โฆษกรัฐบาล แจงปมเกษตรกรยาสูบร้องเรียนไม่ได้รับการเยียวยา เผยฯ นายกฯ ห่วงใย สั่งการให้ดูแลช่วยเหลือแล้ว ยืนยันอยู่ระหว่างการพิจารณาให้การช่วยเหลือตามขั้นตอน

วันที่ 12 ตุลาคม 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยกรณีการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบและผู้บ่มอิสระ โดยได้สั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 ให้ตรวจสอบให้เกษตรกรได้รับความช่วยเหลืออย่างถูกต้อง เหมาะสม ตามสิทธิ์โดยด่วน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวชี้แจงว่า การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบและผู้บ่มอิสระเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 ซึ่งได้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 159.69 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบและผู้บ่มอิสระในฤดูการผลิต 62/63 ที่ร่วมโครงการ จำนวน 14,292 ราย สำนักงบประมาณได้จัดสรรเงินงบกลางไปให้เรียบร้อยแล้ว โดยการยาสูบแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการจ่ายให้กับเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ตามหลักเกณฑ์ โครงการฯ ครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว จำนวน 12,936 ราย เป็นเงิน 125.0953 ล้านบาท (ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ 1,356 ราย) และมีวงเงินคงเหลือจากกรอบที่อนุมัติ จำนวน 34.5947 ล้านบาท ซึ่งการยาสูบแห่งประเทศไทย แจ้งคืนเงินงบกลางฯ ดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ ต่อกรณีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ (เบอร์เลย์) จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งได้มีข้อร้องเรียนต่อท่านนายกรัฐมนตรีในการช่วยเหลือในฤดูการผลิต 63/64 นั้น พบว่า การยาสูบแห่งประเทศไทยได้รับเรื่องจากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาให้การช่วยเหลือ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน เมื่อพิจารณาแล้วเสร็จจะเสนออัตราการเยียวยาต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอใช้งบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี พ.ศ.2559 และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนโดยด่วนต่อไป

...

“นายกรัฐมนตรีห่วงใยการให้ความช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มซึ่งได้มีการติดตามในการประชุมอยู่เสมอ อย่างไรก็ดีในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณนั้นต้องเป็นไปตามระเบียบ ขั้นตอน ของส่วนราชการ ซึ่งในส่วนนี้นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอน เมื่อแล้วเสร็จให้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรฯ อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง ทันที” นายอนุชา กล่าว

นอกจากนี้ยังมีโครงการสนับสนุน “ค่าปัจจัยการผลิต” ที่สูงขึ้นให้แก่เกษตรกร ฤดูการผลิต 2565/2566 ซึ่งใช้เงินประมาณ 112.32 ลบ. ซึ่งการยาสูบฯ ได้มีมติบอร์ดแล้ว โดยให้ใช้เงินของการยาสูบฯ ช่วยเหลือร้อยละ 50 ของต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น คิดเป็น 56.16 ลบ. ส่วนที่เหลืออีก 56.16 ลบ. การยาสูบฯ อยู่ระหว่างเสนอขออนุมัติจากงบกลางตามระเบียบขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ การยาสูบฯ จะจ่ายเงินให้เกษตรกรเมื่อการยาสูบฯ รับซื้อใบยาสูบของฤดูการผลิต 65/66 คือช่วงประมาณ เมษายน-พฤษภาคม 66.