จับอาการนายกฯลุงตู่ หลังนโยบายเปิดประตูให้ชาวต่างชาติ ซื้อที่ดินเมืองไทยโดนกระแส สังคมถล่มสะบักสะบอม

ถือว่านายกฯลุงตู่ตัดสินใจผิดพลาดอย่างร้ายแรง!!

เพราะการที่รัฐบาลประกาศเชิญชาวต่างชาติฐานะร่ำรวยเข้ามาซื้อที่ดินในเมืองไทย

ในขณะที่คนไทยเจ้าของประเทศกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง

นโยบายมักง่ายของรัฐบาล จึงไปสะกิดต่อมโมโหประชาชนจนเกิดกระแสต่อต้านทั่วบ้านทั่วเมือง!!

“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า เจอกระแสต่อต้านหนักขนาดนี้ “นายกฯลุงตู่” ไม่กล้าเดินหน้าต่อแน่นอน

แต่จะถอยอย่างไรไม่ให้เสียอาการ?? จึงต้องค่อยๆถอยเป็น 3 ขั้นดังนี้คือ...

ขั้นแรก “นายกฯลุงตู่” พร้อมรับฟังความเห็นประชาชนอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ (ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่ฟัง?)

ขั้นที่ 2 ให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลเสนอแก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทย ประเด็นเปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อที่ดินอยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์อย่างถาวร

ขั้นที่ 3 นำกลับเข้าพิจารณาทบทวนใน ครม.เพื่อเปลี่ยนเงื่อนไขจากซื้อขาดเป็นให้เช่าที่ดินระยะยาว 99 ปี!!

พร้อมขยายเงื่อนไขให้ชาวต่างชาติซื้ออาคารชุดเพิ่มจาก 45 เปอร์เซ็นต์ เป็นไม่เกิน 90 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนห้องชุดในโครงการ

หรือจะเหมาซื้อคอนโดทั้งชั้นไม่ผิดกติกา??

แต่...ต้องกำหนดราคาห้องชุดขั้นต่ำที่จะให้ชาวต่างชาติซื้อเป็นกรรมสิทธิ์ให้ชัดเจน!!

เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวต่างด้าวกระเป๋าใหญ่แห่เข้ามาแย่งซื้อห้องชุดเก็งกำไร

และป้องกันไม่ให้ต่างด้าวแย่งซื้อห้องชุดกับคนไทย

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า การที่ “รัฐบาลลุงตู่” ยอมถอยสุดซอย

...

ยกเลิกนโยบายให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดินเมืองไทย เพื่อลดกระแสต่อต้านไม่ให้บานปลาย

ย่อมส่งผลกระทบแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่หวังเงินทุนต่างชาติที่แห่เข้ามาซื้อที่ดินเมืองไทย

แต่การเปิดให้ชาวต่างชาติซื้ออาคารชุดเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว จะได้เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าไทยเพิ่มขึ้นเช่นกัน!!

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า การเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเที่ยวเมืองไทย จะสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าขายที่ดินให้ต่างชาติด้วยซ้ำไป

สิ้นปีนี้ 2565 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไหลทะลักเข้าเมืองไทยเกือบ 10 ล้านคน

ปีหน้า 2566 นักท่องเที่ยวต่างชาติจะทะลุ 20 ล้านคน

สรุป เปิดประตูให้ชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวเมืองไทยก็พอแล้ว

ไม่จำเป็นต้องประเคนขายที่ดินให้ต่างชาตินะจ๊ะลุง.

"แม่ลูกจันทร์"