“ช่อ พรรณิการ์” จวก ส.ส.โหวตคว่ำกฎหมายสุราก้าวหน้า ไม่ใช่ผู้แทนของราษฎร แต่เป็นผู้แทนของนายทุน ฝากประชาชนให้บทเรียนในการเลือกตั้งครั้งหน้า
วันที่ 2 พ.ย. 2565 น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า แสดงความเห็นต่อกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติไม่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... หรือร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า ซึ่งเสนอโดยพรรคก้าวไกล โดยระบุว่า เหตุการณ์ในวันนี้ได้ทำให้เห็นอีกครั้งว่าสภาผู้แทนราษฎรได้กลายเป็นสภาผู้แทนของนายทุนไปแล้ว
น.ส.พรรณิการ์ ระบุต่อไปว่า หากสังเกตเกมการเมืองในวันนี้ โดยเฉพาะการไม่เข้าร่วมลงคะแนนโดย ส.ส.หลายคน รวมถึง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่เคยอภิปรายสนับสนุนร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า ส่งผลให้การลงคะแนนในรอบแรกแพ้ไป 4 คะแนน ต่อมาพรรคก้าวไกลอาศัยข้อบังคับขอให้มีการลงคะแนนใหม่ด้วยการขานชื่อรายบุคคล เป็นการบีบให้ ส.ส.ต้องเปิดหน้าขานคะแนนออกมาตรงๆ ในรอบที่ 2 จะเห็นได้ว่าฝ่ายรัฐบาลพยายามเล่นเกมทำสภาล่ม ไม่เข้ามาแสดงตัวเพื่อลงคะแนน แต่ต่อมาเมื่อเสียงฝ่ายเห็นด้วยเริ่มมากขึ้นและยังครบองค์ประชุม จึงรีบขน ส.ส. กลับมาจนเป็นเหตุการณ์ขานชื่อที่ชุลมุนและสับสนวุ่นวาย
ทั้งนี้ แม้คะแนนจะเฉือนไปเพียง 2 คะแนน แต่ด้วยวิธีการนี้ทำให้ ส.ส. แต่ละคนต้องมาขานชื่อตัวเองต่อหน้าประชาชน ดังนั้น จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคนที่ผิดหวังกลับไปดูผู้แทนราษฎรในเขตของแต่ละคนว่าใครไม่เข้าประชุมในวันนี้ ใครที่ลงคะแนนไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ สำหรับคนที่มีความเชื่อทางศาสนานั้นเป็นที่เข้าใจได้ แต่คนที่มีความเห็นแก่เงินทอนหรือเงินนายทุน ขอให้ดูน้ำหน้าไว้ว่าพวกเขาคือคนที่ไม่ได้เห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน ของเกษตรกรที่สินค้าราคาตกต่ำ รอคอยความหวังที่จะขายได้ราคาดีขึ้น สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะผู้แทนที่ไม่ได้เป็นของราษฎรเหล่านี้
...
อย่างไรก็ตาม นโยบายทลายทุนผูกขาดยังคงเป็นเสาหลักของพรรคก้าวไกล และเชื่อว่าหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ก็สามารถเดินหน้านโยบายสุราก้าวหน้าได้ทันทีโดยการแก้กฎกระทรวงภายในเวลาไม่กี่วันเช่นกัน จากนั้น น.ส.พรรณิการ์ เผยทิ้งท้ายว่า
“ในเมื่อบีบกันขนาดนี้ ผู้แทนไม่ทำหน้าที่ผู้แทนประชาชน แต่กลับทำตัวเป็นผู้แทนนายทุน เล่นเกมการเมืองในสภาฯ ประชาชนจึงเหลือทางเลือกเดียวในการเลือกตั้งครั้งหน้า โหวตให้กับพรรคที่จะสร้างความเจริญก้าวหน้าให้ประเทศนี้พรรคการเมืองที่พร้อมขจัดความเหลื่อมล้ำ ทลายทุนผูกขาด และสำคัญที่สุดเลือก ส.ส. ที่พร้อมทำหน้าที่เพื่อประชาชนในวันที่เดิมพันทั้งหมดอยู่ที่เสียงโหวตของพวกเขา ร่วมกันเปลี่ยนความคับแค้นใจให้เป็นพลังในวันเลือกตั้ง เพื่อปลดปล่อยเศรษฐกิจและอนาคตของประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้า”