“ธนกร” ป้อง “บิ๊กตู่” อัด “พิชัย” แค่คนส่วนน้อยที่คิด ตัวเองเป็นกูรูแล้วทึกทักเอาเองว่าเป็นคนส่วนใหญ่ เหน็บ รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้โกงจนประเทศเจ๊งมาก ชมนายกฯ บริหารโควิด-19 จนไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ชี้ ศบค.เป็นโมเดลการบริหารสถานการณ์ในภาวะวิกฤติ

วันที่ 4 ต.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ ด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อ สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนจำนวนมาก ที่ผ่านมาคิดว่า ตนเองทำได้ดี ประเทศก้าวหน้า ทั้งที่ประเทศเพื่อนบ้านแซงหน้าไปหมดแล้ว ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์รอด แต่คนไทยน่าจะไม่รอด ว่า ก่อนที่นายพิชัยจะว่าคนอื่น ก็อยากให้ย้อนดูตัวเองเสียก่อน การอ้างว่า สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนจำนวนมากนั้น น่าจะเป็นคนส่วนน้อยอย่างนายพิชัยเสียมากกว่า แล้วทึกทักว่า ตัวเองเป็นประชาชนส่วนใหญ่ และการบอกว่าที่ผ่านมาคิดว่าตนเองทำได้ดีก็น่าจะเป็นนิสัยของนายพิชัยเอง ที่คิดเอง เออเอง เสมอว่าสมัยเป็นรัฐมนตรีตัวเองเป็นกูรูเศรษฐกิจ คงทำได้ดี ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ส่วนการบอกว่า รัฐบาลยิ่งกู้เงินมากยิ่งเจ๊งมากนั้นก็ไม่เป็นความจริง แต่อย่างน้อยที่เห็นได้ชัดเจนคือ รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้โกงจนประเทศเจ๊งมากเหมือนรัฐบาลที่นายพิชัยคุ้นเคยดี ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศทราบเรื่องนี้ดี หากยังปล่อยให้มาบริหารประเทศต่อไป คนไทยคงลำบากมากขึ้น เพราะคิดว่า ตัวเองเก่งอยู่คนเดียว จึงสั่งสอนด้วยการให้เป็นฝ่ายค้านแต่ก็ยังไม่สำนึก

นายธนกร กล่าวอีกว่า การบริหารประเทศของท่านนายกฯ ที่ผ่านมา ได้รับเสียงชื่นชมจากนานาประเทศมากมาย โดยเฉพาะที่เห็นได้ชัดเจนและเป็นรูปธรรมคือการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ที่มีการจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์สถานการณ์และข้อมูลที่เป็นประโยชน์สร้างการรับรู้ที่ถูกต้องให้กับประชาชน ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่มีการแพร่ระบาด โดยมีการประชุมอย่างต่อเนื่อง และสื่อสารเป็นประจำทุกวัน สร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทย ซึ่ง ศบค. เป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดของความสำเร็จที่เกิดจากการทำงานอย่างบูรณาการกันของทุกภาคส่วน จนประเทศไทยได้รับการยอมรับ ชื่นชม และได้รับเกียรติให้เป็นตัวอย่าง ประเทศที่บริหารจัดการวิกฤติโควิดได้ดีที่สุดประเทศหนึ่งในโลก เป็นโมเดลการบริหารสถานการณ์ในภาวะวิกฤติ แม้วันนี้ได้ปิดศูนย์ ศบค. ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 แต่ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลในการบริหารงานในภาวะวิกฤติได้อย่างเป็นรูปธรรม

...

“ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ยาวนานกว่า 2 ปี ท่านนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และผู้อำนวยการ ศบศ. ดำเนินมาตรการด้านสาธารณสุขควบคู่กับมาตรการทางด้านเศรษฐกิจมาโดยตลอด ทั้งการวางแผนรักษา และการป้องกันด้วยวัคซีน ตลอดจนการช่วยเหลือ เยียวยา และบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนทุกอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัยที่ได้รับผลกระทบต่างๆ ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวัน และประกอบอาชีพได้ท่ามกลางวิกฤติ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจนวันนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย และชาวต่างต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทย สร้างรายได้หลักให้กลับมาตามลำดับ ผมขอขอบคุณท่านนายกฯ คณะแพทย์ บุคคลากรด้านสาธารณสุข รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่อุทิศตน ทุ่มเท เสียสละ และอดทน จนทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ” นายธนกร กล่าว