“พล.อ.ประยุทธ์” เผย มีแผนลงพื้นที่อื่น แต่ขอดูสถานการณ์และต้องไม่เป็นภาระเจ้าหน้าที่ ยืนยัน ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ปัดตอบวาง “บิ๊กแป๊ะ-บิ๊กแดง” เป็นทายาททางการเมือง บอก อนาคตคืออนาคต
เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 3 ต.ค. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัย และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และร่วมรับประทานอาหารกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า วันนี้มาติดตามสถานการณ์น้ำ ได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการทุกจังหวัด และในฐานะที่กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบศูนย์บรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ
สำหรับวันนี้เป็นการมาให้กำลังใจซึ่งกันและกัน พร้อมกับติดตามสถานการณ์และรับฟังการคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใย และขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ลงไปตรวจเยี่ยมสถานการณ์ในพื้นที่ และวันที่ 4 ต.ค. 2565 ตนเองจะไปลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.ขอนแก่น เพื่อดูสถานการณ์หน้างานพร้อมให้กำลังใจ พร้อมกันนี้ ขอชื่นชมการทำงานในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงขอให้กำลังใจประชาชน และเจ้าหน้าที่ทุกคนทุกภาคส่วนที่มีส่วนในการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในทุกภาคของประเทศ
...
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า หลายหน่วยงานร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูล เรื่องสำคัญ สภาพการณ์อากาศ ที่คาดการณ์ว่าต้องมีแผนสำรองรองรับ กรณีหากมีกลุ่มมวลความกดอากาศที่จะเข้ามาอีก รวมถึงต้องหาทางเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขัง และต้องหาทางลดความเสียหายให้ได้มากที่สุด ขณะที่หน่วยงานราชการก็ต้องเตรียมมาตรการ และจัดเตรียมงบประมาณสำหรับการช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด และทั่วถึงไปยังทุกภาคส่วน โดยในระยะต่อไปต้องเตรียมความพร้อมสำหรับน้ำท่วมภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ดังนั้นวันนี้เราจะทำให้ดีที่สุด ขอบคุณเจ้าหน้าที่หน้างานทั้งหมด พลเรือน ตำรวจ ทหาร รวมถึงภาคธุรกิจ เอกชน จิตอาสา และมูลนิธิต่างๆ นี่คือประเทศไทยของเราที่ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการบรรเทาความเดือดร้อน และสร้างขวัญกำลังใจซึ่งกันและกัน นี่คือภารกิจสำคัญของพวกเราทุกคน
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าได้เตรียมแผนในการลงพื้นที่พบปะ และเยี่ยมเยือนประชาชนอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เตรียมแผนไว้แล้ว แต่ต้องดูสถานการณ์ สภาพอากาศ และต้องดูด้วยว่าไปลงพื้นที่ตรงนั้นแล้วจะไปเป็นภาระคนอื่นด้วยหรือไม่ เพราะไม่อยากไปเป็นภาระให้กับใคร เราก็ต้องคิดถึงตรงนี้ด้วย เป็นเรื่องการดูแลพื้นที่ในภาพรวม ส่วนเรื่องที่ระบุในที่ประชุมไม่ให้มีการชูป้ายต้อนรับ หากมีประชาชนต้องการจะให้กำลังใจจะทำอย่างไรนั้น พล.อ.ประยุทธ์ หัวเราะ พร้อมตอบว่า “ที่ผ่านมาก็รู้ว่าหลายๆ คนให้กำลังใจผมมาตลอด ผมก็ขอขอบคุณมากๆ แต่อย่าให้เป็นภาระเลย ตราบใดที่ผมยังทำหน้าที่อยู่ จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
ส่วนคำถามถึงอนาคตทางการเมืองหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึงปี 2568 ที่จะเหลือเวลาอีกประมาณ 2 ปี พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “อนาคตคืออนาคตนะจ๊ะ” เมื่อถามต่อไปว่าจะตัดสินใจอย่างไร เพราะถ้าไปต่อจะไปได้แค่ 2 ปี รวมถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีกระแสข่าว หรือจะยุบสภา และมีการเตรียมทายาททางการเมืองไว้หรือไม่ เพราะมีการมองถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา (บิ๊กแป๊ะ) อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ (บิ๊กแดง) อดีตผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถาม ก่อนที่จะเดินขึ้นรถ ยิ้มหวาน พร้อมโบกมือลา
ทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ ปฏิเสธตอบคำถามถึงการให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ ในการกลับมาทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวว่าคุยกันเรื่องงาน เมื่อถูกถามว่าถ้าประชาชนจะมาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในการลงพื้นที่ ขณะที่นายกรัฐมนตรีกำชับผู้ว่าราชการจังหวัดว่าไม่ให้มีนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ตอบว่า “เมื่อกี้นายกฯ บอกผู้ว่าฯ ไปแล้ว”