โลกร่ำไห้วิปโยคโศกนาฏกรรมส่งท้ายปีเสือดุ เกาหลีใต้ “ฮาโลวีนมรณะ” เบียดเสียดเหยียบกันตายกว่า 150 ศพ อินเดียสะพานถล่มตายหมู่เกิน 140 ราย

เหตุสลดความสูญเสียที่ไม่รู้จะโทษใคร ได้แค่ถอดบทเรียน “ล้อมคอก” กันไว้ให้ดีๆ โดยเฉพาะเมืองไทยปลายทางของนักท่องเที่ยว ช่วงไฮซีซันนี้คงแห่แหนกันมาเต็มบ้านเต็มเมือง

ฉลองเปิดประเทศ ปล่อยผีโควิดปีแรกจากที่อั้นมา 2-3 ปี

การบริหารจัดการมาตรฐานความปลอดภัยต้องยกระดับควบคู่ไปกับรายได้ ทางเศรษฐกิจ ชีวิตของคนมีค่า อย่าให้บ้านเมืองเราเกิดเหตุซ้ำรอย โลกร่ำลือ

เทศกาลแห่งความสุขมันจะกลายเป็นเทศกาลแห่งความเศร้า

ตามปฏิทินเข้าสู่เดือนรองสุดท้าย ก่อนสิ้นปี กลิ่นอายการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บรรยากาศทางการเมืองในโหมดท้ายเทอมรัฐบาล สถานการณ์ ดูเหมือนผู้คนในสังคมไทยจะตั้งตารอ ความหวังใหม่ๆมากกว่า

ไม่สนใจของเก่า มองข้ามปัจจุบัน ไปถึงอนาคตกันแล้ว

อารมณ์หมดหวังจนเลิกหวังกับทีมผู้นำทหารเฒ่าอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม แค่หายใจทิ้ง เผาเวลาให้หมดๆไป

เพราะดื้อด้านยังไง รัฐบาลนี้ก็อยู่ได้ไม่เกินเดือนมีนาคม ต้นปีหน้า

ไหนๆก็กล้ำกลืนฝืนทนกันมา 8 ปี รออีก 4-5 เดือน ก็คงไม่ถึงขั้นลงแดงตาย

และไอ้ที่จะโชว์สปิริตไปก่อนเวลา หวังเปิดทางให้ล้างกระดานกันไวๆก็อย่าฝันหวานไป กระแสข่าวยุบสภาวันนั้น เดือนนี้ มั่นใจกันถึงขั้นระบุวัน ว. เวลา น.

สังเกตว่า มันมาจากฟากของคน อยากคือฝ่ายค้าน ฝั่งรัฐบาลไม่เคยหลุดปาก

คนยุบไม่ได้พูด คนพูดไม่ได้ยุบ

ตามอาการ “บิ๊กตู่” อึดถึกทนมาถึงตรงนี้ ยังไงผู้นำทหารเฒ่าก็ลากเกมอำนาจไปจนหยดสุดท้ายแน่ แค่นับเป็นนาที บวกเพิ่มเป็นชั่วโมงยังมีความหมาย

...

ในเมื่อเส้นทางไปต่อมันไม่ชัวร์ซะแล้ว

แนวโน้มที่น่าเห็นใจและต้องเอากำลังใจช่วยหนักหน่อยก็บรรดาพรรคใหม่ที่ยังขาไม่แข็ง แต่ต้องยืนระยะสู้กับป้อมค่ายเก่าของบรรดาขาใหญ่

ในสภาพเป็นรองทุกกระบวนท่า ทั้งอำนาจรัฐ อิทธิพล เงินจ้างผีโม่แป้ง

กว่าจะถึงดีเดย์เลือกตั้ง กลัวจะหมดแรงข้าวต้มซะก่อน

แต่เมื่อเดินหน้ากันมาถึงขั้นนี้แล้ว ถอยหลังก็หงายท้อง ยังไงก็ต้องใส่เกียร์ห้าเดินหน้าลุยจนถึงเส้นชัย อย่าลืมคนไทยชอบเชียร์มวยรอง

โฟกัสตอนนี้ก็อยู่ที่ 2 ค่าย “ตระกูลสร้าง”

“ไทยสร้างไทย” ต้องมอบโล่ให้ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่โหลดน้ำหนักหลังแอ่น รำอยู่คนเดียวจนแทบไม่เหลือกระบวนท่าแล้ว

ส่อแววต้องหาหุ้นส่วน ดีลควบรวมกิจการ

แต่ที่เล่นเป็นทีมคือ “สร้างอนาคตไทย” ภายใต้ยี่ห้อ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” กับสี่กุมารที่ทยอย “ปล่อยของ” ชุดความคิดกู้เศรษฐกิจ ตอกย้ำ “แต้ม ต่อ” เชิงบริหารที่ปึ้กกว่าทุกป้อมค่าย

ติดที่ “สมคิด” นั้นออกตัวช้าไปหน่อย ต้องคอยระวังออฟไซต์คนบ้าอำนาจ

ที่แน่ๆจากนี้ไปเลิกเหนียมแล้ว แบบที่เห็นทีมแห่ “สมคิด” จัดคิวเดินสายในเมืองกรุง ทัวร์ใต้ ตระเวนอีสาน ขึ้นเหนือ ล่องตะวันออก ไปตะวันตก แบบวันเว้นวัน

จากภาพซาร์เศรษฐกิจห้องแอร์ต้องคลุกฝุ่นลุยโคลนหาเสียงกับชาวบ้านแบบถึงลูกถึงคน

สินค้าขึ้นห้างต้องวางขายหมด ทั้งตลาดบน ตลาดล่าง.

“ตะวัน ทรงกลด”