“บิ๊กตู่” รอด พปชร.ยุ่ง ลูกหาบ “บิ๊กป้อม” ตั้งแง่ “นายกฯตู่” ไปต่อได้แค่ 2 ปี “วีระกร” เผยพรรคจะเสนอชื่อแคนดิเดต 3 คนไม่ใช่ “ประยุทธ์” คนเดียว ดัน “ลุงป้อม” ขึ้นรถเมล์เที่ยวสุดท้ายชิงเก้าอี้นายกฯ เตะโด่ง “บิ๊กตู่” ไปนั่งรองนายกฯ หรือ รมว.กลาโหมหรือ มท.1 “รงค์” หยอดพ้นบ่วง 8 ปีเติมความมั่นใจให้รัฐบาล พปชร.ตีกันปรับ ครม.ไม่ต้องรีบ คลายทุกข์ชาวบ้านสำคัญกว่า “เพื่อไทย” ตีปี๊บ “ลุงตู่” อยู่ยาวยิ่งช่วยแลนด์สไลด์ “ประเสริฐ” เสี้ยม พปชร.คงไม่ส่งนั่งนายกฯอีก “ก้าวไกล” เย้ย “ประยุทธ์” รอด พปชร.ร่วง “ปดิพัทธ์” เชื่อยื้อยุบสภารอต้อน ส.ส.เข้าคอก ฝ่ายค้านเล็งใช้ ม.152 เปิดสภาฯขย่มย้ำแผล 8 ปี 15 องค์กรนักศึกษาแถลงการณ์ต้านนายกฯเถื่อน เครือข่ายม็อบราษฎรปลุกแนวร่วมรื้อระบอบประยุทธ์กับเพื่อนพ้องปรสิต

หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สิ้นสุดลง ยังดำรงตำแหน่งไปได้อีก กว่า 2 ปี ล่าสุดได้เกิดปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในการพิจารณาเสนอรายชื่อแคนดิเดตโหวตชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในสภาฯ หลังการเลือกตั้งปี 2566

...

พปชร.จ่อชงแคนดิเดตนายกฯ 3 คน

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. นายวีระกร คำประกอบ ส.ส. นครสวรรค์ กล่าวถึงแนวทางการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งสมัยหน้า ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การนับวาระดำรงตำแหน่งนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นได้ถึงปี 2568 ว่า การเสนอชื่อคนเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค พปชร.ในการเลือกตั้งรอบหน้าเชื่อว่าจะเสนอรายชื่อให้ครบทั้ง 3 คน ไม่เสนอแค่คนเดียวแต่จะเสนอชื่อทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพปชร. อีกคนกำลังพิจารณาอยู่ เพราะทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตรต่างเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนจำนวนมาก ต้องดึงคะแนนนิยมแต่ละคนมาช่วยทำคะแนนให้พรรค แม้จะบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์มีคนไม่ชอบเยอะ แต่มีแฟนประจำมากพอสมควร ส่วนการหาเสียง
ถ้าชาวบ้านถามว่าจะเสนอใครเป็นนายกฯ จะบอกว่าอยู่ใน 3 คนที่เสนอชื่อมา พรรคเพื่อไทยรอบที่แล้วเสนอชื่อ 3 คน ไม่มีใครถามจะเอาใครเป็นนายกฯ

ดัน “ลุงป้อม” ขึ้นชั้นชิงเก้าอี้นายกฯ

นายวีระกรกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงตอนเสนอชื่อนายกฯ เพื่อโหวตในสภาฯคงต้องเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อได้แค่ 2 ปี อาจให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นรองนายกฯ หรือ รมว.กลาโหม ยืนยันการเลือกตั้งรอบหน้า 3 ป. ยังไปด้วยกัน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เล่นการเมืองไม่เป็น คนเล่นการเมืองคือ พล.อ.ประวิตรคนเดียว ส่วน พล.อ.ประยุทธ์เป็นฝ่ายบริหาร ไม่เล่นการเมือง ไม่สุงสิงกับ ส.ส. ปราศรัยไม่เป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมาอยู่ด้วยคงจะแห้ว พล.อ.ประยุทธ์ไม่มาล่มหัวจมท้ายด้วยแน่ เพราะเป็นนายกฯ ได้อีกแค่ 2 ปี จะมาชู พล.อ.ประยุทธ์ได้อย่างไร

เตะ “ลุงตู่” ไปรองนายกฯ-กห.-มท.

