“ประวิตร” ยิ้มร่าโชว์ฟิตเข้าทำเนียบฯนั่งหัวโต๊ะ ถก ครม. แต่เว้นว่างไม่นั่งเก้าอี้นายกฯลั่นยังทำงานได้อยู่ จะปรับคณะรัฐมนตรีทำไม “ประยุทธ์” ร่วมวง ครม.ผ่านออนไลน์ “รักษาราชการแทนนายกฯ” สะบัดปากกาเซ็นคำสั่งล้างคำสั่งเดิม แต่งตั้งโยกย้าย-ใช้งบฯไม่ต้องถามนายกฯตู่ “วิษณุ” ชี้ต้องปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้มีอำนาจเต็ม มีผลย้อนหลังไปวันที่ 24 ส.ค. ระบุการวินิจฉัยวาระ 8 ปี ไม่ควรใช้เวลานาน “ทีมกฎหมายนายกฯ” เร่งทำคำชี้แจงลั่นเคลียร์ได้ทุกข้อสงสัย วงเสวนา พท.ขย่มพอเถอะ “ชลน่าน” เตือนชิงยุบสภาก่อวิกฤติแน่ “จตุพร” จี้ “ลุงป้อม” ปรับ “บิ๊กตู่” พ้น รมว.กลาโหม นัด 2 กับ 4 ก.ย. เคลื่อนขบวนพื้นที่เศรษฐกิจ ปลุกประชาชนรวมพลังล้างบางสลายระบอบ 3 ป.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ ประเดิมนั่งเป็นประธานการประชุม ครม.ครั้งแรก แต่ปล่อยเว้นว่างไม่ได้นั่งเก้าอี้ตำแหน่งนายกฯ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ร่วมประชุม ครม.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
...
“ประวิตร” ยิ้มกริ่มนั่ง ปธ.ประชุม ครม.
เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 30 ส.ค.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะรักษาราชการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นครั้งแรก หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยกรณีการดำรงตำแหน่งนายกฯวาระ 8 ปี โดยทีมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผอ.สำนักงบประมาณ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าสรุปข้อมูลวาระการประชุม ครม. ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดตั้งแต่เวลา 06.00 น. นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการ ครม.ยืนยันว่า ตาม พ.ร.บ.ระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน รักษาราชการแทนนายกฯพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง และอนุมัติงบประมาณได้
“บิ๊กตู่” ถกผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
ทันทีที่ พล.อ.ประวิตรเดินทางถึงตึกสันติไมตรี มีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมคณะทำงานตั้งแถวรอรับ พล.อ.ประวิตรลงจากรถอย่างกระฉับกระเฉง ไม่ต้องมีทีมรักษาความปลอดภัยช่วยประคอง เมื่อเดินผ่านช่างภาพสื่อมวลชนได้โบกมือทักทาย จากนั้นจึงเข้าห้องรับรองสีเหลือง ที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย รอรับพูดคุยกันราว 20 นาที จากนั้นจึงไปยังห้องโถง ตึกสันติไมตรี ร่วมประชาสัมพันธ์โครงการแรงงานพันธุ์ดี ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง ที่นายสุชาตินำเสนอ ระหว่างเดินผ่านสื่อมวลชน พล.อ.ประวิตรหันมาทักทายยกมือรับไหว้สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ตอบคำถามว่าได้ให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์หลังถูกสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่นายกฯอะไรบ้างว่า “ท่านก็ทำงานของท่าน กำลังใจดี โอเค”
ไม่นั่งหัวโต๊ะปล่อยเว้นว่างเก้าอี้นายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังประชุม ครม.สำนัก โฆษก ประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ เผยแพร่ภาพบรรยากาศที่ประชุม ครม.พบว่า พล.อ.ประวิตรไม่ได้นั่งเก้าอี้นายกฯ ปล่อยที่นั่งนายกฯว่างเอาไว้ แต่ได้นั่งเก้าอี้รองนายกฯด้านขวามือเหมือนเดิม และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและ รมว.พลังงาน นั่งเก้าอี้รองนายกฯด้านซ้าย โดย พล.อ.ประวิตรประชุม ครม.รวดเดียวจบ ไม่มีการพักเบรก ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์แม้เข้าร่วมประชุมแบบออนไลน์ แต่นั่งนิ่งๆ ไม่ได้เอ่ยปากแสดงความเห็นใดๆ
“บิ๊กป้อม” ลั่นทำงานได้อยู่ไม่ปรับ ครม.
