ปลัดสำนักนายกฯ ตรวจพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จ่อนำระบบการลาดตระเวนแผนใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลพื้นที่ ให้ป่าสมบูรณ์ขึ้น หนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19

วันที่ 23 กันยายน 2565 ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา ได้นำคณะผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้บริหารสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปติดตามการปฏิบัติงานการป้องกันรักษาป่า และการเตรียมรับนักท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิด-19 และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทับเสลา และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าชะอำ ฯลฯ

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทุกพื้นที่ พบว่า ได้ปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็ง นำระบบการลาดตระเวนเชิงคุณภาพที่ใช้ระบบ GPS มาติดตามเส้นทางการเดินลาดตระเวนป่า เพื่อป้องกันรักษาพื้นที่ป่าและสัตว์ป่า มีระยะทางเดินแต่ละพื้นที่ 5,000 - 15,000 กิโลเมตรต่อปี มีการนำงานวิชาการมาใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการบริหารจัดการพื้นที่ ลดความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่า จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวหลังช่วงวิกฤติโควิด-19 รวมทั้งมีการจัดการพื้นที่กันชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรอบป่าห้วยขาแข้ง ในโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน หรือ คทช. ดำเนินงานโดย สปก. และมูลนิธิปิดทองหลังพระ พัฒนาคุณภาพชีวิตและรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่สูงขึ้น

...

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์นี้ เป็นไปตามแผนปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้งนี้มีข้อเสนอว่า ควรต้องพิจารณาเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะทำงานด้วยความเสียสละ และเสี่ยงภัยมาก.