หากรัฐบาลยังดึงดันไม่ทบทวนกรณีปลดล็อกให้ชาวต่างชาติถือครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ แลกกับการลงทุนแค่ 40 ล้านบาท ก็จะโดนปั่นกระแสยัดข้อหารัฐบาลขายชาติ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย คงต้องชั่งน้ำหนักว่าคุ้มหรือไม่ที่จะเดินหน้าต่อ

เรื่องการให้ต่างชาติสามารถถือครองที่ดินไม่ใช่เรื่องใหม่ หลายประเทศทั่วโลกก็เปิดโอกาสให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้ โดยมีรูปแบบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแตกต่างกันไป บางประเทศทำแล้วได้เม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นมหาศาล บางประเทศทำแล้วประสบปัญหา

สำหรับประเทศไทยในยุครัฐบาลทักษิณเคยออก กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว พ.ศ.2545 ยังมีผลบังคับใช้จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีหลักเกณฑ์เงื่อนไขค่อนข้างเข้มงวด ทำให้ตลอด 20 ปีที่ผ่านมามีชาวต่างชาติเพียงไม่กี่รายที่เข้าเกณฑ์ และได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยให้ถือครองที่ดินได้

ส่วน มติ ครม.วันที่ 25 ต.ค.65 ที่อนุมัติหลักการ “ร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง พ.ศ....” เปิดให้กลุ่มคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภทที่ได้รับวีซ่าพำนักระยะยาว (LTR Visa) ได้แก่ 1.กลุ่มประชากรโลกที่มีความมั่งคั่งสูง 2.กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ 3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย 4.กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ สามารถซื้อที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับตนเอง โดยมีเงื่อนไขต้อง มีจำนวนเงินลงทุน ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท และ ดำรงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี เช่น การซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน

...

เมื่อเทียบกับกฎกระทรวงยุคทักษิณ ร่างกฎกระทรวงยุคบิ๊กตู่ได้ ลดเงื่อนไขระยะเวลาการลงทุนจาก 5 ปี เหลือแค่ 3 ปี และ เปิดกว้างประเภทการลงทุนมากขึ้น แทนที่จะจำกัดเฉพาะ การลงทุนในภาคธุรกิจอย่างแท้จริง เพื่อให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ให้คนไทย กลับเปิดทาง ให้ นักลงทุนในตลาดการเงิน ได้สิทธิด้วย ซึ่งถูกมองเป็นเพียงการลงทุนระยะสั้นและสามารถถอนทุนกลับไปได้ง่าย

เงินลงทุนแค่ 40 ล้านบาท ในภาวะปัจจุบันถือว่าเล็กน้อย ในเมื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน น่าจะกำหนดวงเงินขั้นต่ำ 300-400 ล้านบาท จะได้คัดกรองเศรษฐีตัวจริง นักลงทุนรายใหญ่ ไม่ใช่ได้แต่นักลงทุนในตลาดเงิน จะแลกกับที่ดิน 1 ไร่ทั้งทีก็ควรให้คุ้มค่ากว่านี้

ทุกวันนี้คนต่างชาติโดยเฉพาะคนจีนแอบถือครองที่ดินผ่านนอมินีคนไทยเยอะแยะ ต่อไปไม่ต้องใช้คนไทยบังหน้าแล้ว เอาเงิน 4,000 ล้านบาท แยกกระจายให้คนจีน 100 คน เป็นนอมินีมาลงทุนในไทยคนละ 40 ล้านบาท ก็มีสิทธิซื้อที่ดินได้ 100 ไร่ เศรษฐีจีนยุคใหม่มีจำนวนไม่น้อยที่พร้อมลงทุน 4,000 ล้านบาท

การกระตุ้นการลงทุนด้วยมาตรการนี้ ถ้าไม่ได้ผลก็ไม่คุ้มค่าถูกด่าถูกโจมตี แต่หากสำเร็จตามเป้านักลงทุนแห่กันมา ต่างชาติก็จะได้ถือครองที่ดินจำนวนมาก จริงอยู่ที่ดินซื้อไปก็เอากลับประเทศไม่ได้ แต่อาจมีที่ดินบางโซนที่เป็นอาณาจักรของคนต่างชาติไปเลย และอาจส่งผลให้ราคาบ้านและที่ดินสูงขึ้น ในขณะที่ปัจจุบันคนไทยกว่าครึ่งประเทศยังไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง ต่อไปยิ่งจะไม่มีปัญญาซื้อบ้านได้

นอกจากนี้ยังเสี่ยงเกิด ปัญหาสังคมและอบายมุข ที่อาจแฝงเข้ามาในคราบนักลงทุน ที่เป็นข่าวครึกโครมช่วงนี้ ทั้งผับศูนย์เหรียญขายยานรก บ่อนออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์

รัฐบาลมองแค่มุมเศรษฐกิจอย่างเดียว โดยไม่ได้คำนึงผลกระทบด้านอื่นที่จะตามมาอีกมาก ตอนนี้มีเสียงสะท้อนหลากหลายแง่มุมมาแล้ว ควรรีบทบทวนหรือหาวิธีอุดช่องโหว่ทันที ไม่ต้องรอถึง 5 ปีหรอก.

“ลมกรด”