ต่อมาเวลา 12.15 น. ภายหลังประชุม ครม.พล.อ.ประวิตร ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงบรรยากาศการประชุม ครม.ว่า ไม่มีอะไรเรียบร้อยดี เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเมืองที่วุ่นวายขณะนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีอะไร เมื่อถามว่าจะมีการปรับ ครม.ช่วงเป็นรักษาราชการแทนนายกฯหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่มีการปรับ ครม.เมื่อถามถึงกรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ขู่ถอนตัว จากกระแสข่าว ส.ส.ภาคใต้ พรรค พปชร.เสนอให้ปรับ ครม.ให้ริบโควตากระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า “ก็ไปถาม ส.ส.ใต้ดู เพราะผมไม่ได้พูด” เมื่อถามย้ำว่า จะปรับ ครม.หรือไม่ช่วงนี้ พล.อ.ประวิตร
กล่าวย้ำว่า ปรับทำไม ยังทำงานได้อยู่
ฟิตปั๋งไม่เหนื่อยใช้ใจบันดาลแรง
จากนั้นเวลา 15.00 น. ที่ตึกบัญชาการ 1 พล.อ.ประวิตรให้การต้อนรับ ดาโต๊ะ ซรี ฮิชามมุดดิน บิน ตุน ฮุสเซน รมว.กลาโหมมาเลเซีย ที่มาร่วมนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศ พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีรักษาราชการแทนนายกฯครบ 7 วันว่า ไม่ต้องห่วงหรอก ไม่เหนื่อย ใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่ใช้แรงบันดาลใจ พร้อมกล่าวย้ำก่อนขึ้นรถอีกครั้งว่า “ใช้ใจบันดาลแรง” พล.อ.ประวิตรกล่าวเสียงดังฟังชัด
“โอ๋” ปัดไร้ ส.ส.กดดัน “สันติ” โต้ซบ ภท.
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มี ส.ส.ภาคใต้พรรค พปชร.เรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร.ปรับ ครม.ว่า “ผมไม่ทราบ ไม่มี เพิ่งได้ยินจากสื่อว่ามีการกดดัน” ส่วนบรรยากาศในที่ประชุม ครม.เรียบร้อยดี เหมือนเดิมปกติ
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวจะย้ายไปเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า ยังไม่ได้ยินเลยเป็นไปไม่ได้และไม่ได้อยู่ในสมอง ไม่ได้คิด คงเป็นเพียงแค่กระแสข่าวไม่เคยได้ยิน เมื่อถามว่า ยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ยังอยู่พรรค พปชร.ใช่หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า พรรค พปชร.เป็นพรรคที่พี่น้องประชาชนให้ความหวังไว้มาก เพราะฉะนั้นจึงไม่ย้ายไปไหน อยู่ พชปร. แน่นอน เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า “บิ๊ก พ.” จะเข้ามาเป็นเลขาธิการพรรค พปชร.แทน นายสันติกล่าวว่า ไม่รู้ไม่ทราบ ใครที่ทำให้พรรคแข็งแรง มันไม่มีปัญหาตรงนั้น การประชุม ครม.พล.อ.ประยุทธ์ประชุมทางออนไลน์ ไม่ได้มีอะไรก็ดี ท่านมีกำลังใจดีมากอยู่แล้ว กระแสข่าวเรียกร้องให้ปรับ ครม.เป็นเรื่องของผู้ใหญ่
ชัยชนะ” ฉะ ส.ส.ใต้ พปชร.ดูถูก ปชป.
วันเดียวกัน นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร.เสนอให้ พล.อ.ประวิตรดึงกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์ไปให้พรรค พปชร.ดูแลว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ส.ส.ภาคใต้พรรค พปชร.พูดจาดูแคลนพรรค ปชป. ส.ส.เหล่านี้รู้ดีได้เป็น ส.ส.จากความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ใช่ความนิยมส่วนตัว จึงใช้วิธีสร้างความนิยมให้ตัวเองเพื่อให้ได้กลับมา โดยการด้อยค่าคู่แข่งในพื้นที่สร้างภาพว่าพรรคคู่แข่งไร้ผลงาน ไม่สามารถทำให้ชาวบ้านเป็นอยู่ดีขึ้นได้ เช่น ปัญหาราคาสินค้าแพงและราคาผลผลิตเกษตรตกต่ำ โยนบาปมาให้พรรค ปชป.ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ทั้งที่ชาวบ้านพึงพอใจผลงานแก้ไขของรัฐมนตรีพรรคปชป. นายสัณหพจน์ฉวยโอกาสปั่นกระแสปรับ ครม.เรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตรใช้อำนาจรักษาการนายกฯปรับยึดตำแหน่ง รมว.พาณิชย์และ รมว.เกษตรฯ หวังผลเลือกตั้งใช่หรือไม่
ฉุนนอนกอดเสือชงถอนตัวพ้น รบ.