“สมัยหน้าเป็นรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่จะมี ส.ว.มาช่วยสนับสนุน ดังนั้นต้องดันลุงป้อมเป็นนายกฯ ส่วนลุงตู่ไปเป็นรองนายกฯ หรือ รมว.กลาโหม หรือโยกเป็น รมว.มหาดไทยก็ได้ ถึงลุงตู่เคยเป็นนายกฯ มาแล้ว จะมาเป็นรองนายกฯ ก็ไม่เป็นไร เพราะ 3 คนพี่น้องแน่นเฟ้นกันเหนียวแน่น มองบ้านเมืองเป็นหลัก” นายวีระกรกล่าว

มั่นใจ ส.ส.ไม่ทิ้งค่ายตีจาก พปชร.

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อได้อีก 2 ปี จะมี ส.ส.อยู่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐมากขึ้นหรือไม่ นายวีระกรตอบว่า มั่นใจพรรคพลังประชารัฐยังมีโอกาสสูงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเที่ยวหน้า เพราะมี ส.ว.250 คน สนับสนุนการโหวต จึงมีแรงดึงดูดให้ ส.ส.อยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อไป ส่วนการปรับ ครม. ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่มีใครปรับ เพราะคนที่ไม่ได้ก็ไม่พอใจ ยังดีที่พรรคพลังประชารัฐส่วนใหญ่เป็นเด็กรุ่นใหม่ ยังไม่เขี้ยวที่จะมาบีบบังคับกดดันกัน

“ชัยวุฒิ” อวย “ประยุทธ์” หัวใจยิ่งใหญ่

ขณะที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร.ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยตัดสินวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ยังไม่ครบ 8 ปีว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อว่าท่านนายกฯ มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ อาจจะพูดไม่หวาน เป็นคนตรงไปตรงมา แต่สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ คือความจริงใจและความตั้งใจ นั่นคือพลังศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ในการทำเพื่อแผ่นดิน

แม่ รมต.รำแก้บนศาลหลักเมืองฯ

เมื่อเวลา 08.00 น. นางภรณี ธนาคมานุสรณ์ แม่ของนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมเพื่อนๆแต่งชุดสีสันสวยงามมารำแก้บนรอบศาลหลักเมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี จำนวน 9 รอบ ส่งเสียงตะโกนว่า “ไชโยๆ ลุงตู่อยู่ต่อ” เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้บนบานศาลกล่าวขอให้นายกฯได้ไปต่อ

“รงค์” กั๊กปรับ ครม.ยังไม่เร่งด่วน

นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช กรรมการบริหารพรรค พปชร. กล่าวถึงการเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯในบัญชีพรรค พปชร.ว่า ยังไม่ถึงขั้นตอนตรงนั้น พรรคยังไม่มีการประชุม หัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคต้องพูดคุยกัน วิเคราะห์ให้รอบด้าน ยังมีเวลาขบคิดกัน แต่จากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ได้สร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้มากขึ้นถึงการทำงานของรัฐบาลและพรรค พปชร. ส่วนจะมีการปรับทัพปรับ ครม.หรือไม่ เป็นเรื่องของผู้บริหารและกรรมการบริหารพรรค แต่ยังไม่ใช่ประเด็นตอนนี้ ยังมีปัญหาน้ำท่วม ที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขก่อนเป็นเรื่องใหญ่กว่า ความปลอดภัยของประชาชนจากธรรมชาติและปัญหาปากท้องประชาชนต้องมาก่อน เรื่องปรับ ครม.ไม่ใช่ ประเด็นสำคัญต้องมาเร่งทำ จนทิ้งความรับผิดชอบต่อความเดือดร้อนของประชาชนที่ใหญ่กว่า

