“สมชัย” เผยจดหมายเปิดผนึกถึง “บิ๊กป้อม” จี้ แสดงจุดยืนหนุนแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ ส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
วันที่ 2 กันยายน 2565 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะตัวแทนคณะรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 เผยจดหมายเปิดผนึกผ่านเฟซบุ๊กถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เรื่องขอเสียงสนับสนุนอย่างจริงใจในการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 มีเนื้อหาระบุว่า
วันที่ 6 และ 7 กันยายน พ.ศ.2565 ประธานรัฐสภาได้กำหนดให้เป็นวันประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาวาระสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยในเรื่องด่วน วาระที่ 6 เป็นข้อเสนอในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของประชาชน 64,151 รายชื่อ เพื่อแก้ไขในบทเฉพาะกาลมาตรา 272 ประเด็นการตัดอำนาจสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในการเลือกนายกรัฐมนตรีในช่วง 5 ปีแรกของรัฐสภา
หลักการแก้ไขดังกล่าวเป็นการทำให้ประเทศคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากลและเคยเป็นหลักปฏิบัติในรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาทุกฉบับ ตลอดจนความจำเป็นที่ต้องมีรัฐบาลที่วุฒิสภาร่วมให้ความเห็นชอบเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการทำงานตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศนั้นสิ้นสุดลงแล้ว โดยอิงจากรายงานผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ได้ระบุถึงความสำเร็จของการดำเนินงานในทุกเรื่อง และจะสิ้นสุดในปลายปี 2565 นี้
การแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นดังกล่าวนี้จะมีผลทำให้การลงมติเลือกผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีได้กระทำในที่ประชุมของสภาผู้แทนราษฎร โดยพรรคที่มีเสียงข้างมาก หรือสามารถรวบรวมเสียงข้างมากจะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นรัฐบาลบริหารประเทศด้วยความสง่างามและมีเสถียรภาพความมั่นคงที่แท้จริง มิใช่การต้องมีเสียงสนับสนุนจากวุฒิสภาที่เป็นสภาแต่งตั้ง และจะครบวาระในเวลาอีกเพียง 1 ปี หลังจากปี 2566
...
ในจดหมายระบุต่อไปว่า ในฐานะที่ พล.อ.ประวิตร เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองหลักของรัฐบาล และยังเคยมีฐานะเป็นประธานกรรมการสรรหาวุฒิสภาชุดปัจจุบัน ขอให้แสดงจุดยืนสนับสนุนในการเปลี่ยนแปลง และได้แจ้งจุดยืนดังกล่าวแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในสังกัด และส่งสัญญาณความปรารถนาในการเปลี่ยนแปลงไปยังฝ่ายต่างๆ ที่จะมีส่วนร่วมในการลงมติที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 กันยายนนี้ด้วย
การดำเนินการของ พล.อ.ประวิตร จะเป็นสิ่งบ่งบอกให้ประชาชนเห็นว่า ผู้มีอำนาจในการปกครองประเทศมีความจริงใจในการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ และใช้การเลือกตั้งที่เป็นธรรม เป็นทางออกของสังคมเพื่อลดความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ในสังคมไทยกว่า 2 ทศวรรษให้สิ้นสุดลง.