“เขารู้ดีว่าตำแหน่ง ส.ส.ธรรมดา ไม่โน้มน้าวใจให้ชาวบ้านหวนกลับมาสนับสนุนได้ ต้องฉวยโอกาสเรียกร้องตำแหน่งและด้อยค่าพรรคร่วมรัฐบาล นายสัณหพจน์จะสร้างปัญหาหนักใจให้ พล.อ.ประวิตรอีกทำไม นอกจากปัญหาโดยเฉพาะน้ำท่วมหลายพื้นที่ต้องตัดสินใจแล้ว ยังเอาเรื่องทำให้ความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลให้ต้องกินแหนงแคลงใจอีก ถ้าผู้ใหญ่ในรัฐบาลมีแนวคิดจะยึดคืนรัฐมนตรีสัดส่วนของพรรค ปชป.ตามที่นายสัณหพจน์เสนอ ทบทวนให้ดีเพราะพรรค ปชป.ไม่เคยกลัว ไม่เคยขอร้อง เรามีมารยาททางการเมืองพอ หากเป็นเช่นนั้นจริงแกนนำรัฐบาลและพรรค พปชร.เปรียบเสมือนศรีธนญชัย หลอกได้แม้กระทั่งคนมีบุญคุณที่ให้โอกาสสนับสนุนกันมา ที่ผ่านมาอยู่ร่วมกันมามีความรักแค่เหมือนเสือกอด คือ มีความระแวงต่อกัน จึงขอให้ พล.อ.ประวิตร อบรมมารยาท ระหว่างพรรคร่วมฯให้นายสัณหพจน์และ ส.ส.ภาคใต้ พปชร.คนอื่น พฤติกรรมล้ำเส้นไปมาก และอยากเสนอให้พรรค ปชป.ถอนตัวออกจากรัฐบาลนี้ รับไม่ได้กับพฤติกรรมดูถูกไม่ให้เกียรติของ ส.ส.พปชร.ที่ปรากฏผ่านสื่อมาหลายครั้งแล้ว” นายชัยชนะกล่าว
“เสี่ยตี๋” อู้อี้ขึ้นอยู่กับ กก.บห.
นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อเสนอของนายชัยชนะ ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมพรรค ข้อสรุปสุดท้ายขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค กรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทยและรองหัวหน้าพรรค ปชป.หากหลุดตำแหน่งหลังศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยสถานะความเป็นรัฐมนตรีในวันที่ 14 ก.ย. พรรคยังไม่ได้คุยกัน ต้องรอวันที่ 14 ก.ย.