พท.ยิ้ม “ลุงตู่” อยู่ยาวยิ่งแลนด์สไลด์

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ยังไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ว่า ดีมากเป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทยมากๆ เพราะสิ่งที่เราได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนเรื่องการแลนด์สไลด์เพิ่มขึ้นตลอด ผลหลักเรื่องหนึ่งคือวิกฤติที่ พล.อ.ประยุทธ์สร้างขึ้น จากการบริหารราชการแผ่นดินของ พล.อ.ประยุทธ์ และองคาพยพ ที่ทำให้ประชาชนเจอวิกฤติหลายด้าน การอยู่ต่อของ พล.อ.ประยุทธ์ทำให้เงื่อนไขนี้ดำรงคงอยู่ เป็นประโยชน์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ทำให้พรรคเพื่อไทยมีโอกาสได้แลนด์สไลด์มากขึ้น

ตั้งเป้าใช้ตามขยี้ผลพวง “ตู่” อยู่ยาว

นพ.ชลน่านกล่าวอีกว่า ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายตามมาตรา 152 สมัยประชุมสภาฯสมัยหน้า กำลังคุยกันว่าจะยื่นสอบถามเสนอแนะปัญหาประเด็นใดบ้าง ส่วนคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญวาระ 8 ปี เราจะซักถามหรือเสนอแนะประเด็นที่เป็นผลสืบเนื่องจากการดำรงตำแหน่งนายกฯเกิน 8 ปีว่า มีปัญหาหรือข้อเท็จจริงอะไรที่เกิดขึ้น แล้วทำให้ประชาชนและประเทศชาติเสียหายบ้าง เช่น กรณีเกิดการต่อต้าน เกิดความวุ่นวายไม่สงบขึ้นในประเทศ หลังคำวินิจฉัยแล้วมีการจับกุมคุมขังประชาชน ละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชน จะเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นผลสืบเนื่องจากคำวินิจฉัย ต้องเอามาซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะทางแก้ปัญหาในสภาฯ เป็นต้น

โอ่ต้องเลือก พท.มาเปลี่ยนประเทศ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอยู่ต่อของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้โอกาสแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยมีมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีผลงานที่โดนใจประชาชน สิ่งที่บอกว่าจะดำเนินการทั้งการปฏิรูปประเทศ ทำให้คนไทยหายจน แก้ไขปัญหาความขัดแย้งไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริง ในระยะเวลา 8 ปี ที่บริหารประเทศมา ดังนั้น การอยู่ต่อยิ่งทำให้ประชาชนสิ้นหวังเขาจึงต้องหันมาเลือกเพื่อไทยเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะปัจจุบันขีดความสามารถทาง การแข่งขันของไทยบนเวทีโลกตกต่ำลงน่าใจหาย ประชาชนจึงต้องการนโยบายใหม่ ผู้บริหารใหม่มาขับเคลื่อนประเทศ พรรคเพื่อไทยคือคำตอบ

เสี้ยม พปชร.ไม่ชงชื่อชิงนายกฯอีก

เมื่อถามว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯได้อีก 2 ปี ประเมินว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า สภาฯมีวาระ 4 ปี แต่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯได้อีกแค่ 2 ปี ตามคำวินิจฉัยของศาลที่ให้นับการดำรงตำแหน่งนายกฯตั้งแต่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ในปี 60 จึงเชื่อว่าพรรค พปชร.อาจไม่ส่งชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดต เพราะจะหาเสียงอย่างไรให้คนเป็นนายกฯได้แค่ 2 ปี คงเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกฯ และช่วงที่ พล.อ.ประวิตรรักษาราชการแทนนายกฯดูกระฉับกระเฉง คงติดใจการทำหน้าที่นี้ คงไม่ยอมให้พรรคตัวเอง เสนอชื่อคนอื่นมาแข่งด้วย

