“วีระกร” โพล่งไม่ใช่แค่ ส.ส. เหนือ-อีสาน ผวาหนักหนีบัตรใบเดียว ส.ส.ภาคกลางก็ไม่เอาด้วย โอดทำพปชร.เสียเปรียบ หาเสียงยาก กระแสดิ่ง แม้ “ลุงตู่” ทำงานดีแต่ติดรูปแบบข้าราชการประจำ เข้าไม่ถึง ปชช. สวดยับรับไม่ได้กลับลำ เพิ่งแก้มาใช้บัตร 2 ใบ ไม่มีมนุษย์ที่ไหนทำกัน “รงค์” โต้กระแสค้าน แค่ทัศนคติส่วนบุคคล ไม่ใช่คำตอบพรรค “นิพนธ์” จวกกลับไปกลับมาใช้ตรรกะอะไร ไม่ใช่นึกจะแก้ก็แก้ ไร้หลักเกณฑ์ เตือนอย่าลากการเมืองเข้าทางตัน “ชูวิทย์” โอ่กติกาไหน พท.ก็ชนะ ดักคอสู้ไม่ได้เดี๋ยวก็รัฐประหาร ล้มเลือกตั้ง “สมคิด” อัดกลัวอะไรนักหนา แต่ประเทศนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ “ชูศักดิ์” ย้ำหาร 500 ขัดรัฐธรรมนูญ รอผ่านรัฐสภาชงศาล รธน.สู้ให้สุด ซัดรัฐบาลเอาแต่ได้ประเทศถึงวิบัติ “ก้าวไกล” ส่ายหัวหวั่นเกิดสุญญากาศ เฉ่งผู้มีอำนาจบ้าบอน่าละอาย อนุ กมธ.หั่นฉับงบฯกองทัพ 3 พันล้าน

จากกรณีพรรคร่วมรัฐบาล แม้กระทั่ง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ต่างคัดค้านไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของแกนนำรัฐบาลที่ส่งสัญญาณต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้ง เพื่อกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวในการเลือกตั้งครั้งหน้า ล่าสุดนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร.ยืนยันนอกจาก ส.ส.ภาคเหนือและอีสาน แต่ ส.ส.ภาคกลางก็ไม่ต้องการใช้บัตรใบเดียว

พปชร.ภาคกลางก็หนีบัตรเดียว

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี ส.ส.ภาคเหนือ ภาคอีสานของพรรค ไม่เห็นด้วยกระแสข่าวแกนนำรัฐบาลส่งสัญญาณจะกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวในการเลือกตั้งสมัยหน้า เพราะกระแสในพื้นที่สู้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลไม่ได้ว่า ส.ส.ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางไม่เห็นด้วยกับสูตรบัตรใบเดียว ทำให้พรรคเสียเปรียบ หาเสียงยาก ขณะนี้กระแสพรรคในพื้นที่ไม่ดี แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะทำงานดี แต่การทำงานเป็นแบบข้าราชการประจำ ทำแล้วไม่เข้าถึงประชาชน การประชาสัมพันธ์ไม่ดี ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์จึงขายประชาชนในภาคเหนือ อีสาน กลางไม่ได้ ยกเว้นภาคใต้ที่ได้ประโยชน์จากบัตรใบเดียว พวกเราอยากได้บัตร 2 ใบ แบบหาร 500 แม้จะไม่ชอบคนยังเลือกพรรคได้ หรือถ้าไม่ชอบพรรค ก็เลือกคนแทนได้ ถ้าใช้บัตรใบเดียวประชาชนจะไม่มีตัวเลือกใดๆ

...

“วีระกร” รับไม่ได้ มนุษย์ที่ไหนทำกัน

นายวีระกรกล่าวอีกว่า เชื่อว่าโอกาสกลับไปใช้บัตรใบเดียวเป็นไปได้ยาก รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดเป็นบัตร 2 ใบแล้ว เหลือแค่รอกติกากฎหมายลูก เรื่องการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อจะให้หาร 100 หรือ 500 จะใช้สูตรใด ยังอยู่ในกฎหมายลูกพอรับได้ แต่เป็นบัตรใบเดียวคงรับไม่ได้ แต่จะถึงขั้นย้ายพรรคหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ ต้องรอดูสถานการณ์ตอนนั้น บางทีรัฐบาลอาจกู้คะแนนเป็นที่ได้รับความนิยมก็ได้ การกลับมาใช้บัตรใบเดียว คงไม่มีทางเกิดขึ้น เพิ่งประกาศแก้ไขเป็นบัตร 2 ใบ ได้ไม่นาน จู่ๆกลับมาใช้เป็นบัตรใบเดียว ไม่มีมนุษย์ที่ไหนทำกัน