“นิพนธ์” ทำใจทำดีที่สุดแล้ว
นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ปชป.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยสถานะความเป็นรัฐมนตรีวันที่ 14 ก.ย. กรณีถูกสั่งให้พ้นตำแหน่งนายก อบจ. สงขลา กรณีไม่ชำระค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ของ อบจ.สงขลาว่า ชี้แจงไปครบถ้วนแล้วขอให้รอฟัง ขบวนการฮั้วประมูลหนีไปต่างประเทศทั้งหมดแทบทุกอาทิตย์ เมื่อถามว่าเผื่อใจไว้เลยใช่หรือไม่หากพ้นตำแหน่ง นายนิพนธ์กล่าวว่า ทำดีที่สุดแล้ว พร้อมจะน้อมรับทุกเรื่อง ไม่กังวลว่าจะกระทบการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่พรรคภูมิใจไทยลงพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น ทุกพรรคมีสิทธิจะไปทุกที่ ปชป.ก็มีสิทธิเช่นกัน เป็นปกติที่ทุกคนจะเตรียมความพร้อม
“บิ๊กป้อม” ออกคำสั่งเกลี่ยงานใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค. พล.อ.ประวิตร รักษาราชการแทนนายกฯ ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 215/2565 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกฯรักษาราชการแทนนายกฯ และมอบอำนาจให้รองนายกฯปฏิบัติราชการแทนนายกฯ และปฏิบัติราชการแทนนายกฯกรณี รมต.ประจำสำนักนายกฯไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.เป็นต้นไป ดังนี้ 1. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกฯ 2. พล.อ.ประวิตรไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้นายวิษณุ เครืองาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายดอน ปรมัตถ์วินัย และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รักษาราชการแทนตามลำดับ 3.การรักษาราชการแทนนายกฯตามข้อ 1 มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ และมีอำนาจหน้าที่เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการหรือองค์กรใด กรณีผู้รักษาราชการแทนตามข้อ 2 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯอันอยู่ในอำนาจของนายกฯต้องได้รับความเห็นชอบจากรักษาการแทนนายกฯตามข้อ 1 ก่อน 4.ระหว่างการรักษาราชการแทนนายกฯตามข้อ 1 หรือ 2 ต้องร่วมประชุมในคณะกรรมการใด ให้รักษาราชการแทนนายกฯปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานเพียงตำแหน่งเดียว
แก้คำสั่งแต่งตั้ง-ใช้งบฯไม่ต้องถาม “ตู่”
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ อาจทำให้บางคนรู้สึกว่ามีสุญญากาศในการบริหารประเทศว่า ได้ชี้แจงต่อที่ประชุม ครม.ว่าไม่มีสุญญากาศ ครม.คือ ครม.อำนาจเต็ม ไม่ใช่ ครม.รักษาการ คนรักษาการนายกฯมีคนเดียวคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรักษาราชการแทนนายกฯ ตามมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ที่ระบุถ้านายกฯไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองนายกฯคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ตามที่ ครม.มีมติมอบหมาย หากมีรองนายกฯหลายคน ให้ ครม.จัดลำดับ หากไม่มีให้ ครม.เลือกรัฐมนตรีขึ้นมา
วันนี้ไม่ไปไกลถึงขั้นนั้น เพราะมีคำสั่งสำนักนายกฯเมื่อปี 63 จัดลำดับไว้ แต่คำสั่งสำนักนายกฯที่จัดลำดับไว้ ระบุว่าเวลารักษาราชการจัดการอะไรได้หมดทุกอย่าง ยกเว้นการแต่งตั้งและเรื่องงบประมาณต้องปรึกษานายกฯเสียก่อน วันนี้มีการเสนอคำสั่งสำนักนายกฯปรับปรุงคำสั่งดังกล่าว เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ พล.อ.ประวิตรเมื่อรักษาการแล้ว หากมีการแต่งตั้งโยกย้าย หรือมีเรื่องงบฯจะต้องไปปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ที่อยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องแก้คำสั่งตัดประโยคนี้ออกไป เพื่อให้มีอำนาจเต็มและมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 24 ส.ค.
“วิษณุ” ชี้วินิจฉัยปม 8 ปีไม่ควรนาน
เมื่อถามว่าประเมินไว้หรือไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาพิจารณาประเด็นระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 8 ปีไว้นานเท่าใด นายวิษณุกล่าวว่า ตอบไม่ถูก ต้องให้เวลาสำหรับให้ พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจง 15 วัน และทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญให้คนอื่นชี้แจงด้วยเช่นกัน เมื่อครบ 15 วันแล้ว เมื่อผู้ชี้แจงชี้แจงกันหมดแล้ว จะเริ่มมองเห็นแล้วว่าจะใช้เวลานานเท่าใด ไม่ควรจะนานเพราะไม่มีการสืบพยาน
ทีม ก.ม.นายกฯเร่งแจงทุกข้อสงสัย
