เครือข่ายตื่นรู้สู้ภัยสารเสพติดฯ ยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ เรียกร้องรัฐบาล 3 ข้อ ให้เร่งแก้ปัญหายาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ และครบวงจรทั่วประเทศ

ที่อาคารรัฐสภา วันนี้ (12 ตุลาคม 2565) นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือเรียกร้องจาก นายดิเรก จอมทอง ประธานเครือข่ายตื่นรู้สู้ภัยสารเสพติดสุขภาพจิตภาคประชาชน และคณะ นำโดย นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ เรื่อง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดแก้ปัญหาระบบและกระบวนการบำบัดสารเสพติดสุขภาพจิตให้มีประสิทธิภาพ ครบวงจรทั่วทั้งประเทศโดยเร็ว

ขณะที่หนังสือนั้นมีการระบุว่า สืบเนื่องจากเหตุกราดยิงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดหนองบัวลำภู ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เป็นโศกนาฏกรรมร้ายแรงที่ชาวไทยทุกคนมีความรู้สึกร่วมกันว่า อาการทางจิตจากสารเสพติดเป็นภัยใกล้ตัวเราเข้ามาทุกขณะ เหตุกราดยิงที่เป็นฝันร้ายครั้งนี้เปรียบได้กับระเบิดเวลาของปัญหาสารเสพติดสุขภาพจิตที่ซุกซ่อนอยู่ในสังคมไทย พร้อมจะระเบิดได้ทุกเวลาทุกสถานที่ จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาล สภาผู้แทนราษฎร ภาคประชาสังคม ต้องรีบช่วยกันถอดบทเรียน เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา หาทางออก ด้วยการปลดชนวนระเบิดเวลา ไม่ให้ปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นมาอีก เครือข่ายตื่นรู้สู้ภัยสารเสพติดสุขภาพจิตภาคประชาชน ประกอบด้วย สมาชิกเครือข่ายทางสังคมจากทั่วประเทศไทย ได้ร่วมกันระดมข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อเรียกร้อง ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งเรื่องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาสารเสพติดสุขภาพจิต ดังนี้

...

1. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดแก้ปัญหาระบบและกระบวนการบำบัดสารเสพติดสุขภาพจิต ให้มีประสิทธิภาพ ครบวงจร ทั่วทั้งประเทศ ซึ่งข้อเท็จจริงปัจจุบันระบบและกระบวนการบำบัดสารเสพติดและสุขภาพจิตยังไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ครบวงจร ไม่ครอบคลุมทุกชุมชนทั่วทั้งประเทศ ผู้ใช้สารเสพติดที่มีปัญหาสุขภาพจิตจำนวนมากไม่ได้เข้าสู่ระบบบำบัด ส่วนผู้เข้าสู่ระบบบำบัดส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถเลิกสารเสพติดได้ มีอัตราการติดซ้ำสูง มีการเลิกบำบัดกลางคันสูง ระบบบำบัดไม่มีส่วนร่วม จากภาคส่วนต่างๆ เท่าที่ควร สถานที่บำบัดไม่ครบวงจร สถานที่ไม่พร้อม บุคลากรไม่พร้อม ไม่มีระบบติดตามที่มีประสิทธิภาพ ไม่มีศูนย์บำบัดในชุมชนที่เป็นรูปธรรม เข้าถึงง่าย ที่สามารถรองรับผู้เข้ารับการบำบัดได้ทั้งหมด ไม่มีศูนย์บำบัดที่สามารถเข้าพักระยะสั้น ระยะยาว ที่สามารถใช้กระบวนการบำบัดได้เต็มรูปแบบ ตั้งแต่ขั้นตอนการบำบัดถอนพิษสารเสพติด ขั้นตอนการบำบัดฟื้นฟูสภาพร่างกายจิตใจ การบำบัดฟื้นฟูแบบชุมชนบำบัด การติดตามประเมินผลการบำบัด การส่งต่ออย่างไร้รอยต่อของระบบบำบัด ทำให้ผู้เข้ารับการบำบัดที่ยังไม่มีความพร้อมทั้งร่างกายจิตใจ ต้องกลับไปใช้ชีวิต ประกอบอาชีพในสังคม ด้วยความเสี่ยง ต่อตนเอง และสังคม

อนึ่ง ปัจจุบันชุมชนก็ไม่มีระบบคัดกรองผู้ใช้สารเสพติดอย่างทั่วถึงร้อยละ 100 เพื่อนำไปบำบัด จึงปล่อยผู้ใช้สารเสพติดที่มีปัญหาสุขภาพจิตอยู่ปะปนในชุมชน ในสภาพแวดล้อมที่มีการแพร่ระบาดของสารเสพติด บางครอบครัวก็ไม่มีความพร้อมเครือข่ายจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดแก้ปัญหาระบบและกระบวนการบำบัดสารเสพติดสุขภาพจิต ให้มีประสิทธิภาพ ครบวงจรทั่วทั้งประเทศโดยเร็ว

2. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดป้องกันปราบปรามการแพร่ระบาดของสารเสพติดในทุกชุมชน ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกชุมชนมีการแพร่ระบาดของสารเสพติดทุกชุมชนเครือข่าย จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดป้องกันปราบปรามการแพร่ระบาดของสารเสพติดในชุมชนอย่างเอาจริงเอาจังทั้งประเทศ

3. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพ

ทางด้าน นายบัญญัติ กล่าวเสริมว่า ได้รับการประสานจากเครือข่ายตื่นรู้สู้ภัยสารเสพติดสุขภาพจิตภาคประชาชน เพื่อนำข้อร้องเรียนส่งถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมทั้งเร่งรัดแก้ปัญหาระบบและกระบวนการบำบัดสารเสพติดสุขภาพจิต ผ่านที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร.