พรรคก้าวไกล ขออภัยทำไม่สำเร็จ หลังร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ถูกคว่ำกลางสภาฯ ยอมรับเสียเหลี่ยมผู้เฒ่าในทำเนียบฯ เลือกตั้งครั้งหน้าขอตั้งเป็นนโยบายเรือธง
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 2 พ.ย. 2565 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล แถลงข่าวที่รัฐสภา ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติคว่ำร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... หรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า โดย นายพิธา กล่าวว่า ส่วนตัวมีกำลังใจดี ไม่เสียใจเลย เราเดินทางมาได้ไกลขนาดนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกล ควรที่จะภูมิใจกับผลงาน ควรที่จะยิ้มสู้อยู่ คนที่ร้องไห้ได้คนเดียวคือ นายเท่าพิภพ เราต้องเปิดประตูบานใหม่ คือการเลือกตั้งที่จะถึง นโยบายสุราก้าวหน้าจะเป็นนโยบายเรือธงของพรรค หากประชาชนชอบนโยบายนี้ขอให้เลือกพรรคที่สนับสนุนเรื่องเกี่ยวกับ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ทลายกลุ่มทุนผูกขาด เราเสียดายแต่ไม่เสียใจ
ทางด้าน นายเท่าพิภพ กล่าวเสริมว่า ต้องกราบขออภัยกับทุกคนนอกสภาฯ ที่ทำไม่สำเร็จ แม้จะเป็นตัวเลขเพียง 2 คะแนน แต่แพ้ก็คือแพ้ แบบนี้มันเจ็บปวด ไม่เป็นไร ขอเศร้าแค่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง ยอมรับว่าเสียเหลี่ยมทางการเมืองผู้เฒ่าในทำเนียบรัฐบาล ถ้าเรามีกฎกระทรวงที่อยากให้ตั้งแต่แรก เขาก็คงไม่ออกกฎกระทรวงเช่นนี้มา
...
“ฉะนั้นผมจะร่างเตรียมไว้เลย จะเริ่มแคมเปญตั้งแต่เสร็จ และวันนั้นทุกคนก็จะได้รู้ว่าทำไมต้องเลือกก้าวไกล ซึ่งหากการเลือกตั้งครั้งหน้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราก็แก้ได้ภายใน 2-3 วัน จริงๆ เราไม่ได้เสียใจที่ไม่ผ่าน แต่เรารู้สึกว่าเราได้ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว”
สำหรับการลงมติร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เกิดขึ้น 2 ครั้ง โดยครั้งแรกลงคะแนนด้วยการกดผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีคะแนนเห็นด้วย 173 เสียง และไม่เห็นด้วย 177 เสียง จากนั้นพรรคก้าวไกลจึงขอใช้ข้อบังคับการประชุมในกรณีที่คะแนนห่างกันไม่ถึง 25 คะแนน สามารถขอให้มีการนับใหม่ได้ ซึ่งครั้งที่ 2 เป็นการลงมติแบบขานชื่อ ผลปรากฏว่า เห็นด้วย 194 เสียง และไม่เห็นด้วย 196 เสียง ทำให้ร่างดังกล่าวต้องตกไปในวาระที่ 3