พล.ต.วิระ โรจนวาศ ที่ปรึกษานายกฯ ในฐานะผู้รับผิดชอบจัดทำคำชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญประเด็นระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า คำชี้แจงยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี จะทำให้เร็วที่สุด คาดว่าจะส่งได้ก่อนกำหนด 15 วัน เราทราบความจำเป็นและความเร่งด่วน นายกฯไม่ห่วงให้ดูไปตามหลักเกณฑ์กฎหมายกำหนด เมื่อถามว่าคำชี้แจงต้องระบุการครบตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ควรเป็นเวลาใดหรือไม่ พล.ต.วิระกล่าวว่า เราชี้แจงตามข้อกฎหมาย ไม่มีอะไรน่ากังวล เนื้อหาที่ส่งไปครบทุกประเด็นที่ร้องมา และข้อกฎหมายเป็นอย่างไร ศาลส่งคำร้องของผู้ร้องมาเราก็ตอบไปให้ครบ เรามีข้อกฎหมายสนับสนุน ตีความตามตัวอักษรของรัฐธรรมนูญกำหนดและที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร ให้ศาลใช้ดุลพินิจอีกครั้งหนึ่ง เพราะศาลคงต้องพิจารณาข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่ายมารวมกัน และความเห็นควรจะเป็นอย่างไร ท่านมี 9 คนคงพิจารณารอบคอบและเป็นดุลพินิจของศาล
ไม่กังวลศาลเชิญ “มีชัย” ให้ความเห็น
เมื่อถามว่าในฐานะเป็นอดีตคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เห็นอย่างไร พล.ต.วิระกล่าวว่า ในบันทึกการประชุมของ กรธ.ที่ครั้งที่ 500/2561 เรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีจะนับอย่างไร ตอนนั้นคุยกัน แต่ยังไม่ได้ข้อยุติและไม่ใช่ความคิดเห็นของคณะกรรมการส่วนใหญ่ และความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ จึงขึ้นอยู่กับการตีความรัฐธรรมนูญว่าจะตีความอย่างไร เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่ศาลรัฐธรรมนูญเชิญนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ.มาให้ความเห็น พล.ต.วิระกล่าวว่า ไม่กังวล ท่านเป็นคนมีความรู้ความสามารถ และเป็นอดีตประธาน กมธ. ข้อกฎหมายการพิจารณาอะไรว่าไปตามหลักเกณฑ์และเนื้อความกฎหมาย การตีความตามตัวอักษรและเจตนารมณ์เท่านั้น เมื่อถามว่าตัวจริงร่างรัฐธรรมนูญมาช่วยสู้คดีเอง ประเมินว่าน่าจะผ่านได้หรือไม่ พล.ต.วิระกล่าวว่า คงต้องแล้วแต่ดุลพินิจของศาล เพราะเป็นนักกฎหมายทำคดีเกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญมาเยอะ
พปชร.ตบเท้าเข้ามูลนิธิป่ารอยต่อฯ
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ มีประชุม ส.ส.พรรค โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายนิโรธสุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล เป็นประธาน ส.ส.พรรคเข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียง กระทั่งเวลา 15.25 น. ส.ส.ทยอยออกจากพรรคหลังได้รับแจ้งด่วนย้ายไปที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เวลาก่อนหน้านั้นนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบภาคอีสาน เปิดตัวนายจำลอง ภูนวนทา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 กาฬสินธุ์ นายสุริยะกล่าวว่า ลงพื้นที่อีสาน
กระแสพรรคดีขึ้นมาก เชื่อว่าจะปักธงได้มากกว่าเดิมอย่างน้อย 3 เท่า นายจำลองกล่าวว่า มั่นใจผลงานพรรค เราจะชนะแน่นอน และ จ.กาฬสินธุ์จะไม่แลนด์สไลด์
“ชลน่าน” เตือนยุบสภาวิกฤติแน่
ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลคืนอำนาจให้ประชาชน แต่ยุบสภาช่วงนี้ไม่เหมาะสม จะมีสุญญากาศการเมือง ยุบแล้วจะไม่เกิดการเลือกตั้งหรือมีการใช้กลไกที่อาจไม่ชอบด้วยบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เช่น ออก พ.ร.ก.เลือกตั้งหรือระเบียบ กกต.โอกาสเกิดวิกฤติการเมืองวุ่นวายสูง อำนาจรักษาการนายกฯยุบสภาได้หรือไม่ยังเห็นต่างกันอยู่ ต้องตีความระวัง ดูข้อเท็จจริงเหมาะสมหรือไม่
พท.ตั้งวงเสวนาจี้ “ตู่” พอเถอะ
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) คณะกรรมการสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย จัดเสวนาหัวข้อ “พอเถอะครับ ประเทศไทยต้องไปต่อ” โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า วันนี้อยากเน้นคำว่า “พอเถอะ” เป็นคำร้องขอของประชาชนให้ดังถึงผู้มีอำนาจว่า ประเทศไทยต้องไปต่อ เราอยู่กับระบอบ พล.อ.ประยุทธ์ ลำบากทั้งเศรษฐกิจสังคม การเมือง หลายคนบอกว่า ความสงบจบที่ลุงตู่ จริงๆชีวิตเราเงียบเหงามาก 8 ปี ตั้งแต่ยึดอำนาจ ขออยู่อีกไม่นาน แต่กลไกสืบทอดอำนาจที่สร้างขึ้นมา พิสูจน์แล้วอำนาจบริหาร อำนาจนิติ บัญญัติถูกทำลายเสียหายร้ายแรง หากระบอบ พล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่ สุดท้ายทุกคนจะถูกครอบด้วยประชา ธิปไตยจอมปลอมมีแต่เปลือก เราไม่ก้าวล่วงอำนาจรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มั่นใจอยู่ลึกๆว่า พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อไม่ได้ เลือกนายกฯใหม่เป็นทางออกเบื้องต้น ทางเลือกต่อมาคืนอำนาจให้ประชาชน ยุบสภาฯ เมื่อมีกฎหมายเลือกตั้ง
“จตุพร” ร้อง “ป้อม” ปรับ “ตู่” พ้น กห.