“ก้าวไกล” เย้ย “บิ๊กตู่” รอด พปชร.ร่วง

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า ค้านสายตาสภาพข้อเท็จจริงอยู่แล้ว เห็นกันอยู่ว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯมาตั้งแต่ปี 57 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เคยบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ย้อนแย้งกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญให้นับวาระตั้งแต่ปี 2560 เอาจริงๆมีแต่เสียกับพรรค พปชร.มากกว่า อย่างไรเสียปี 68 พล.อ.ประยุทธ์ครบวาระ รวมถึงกระแสภายในพรรค พปชร.เป็นไปได้สูงที่ พล.อ.ประยุทธ์อาจไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค พปชร.ในการเลือกตั้งรอบหน้า

ยื้อยุบสภารอต้อน ส.ส.เข้าคอก

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่เกินความคาดหมาย การยุบสภาฯขั้นต่ำน่าจะเกิดขึ้นหลังการประชุมเอเปก อยู่ที่เงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาล อย่างประชาธิปัตย์ (ปชป.) และภูมิใจไทย (ภท.) แต่มองว่า พล.อ.ประยุทธ์คงไม่มีทางยุบสภาฯเพราะจะใช้เวลา 6 เดือนที่เหลือเดินหน้าสร้างความได้เปรียบทางการเมือง งบฯจะออกช่วงปลายปี แต่งตั้งโยกย้ายช่วง ต.ค. คงตรึงกำลังของภาครัฐให้พร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่สุด ขณะที่ฝ่ายค้านทำอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ภายใต้กรอบ 180 วันของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถ้าเราสวมรองเท้าของ พล.อ.ประยุทธ์ หลังเอเปกคงยังไม่มีทางยุบสภา เพราะต้องมีการย้ายค่ายของ ส.ส.ออกจากพรรคเดิมล่วงหน้าก่อน 90 วัน เพื่อสังกัดพรรคใหม่ คงมีการกินข้าวกันหลายรอบ ตอนนี้ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน ส่งสัญญาณย้ายพรรคกันแล้ว

เล็งงัด ม.152 อภิปรายขย่ม รบ.

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และประธานวิปพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ได้หารือเบื้องต้นว่าเตรียมพร้อมไว้ก่อน เราใช้กลไกของรัฐธรรมนูญตามสถานการณ์ ปัญหาของประเทศ และเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อนำความทุกข์ร้อนของประชาชนมาอภิปรายในสภาฯ แต่ยังไม่ได้ประสานวิปรัฐบาล แต่น่าจะทราบอยู่แล้วว่าจะมีการอภิปรายเกิดขึ้นในสมัยประชุมถัดไป เพียงแต่จะเกิดขึ้นช่วงไหนเท่านั้นเอง

ปลุกร่าง รธน.ใหม่เดินหน้ารีเซ็ต ปท.

“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของการเล่นเกมการเมือง แต่เป็นกลไกที่พรรคร่วมฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบ และให้การเสนอแนะกับรัฐบาล หากมองอย่างเป็นกลางจะเป็นผลดีด้วยซ้ำที่นำปัญหาของประชาชนมาสะท้อนให้เห็นในสภาฯ สิ่งที่สำคัญและค้างคาจากสมัยประชุมที่แล้วคือญัตติที่พรรค ก.ก.เสนอขอให้มีมติให้ฝ่ายบริหารทำประชามติ เพื่อถามประชาชนว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หรือไม่ อีกช่องทางหนึ่งที่พรรค ก.ก.กำลังรณรงค์อยู่คือแคมเปญรีเซ็ตประเทศไทย ผ่านการล่ารายชื่อประชาชน 5 หมื่นรายชื่อเพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ” นายพิจารณ์กล่าว

