พญ.อัมพร เผยพบผู้สูญเสียโดยตรง และผู้บาดเจ็บจากเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู เพิ่มจาก 170 คน เป็น 260 คนแล้ว หลังพิธีพระราชทานเพลิงศพ เตรียมดูแลจิตใจเป็นรายบุคคล ส่วนอาการผู้บาดเจ็บดีขึ้นตามลำดับ

วันที่ 11 ต.ค. 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต แถลงข่าว “ความคืบหน้าการดูแลจิตใจพื้นที่หนองบัวลำภู” โดยได้เปิดคลิปแม่ผู้ก่อเหตุกราดยิง จ.หนองบัวลำภู กล่าวขอโทษเหยื่อและครอบครัวเหยื่อ พร้อมระบุว่า ทางทีมเยียวยาสุขภาพได้เข้าไปดูแลแล้วเมื่อวานนี้ เพราะเหตุการณ์นี้มีผลต่อสภาพจิตใจต่อตัวแม่ เพื่อนบ้าน และสถานการณ์โดยรอบ

นอกจากนี้ ทางนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้ทีมดูแลสภาพจิตใจและร่างกายในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยทางสาธารณสุขเขต 8 กำลังดูแลอย่างเข้มข้น ซึ่งล่าสุด ผู้บาดเจ็บ 2 ราย ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ก็มีดีขึ้นตามลำดับ ส่วนเด็กที่อยู่ในห้อง ICU อาการไข้ลดลงแล้ว สภาพการรับรู้ดีขึ้นอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ ที่อยู่ในห้อง ICU

ส่วนที่รักษาตัวใน รพ.หนองบัวลำภู ทั้ง 2 คนนั้น พบว่า มี 1 รายหายใจเองได้ดีขึ้น พูดคุยได้เป็นคำๆ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจะสามารถย้ายออกจากห้อง ICU ได้ในเร็ววันนี้ ขณะที่เด็กที่มีอาการสมองบวม และต้องเข้าห้องผ่าตัด ก็พบว่าอาการดีขึ้นแล้วเช่นกัน โดยทุกรายจะได้รับการดูแลทางร่างกายเช่นเดียวกับจิตใจ

พญ.อัมพร ยังระบุถึง การคุกคามครอบครัวผู้ก่อเหตุ และปัญหาตั้งข้อสงสัยครอบครัวผู้ก่อเหตุ ที่ทำให้แม่ผู้ก่อเหตุ สะท้อนมายังทีมเยียวยาจิตใจ จึงต้องการสื่อสารเพื่อแสดงความเสียใจ และระบุว่าไม่ได้ถูกคุกคามตามที่เป็นข่าว ยังคงได้กำลังใจจากเพื่อนบ้าน จึงขอสื่อมวลชนอย่านำเสนอข่าวปลุกเร้าอารมณ์ เพราะอาจจะมีปัญหาต่อตัวแม่ผู้ก่อเหตุได้ และเพื่อให้เป็นผลดีกับทุกๆ ฝ่าย เพราะความเห็นอกเห็นใจกันจะเป็นสิ่งสำคัญให้ครอบครัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเดินหน้าต่อไปได้อย่างเป็นปกติสุขในชุมชนได้

...

ขณะที่ในกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้สูญเสียโดยตรง และผู้บาดเจ็บ วันนี้พบว่าเพิ่มขึ้นจากจำนวน 170 คน เป็น 260 คน ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อการดูแลสภาพจิตใจ เพราะมีอาสาสมัครเข้ามาช่วยดูแลเพิ่มเติม และหลังจากพิธีพระราชทานเพลิงศพเสร็จสิ้น ทางกระทรวงสาธารณสุขจะเข้าไปดูแลสภาพจิตใจเป็นรายบุคคลต่อไป ว่ามีความรุนแรงหรือเรื้อรังมากน้อยเพียงใด และจะมุ่งดูแลกลุ่มสีแดงเป็นพิเศษ รวมถึงกลุ่มสังคมรอบข้าง ทั้งกู้ภัย และโรงเรียน จะดูแลตั้งแต่ระยะ 2 สัปดาห์ ไปจนถึง 3 เดือน