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของทำเนียบรัฐบาล คณะหลอมรวมประชาชน นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ เดินทางมาอ่านแถลงการณ์ “รวมพลังประชาชน หยุดระบอบ 3 ป.” ถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกฯ เรียกร้องให้ปรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่ง รมว.กลาโหม โดยนายจตุพรกล่าวว่า ระบอบ 3 ป. มาจากต้นทุนการเมืองไม่ปกติ มีพฤติกรรมฆ่าตัดตอนประชาธิปไตยผ่านการยึดอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญ เลือกตั้งและครอบงำมาได้เกือบ 8 ปี ทำลายศักยภาพประเทศ จนขณะนี้ยังไม่ยอมสละอำนาจ มีเจตนาสืบทอดอำนาจผ่านกลไกรัฐบาล ผ่านร่างกฎหมายเลือกตั้งไม่ให้เป็นไปตามปกติ
ปลุกล้างบางสลายระบอบ 3 ป.
“ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ รมว.กลาโหม ยังควบคุมการทำงานของรัฐบาล ทหารทุกเหล่าทัพ เกิดสภาพสองนายกฯ อาจมีการปฏิบัติหน้าที่ราชการไม่เหมาะสมจากการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี พล.อ.ประยุทธ์ควรสำนึกและยุติบทบาท รมว.กลาโหม ให้เป็นบรรทัด ฐานและสร้างมาตรฐานจริยธรรมการเมือง ทางออกคือหยุดอำนาจคณะ 3 ป.ยุติระบอบการปกครองอำนาจ นิยม ขอให้ประชาชนสามัคคีกันสลายระบอบ 3 ป. ล้างบางการเมืองเก่าสร้างการเมืองใหม่” นายจตุพรกล่าว
เล็งเคลื่อนไหว 2 ก.ย.ในพื้นที่ ศก.
นายจตุพรกล่าวว่า การปฏิบัติการข่าวสารโดยยกย่องว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้เสียสละนั้น การจะเสียสละคือต้องปล่อยวาง ลุกออกไปจากตำแหน่งนายกฯ และ รมว.กลาโหม การที่ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เป็นเพียงข้อกฎหมาย แต่ในทางจริยธรรมถือว่าไม่มีความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อไป คณะหลอมรวมประชาชนจะดำเนินกิจกรรมเคลื่อนไหวกดดันระบอบ 3 ป. ในวันศุกร์ที่ 2 ก.ย.และวันอาทิตย์ที่ 4 ก.ย.ในพื้นที่เศรษฐกิจ ส่วนเวลาและสถานที่จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าใน 1 วัน ไม่ประกาศสถานที่ไปก่อนเพราะมีการใช้วิชามารขัดขวาง กิจกรรมจะฉายความล้มเหลวต่างๆ ถึงเวลาที่ต้องหยุดอำนาจ 3 ป.
