สมัยกรีกโบราณ เชื่อกันว่าองค์เทพจะลงมาประทับทรง เผยความลับฟ้าดินให้รู้ สำนักทรงเทพที่มีอิทธิพลมากที่สุด อยู่ที่เมืองเดลฟี เมืองที่เขาเชื่อว่ามีหินสะดือ ออมฟาลอส หมุดหมายจุดกลางของโลก

(เกร็ดประวัติศาสตร์ แกะรอยอารยะกรีก โดย คอสมอส ไทยควอลิตี้บุ๊คส์ พ.ศ.2557)

เดลฟีไม่ใช่เมืองใหญ่ เทียบไม่ได้กับเอเธนส์ หรือสปาร์ต้า แต่มีอิทธิพลเหลือหลาย...เดิมเป็นวิหารที่บูชาเทพเทพีธรณีจี หรือจีอา ต่อมาถูกยึดเป็นวิหารเทพอพอลโล เทพแห่งสุริยะ

เรือนพยากรณ์แห่งเดลฟีอยู่ในวิหารนี้ คำพยากรณ์แต่ละครั้ง จะออกจากปากนักบวชหญิงไพเธีย

ไพเธียในช่วงแรกๆถูกเลือกจากสาวพรหมจารีรูปร่างดี แต่คราวหนึ่งมีผู้ชายมาขอคำพยากรณ์แล้วถูกใจในคำพยากรณ์ แถมความงามของนาง ฉุดนางไปปล้ำ นับแต่นั้นมาจึงต้องเปลี่ยนเป็นหญิงอายุ 50 ปีขึ้น

พูดถึงความแม่นยำ จะว่าแม่นเหมือนตาเห็นก็ไม่ได้ แต่จะว่าไม่แม่นก็ไม่เชิง เพราะเอกลักษณ์ของคำทำนายมักออกมาในแบบสองนัย แปลได้สองทางเสมอ

แต่กระนั้นชาวกรีกไม่ว่าใกล้ไกล ก็มักเดินทางมาขอคำทำนาย ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่ถูกบันทึกไว้

คราวหนึ่ง ชายคนหนึ่งชื่อกลอคัสถามว่า...“ข้าจะได้เงินหรือไม่ สาบานก็ได้ ขอให้ข้าตายในสามวันเจ็ดวัน ข้าจนกรอบไม่เคยมีเงินเลย”

“ไม่ว่าเจ้าจะสาบานเท็จหรือไม่ ในที่สุดเจ้าก็ต้องตาย” นี่คือคำพยากรณ์นัยแรก “แต่หากคำสาบานเป็นเท็จ ตัวเจ้าไม่เพียงต้องตาย ครอบครัวของเจ้าก็ต้องพินาศ”

ไม่มีคนรู้ว่ากลอคัสสาบานเท็จหรือไม่ แต่เมื่อครอบครัวกลอคัสตายเรียบในเวลาต่อมา ผู้คนก็เชื่อว่า เป็นผลจากคำทำนายที่แม่นยำ

นี่เป็นเรื่องของคนเชื่อ แต่คนที่ไม่เชื่อเลย ทั้งกล้าท้าทายนางพยากรณ์ไพเธียก็มี เขาชื่อดาฟนิตัส เขาถามว่า จะเจอม้าหรือไม่? ทั้งที่ความจริงเขาไม่เคยมีม้าเลยสักตัว

...

“เจ้าจะได้พบม้าของเจ้า แต่เจ้าก็จะถูกโยนจากหลังม้า” ดาฟนิตัส หัวเราะเยาะ คุยโอ่ไปทั่ว เป็นเรื่องเหลวไหล ต่อมาไม่นาน โดยนิสัยปากเปราะ ดาฟนิตัสเผลอไปดูหมิ่นพระราชา เขาถูกทหารจับตัวไปรับโทษประหาร

ชาวเดลฟีตื่่นตะลึงเพราะเป็นไปตามคำทำนาย...เขาถูกโยนจากหน้าผาที่มีชื่อเรียกว่า “ม้า”

นี่แค่เรื่องมะโนสาเร่ เรื่องใหญ่ที่เล่ากัน ครีซัส พระราชาแห่งลีเดีย ส่งทูตออกไปขอคำพยากรณ์จากสำนักพยากรณ์เจ็ดแห่ง ว่าในวันเดียวกันพระองค์กำลังทำอะไร

“กำลังเคี่ยวสตูแกะและเต่าในหม้อบรอนซ์ใหญ่” สำนักพยากรณ์แห่งเดลฟีทายถูกเผงอยู่ที่เดียว พระเจ้าครีซัสโปรดมาก ประทานของบูชาเทวาลัยกองใหญ่ แล้วก็ขอคำพยากรณ์ใหม่ “ควรโจมตีอาณาจักรเปอร์เซียหรือไม่?”

“หากครีซัสข้ามแม่น้ำ อาณาจักรอันยิ่งใหญ่จะถูกทำลาย” นี่คือคำพยากรณ์

ครีซัสได้ใจ นำทัพเข้าสงครามทันที ผล...เขารบแพ้ยับเยิน ทัพเปอร์เซียข้ามแม่น้ำเข้ายึดลีเดีย...คำพยากรณ์จากเดลฟีเป็นจริงด้านตรงข้าม

คำพยากรณ์จากวิหารแห่งเดลฟีมีผลให้เกิดสงคราม สันติภาพ การค้า และการก่อตั้งอาณานิคมหลายๆแห่ง จนถูกจักรพรรดิโรมัน ซีโอโดซิอัส ซึ่งเปลี่ยนไปนับถือคริสเตียนสั่งปิดแท่นบูชาเมื่อปี ค.ศ.390

น่าเสียดาย! ถ้าวิหารพยากรณ์แห่งเดลฟียังอยู่ถึงวันนี้ อาจมีผู้นำบางบ้านเมืองส่งคนไปถาม...สิ้นเดือนนี้จะสิ้นใจตามเสียงบ่นๆเบื่อๆหรือไม่...

คำพยากรณ์อาจออกมา...ชาวบ้านต้องเบื่อต่อไป เพราะมีศรีธนญชัยเป็นตัวช่วยอยู่เป็นพรวน.

กิเลน ประลองเชิง