“อุตตม” ติงอย่ามัวแสวงหาอำนาจ

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นับจากนี้จะอีกกี่ปีก็ตาม สุดท้ายแล้วอำนาจจะกลับมาอยู่ในมือประชาชนได้ตัดสินใจอนาคตอีกครั้ง สำคัญคือวันนี้รัฐบาลต้องไม่ละเลยการทำหน้าที่ดูแลสารทุกข์สุกดิบให้กับประชาชน กำหนดทิศทางการบริหารประเทศได้อย่างแท้จริง ไม่แสวงหา หรือจำนนต่อเงื่อนไขโครงสร้างอำนาจทางการเมือง ท้ายสุดแล้วประชาชนคือผู้แบกรับเคราะห์กรรมจากความเป็นไปที่เกิดขึ้น วันนี้ประเทศเต็มไปด้วยปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข ทั้งข้าวยากหมากแพง คนหากินลำบาก ภาระหนี้สินพะรุงพะรัง และอนาคตเศรษฐกิจประเทศยังเผชิญความท้าทายสุ่มเสี่ยงมากมาย หากเราไม่เร่งกำหนดทิศทางเดินของประเทศที่ถูกต้องเหมาะสม และขับเคลื่อนนโยบายให้ได้จริง ใครเล่าจะยืดอกกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า คนไทยมีความหวัง และอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า

ผบ.ตร.วอนม็อบชุมนุมในกรอบ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงงานด้านความมั่นคง การดูการชุมนุม หลังยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯว่า เมื่อยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯก็ใช้ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะและกฎหมายที่เกี่ยวข้องดูแลการชุมนุมเป็นสิทธิพื้นฐาน แต่ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายตามหน้าที่ ไม่อยากให้เกิดการปะทะกัน เราไม่เคยมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อผู้ชุมนุม อยากบอกว่าตำรวจเป็นกลาง เน้นการรักษาสถานที่สำคัญ ดูแลความปลอดภัย เน้นใช้กำลังปกป้องรักษาสถานที่สำคัญ ถ้าไม่บุกมาเราไม่ใช้อยู่แล้ว ไม่เคยคิดใช้อุปกรณ์พิเศษ เมื่อถามว่าผู้ชุมนุมลงถนนจะใช้รถฉีดน้ำหรือจีโน่หรือไม่ ผบ.ตร.ตอบว่า ไม่ถึงขั้นนั้น เน้นการรักษาสถานที่สำคัญเป็นหลัก ดูแลการชุมนุมให้เรียบร้อย ประเมินการข่าวเชื่อว่าช่วงนี้การชุมนุมอยู่ในกรอบอย่างดี

15 องค์กร นศ.ต้านนายกเถื่อน

ด้าน 15 องค์กรนิสิตนักศึกษา ได้ออกแถลงการณ์ร่วมเรื่องคำวินิจฉัย “นายกเถื่อน” พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกอบด้วย ประธานสภานักศึกษา ม. ธรรมศาสตร์ (มธ.) นายกองค์การนักศึกษา มธ. ผู้แทนกรรมการหอพักนักศึกษา มธ. ประธานสภาผู้แทนนิสิตองค์การนิสิต ม.เกษตรศาสตร์ (มก.) บางเขน นายกองค์การบริหารองค์การนิสิต มก.บางเขน, ศรีราชา, สกลนคร, กำแพงแสน หัวหน้าพรรคจุฬาสามัญชน นายกสโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (จฬ.) ประธานสภานิสิต ม.นเรศวร (มน.) ประธานสภานักศึกษา ม.สงขลานครินทร์ (มอ.)วิทยาเขตหาดใหญ่, ปัตตานี นายกองค์การบริหารองค์การนักศึกษา มอ.วิทยาเขตปัตตานี นายกองค์การนักศึกษา ม.ศิลปากร (มศก.) โดยระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญให้เริ่มนับวาระนายกฯตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.60 เป็นการพิจารณาเพียงตัวอักษร กลับมิได้เหลียวแลสภาพแวดล้อมความเป็นจริง หาก พล.อ.ประยุทธ์เริ่มดำรงตำแหน่งปี 60 ก็กลายเป็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีสิทธิได้รับเงินเดือนในฐานะนายกฯตั้งแต่ปี 57 ใช่หรือไม่ประณามตุลาการแถลงการณ์ระบุด้วยองค์กรนักศึกษาทั้ง 15 องค์กร ขอประณามการที่ตุลาการทั้งหลายย่ำยีวงการนิติศาสตร์ที่ท่านเคารพ หลักคิดที่ควรยึดถือกลับบิดเบี้ยว แม้ว่าคำพิพากษาต่อไปจะสามารถกลับหลักคิดได้ แต่คำพิพากษาที่เคยประกาศออกไปจักอยู่ให้เชิดชูหรือนินทาเรื่อยไป ศาลรัฐธรรมนูญควรต้องถ่วงดุลฝ่ายบริหารอย่างเป็นธรรมและไม่เอนเอียงรวมถึงตัดสินโดยไม่ใช้ดีกรีความเป็นคนดีมากกว่าหลักการทางกฎหมายอย่างเป็นธรรม