ครม.ไฟเขียวปลัดบัวแก้วคนใหม่
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.มีมติอนุมัติเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ระดับสูง 12 ราย ทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ สับเปลี่ยนหมุนเวียนทดแทนตำแหน่งที่จะว่างและตำแหน่งที่ว่าง 1.นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวง เป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร บริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ 2.นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เป็นปลัดกระทรวง 3.นางวิลาวรรณ มังคละธนะกุล เป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย 4.น.ส.อาจารี ศรีรัตนบัลล์ เป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรเลีย 5.นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล เป็นอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก 6.นายธานี แสงรัตน์ เป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ 7.นางกาญจนา ภัทรโชค เป็นอธิบดีกรมสารนิเทศ 8.นางอรุณรุ่ง โพธิ์ทอง ฮัมฟรีย์ส เป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม ราชอาณาจักรสวีเดน 9.นางพันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต เป็นรองปลัดฯ 10.นางต้องฤดี มากบุญ เป็นรองปลัดฯ 11.นายรุจ ธรรมมงคล เป็นอธิบดีกรมการกงสุล 12.นายกิตติศักดิ์ กล่อมจิตต์ เป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูจา สหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย
ม็อบราษฎรรำลึกผู้ถูกอุ้มหาย
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ เครือข่ายม็อบราษฎร นำโดย น.ส.แทนอุทัย แท่นรัตน์ หรือพิมพ์ น.ส.กัลยมน สุนันทรัตน์ หรือเจ๊เขียว นัดแนวร่วมจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เนื่องในวันผู้สูญหายสากล ให้มวลชนนำภาพใบหน้าบุคคลที่ถูกยืนยันจากญาติว่าเป็นผู้ถูกบังคับสูญหายมาแขวนคอไว้ ส่วนใหญ่เป็นอดีตคนเสื้อแดงที่หลบหนีคดีความมั่นคงและมาตรา 112 ไปกบดานในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ นายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ นายชูชีพ ชีวสุต หรือลุงสนามหลวง นาย สยาม ธีรวุฒิ และนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น จากนั้นตั้งขบวนเดินเท้ามาหน้าศูนย์การค้าสยามพารากอน เปิดปราศรัยลำดับเหตุการณ์อุ้มหายกล่าว โทษว่า รัฐไทยอยู่เบื้องหลังทั้งหมด ต้องมาแสดงออกให้สังคมไม่ลืมและร่วมกันเฝ้าระวังเพราะอาจเกิดกับใครก็ได้ แล้วแสดงละครอุ้มหายให้ชายฉกรรจ์ในกลุ่มกรูเข้าอุ้มผู้ร่วมชุมนุมแบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้า จนสร้างความตกใจให้ผู้สัญจรผ่านไปมาก่อนยุติไป
“ประยุทธ์” นั่งหัวโต๊ะเคาะโผทหาร
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปเตมีย์ ผบ.ทอ.เข้าร่วมประชุม ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เตรียมทูลเกล้าฯ ผบ.ทร.-ผบ.ทอ.ลงตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บัญชีรายชื่อปรับย้ายนายทหารของทุกเหล่าทัพได้ส่งให้เจ้ากรมเสมียนตราตรวจความถูกต้องก่อนเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกฯ ลงนาม เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในสัปดาห์นี้ โดยตำแหน่งสำคัญๆ คาดว่า พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ (ตท.24) รองปลัดกระทรวงกลาโหม จะขึ้นเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี (ตท.24) หัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บัญชาการ ขยับเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.ธิติชัย เทียนทอง (ตท.24) รองเสนาธิการทหาร เป็นเสนาธิการทหาร พล.อ.สุวิทย์ เกตุศรี (ตท.23) ผอ.ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพื่อความมั่นคง เป็น ผบ.นทพ. พล.อ.เจริญชัย สินเธาว์ (ตท.23) ผู้ช่วย ผบ.ทบ.เป็นรอง ผบ.ทบ พล.ท.ภูวนารท ชมพูบุตร (ตท.22) รองเสนาธิการทหารบก เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง (ตท.23) แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.ท.ธราพงษ์ มาละคำ (ตท.24) แม่ทัพน้อยที่ 1 เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ (ตท.22) รอง ผบ.ทอ.เป็น ผบ.ทอ. พล.อ.อ.ณรงค์ อินทรชาติ (ตท.23) ที่ปรึกษาพิเศษ กองทัพอากาศ เป็น เสธ.ทอ. พล.ร.อ.เชิงชาย เชิงชมแพทย์ (ตท.22) ผู้ช่วย ผบ.ทร.เป็น ผบ.ทร. พล.ร.อ. เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ (ตท.23) เสธ.ทร.เป็น รอง ผบ.ทร. พล.ร.ท.อะดุง พันธุ์เอี่ยม (ตท.23) เจ้ากรมสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ เป็นผู้ช่วย ผบ.ทร. พล.ร.ท.วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง (ตท.24) เสธ.ทร.