่อใด และมีประเด็นหลักๆ อะไรบ้าง นายณัฐชา กล่าวว่า เรื่องกำหนดการยื่นญัตติจะต้องหารือร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งนี้ส่วนตัวคิดว่าช่วงเวลาเหมาะสมในการยื่นญัตติคือช่วงเดือนมกราคม พ.ศ.2566 เพื่อชิงพื้นที่หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม หาเสียงผ่านกลไกอำนาจรัฐ เช่น การแจกของขวัญปีใหม่ การจัดถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากนั้นอาจจะยุบสภาในเดือนมกราคม หรือกุมภาพันธ์ พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงอาจจะยื่นญัตติในช่วงปีใหม่ เพื่อดักไว้ก่อน เพราะรัฐบาลจะมีการใช้กลไกอำนาจรัฐ และงบประมาณ เพื่อเอื้อให้กับพวกพ้องและพรรคการเมืองที่เตรียมเข้ามาจัดต้ังรัฐบาลในนามของตัวเองในสมัยหน้าด้วย สำหรับประเด็นหลักที่จะใช้อภิปรายคือ การเร่งใช้งบประมาณไปในทางที่จูงใจและเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคฝ่ายรัฐบาล การทุจริตคอร์รัปชัน การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่มีเสถียรภาพ และมีปัญหาภายในจนทำให้ไม่มีเวลาแก้ปัญหาของชาติ และพี่น้องประชาชน ซึ่งก็พิสูจน์แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งภายในได้.