“ราษฎร” ปลุกรื้อระบอบประยุทธ์

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไท เครือข่ายม็อบราษฎร นำโดยนายธัชพงศ์ หรือบอย แกดำ นำทีมงานมาตั้งเวทีขนาดเล็ก จัดชุมนุมแสดงจุดยืนไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีการขึงป้ายผ้าข้อความ “พอที 8 ปีประยุทธ์” “ยุติ (ความเป็น) ธรรม” “รื้อระบอบประยุทธ์ กับเพื่อนพ้องปรสิต” “ระบอบประยุทธ์ออกไป” ท่ามกลางมวลชนส่วนใหญ่เป็นแนวร่วมเสื้อแดงสูงวัยขาประจำ พร้อมใจกันสวมเสื้อสีดำมาเข้าร่วมคับคั่ง ช่วงแรกมีการแสดงเดี่ยวพิณอีสานของนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ดาวดิน การแสดงดนตรีของวงสามัญชน นำโดยนายชูเวช เดชดิษรักษ์ ฯลฯ สลับการปราศรัยโดยนายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือปูน ทะลุฟ้าและตัวแทนกลุ่มต่างๆ นายธัชพงศ์กล่าวว่า กิจกรรมกลุ่มทะลุฟ้ามีเป้าหมายเพื่อสื่อสารถึงผลพวงที่ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในตำแหน่งนายกฯมา 8 ปี จะชี้ให้เห็นถึงความไม่ชอบธรรมของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กลุ่มราษฎรถือว่าเป็นโมฆะ ไม่มีประชาชนคนไหนยอมรับ ยืนยันจะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปไหนและจะยุติชุมนุมเวลา 20.00 น.

มีคนเติมเชื้อขัดแย้งรุนแรงปะทุ

นายธัชพงศ์กล่าวอีกว่า ขอให้ติดตามดูการเคลื่อนไหวหลังจากนี้จะมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่จะแยกเป็นของกลุ่มต่างๆที่น่าสนใจวันที่ 2 ต.ค. นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นัดหมายจัดกิจกรรมชุมนุมในแบบแฟลชม็อบ ใช้ชื่อว่าวันอาทิตย์สีดำ #1 ที่บริเวณฟุตปาทริมกำแพงสีขาวโรงภาพยนตร์สกาล่าเก่า แต่ที่น่าห่วงเชื่อว่าหลังจากนี้จะเกิดความขัดแย้งในสังคมอย่างรุนแรง และจะเกิดความรุนแรงทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น เป็นเรื่องน่าเสียดายทั้งที่จากเดิมคิดว่าจะมีการเลือกตั้งเร็วๆนี้ แต่กลับมีคนเติมเชื้อไฟให้เกิดความขัดแย้งแบบนี้คนทำจึงควรจะพิจารณาตัวเอง