“นิโรธ” กัดฟันจะใช้บัตรกี่ใบก็ได้

นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าว ส.ส.ซีกรัฐบาล วิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วยกับการกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวว่า เป็นการวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา ยังไม่มีใครหยิบเรื่องนี้มาพูดกันอย่างเป็นทางการ และส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ไกลเกินกว่าจะพูดคุยกัน เพราะตอนนี้บัตรเลือกตั้งสองใบ ฝ่ายนิติบัญญัติกำลังพิจารณาเรื่องการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็ต้องเดินไปตามนั้น การจะใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวต้องไปแก้รัฐธรรมนูญจึงมองว่าไกลเกินกว่าจะพูดกัน และส่วนตัวมองว่าพรรคพลังประชารัฐจะใช้บัตรเลือกตั้งแบบไหนก็ได้เพราะเรามั่นใจในฐานเสียงของพรรค

“รงค์” กระแสค้านไม่ใช่คำตอบพรรค

นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีกระแสข่าว ส.ส.พรรคพปชร.ไม่เห็นด้วยที่จะกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว เพราะจะเป็นประโยชน์เฉพาะพื้นที่ภาคใต้ว่า คำว่าพรรคพลังประชารัฐ นาย ก. นาย ข. คนที่อยู่ภาคไหนเป็นพรรค พปชร. ทุกคนต่างมีมุมมองว่าการเลือกตั้งด้วยบัตรใบเดียวหรือสองใบ จะได้ประโยชน์หรือไม่ได้ประโยชน์บนพื้นฐานความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความคิดเห็นที่ออกมาเป็นทัศนคติส่วนบุคคล ต้องเคารพความคิดเห็นที่หลากหลาย แต่ละคนที่สะท้อนความเห็นออกมาถือว่ายังไม่ใช่ความเห็นทางการของพรรค ความคิดเห็นอย่างเป็นทางการของพรรคยังไม่ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน เพราะพรรคมีกลไกที่จะพิจารณาเรื่องต่างๆ แล้วค่อยออกมาเปิดเผยออกมาว่าเนื้อหาจะสนับสนุน 1 ใบหรือ 2 ใบ หากจะเกิดขึ้นพรรคต้องพิจารณาบนหลักการที่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่ปรากฏอยู่ในรัฐธรรมนูญ

ร่างปรับแก้ ก.ม.ลูก ส.ส.บรรจุวาระแล้ว

ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ในฐานะเลขานุการคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณา พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกมธ.ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมมาตราในร่าง พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.ให้สอดคล้องกับสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่มติรัฐสภาเห็นชอบให้ใช้จำนวน 500 คนหาค่าเฉลี่ยแทน 100 คนเสร็จแล้วว่า กมธ.ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับแก้ไขให้นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาแล้ว บรรจุเข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว แต่มีร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัยค้างอยู่หลายมาตรา อาจต้องปรับให้อภิปรายกันให้น้อยเพื่อให้เสร็จวันที่ 2 ส.ค.จะขอเสียงข้างมากของรัฐสภาขอเลื่อนวาระร่าง พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.มาพิจารณาต่อ คาดว่าจะเสร็จทันในวันที่ 3 ส.ค. ได้พูดคุยกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท.ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน และ พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 เพื่อขอเลื่อนวาระดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาแล้ว จากนั้นจึงได้เรียนผลการหารือร่วมกันกับนายชวนต่อไป

มั่นใจเร่งทันกรอบเวลา 180 วัน

เมื่อถามว่าจะพิจารณาทันกรอบเวลา 180 วัน ที่จะครบในวันที่ 15 ส.ค.หรือไม่ นายนิกรกล่าวว่า ทันแน่นอนถ้าเสร็จวันนั้น วาระ 3 ก็ตามนั้นเลย เพราะเหลือการพิจารณาเพียง 9 มาตรา เชื่อว่าวันเดียวเสร็จ คือวันที่ 3 ส.ค. จึงไม่ติดกรอบ 180 วันอีกแล้ว จากนั้นประธานรัฐสภาจะส่งไปให้ กกต.หรือหน่วยไหนก็แล้วแต่ เมื่อถามว่ากังวลว่าจะมีเกมสกัดยื้อเวลาทำให้พิจารณาไม่ทันกรอบหรือไม่ นายนิกรกล่าวว่า ไม่มี เพราะผู้ที่สกัดได้มีเพียงนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานกมธ. และตนที่เป็นเลขาฯ กมธ. เป็นผู้ตั้งใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะต้องทำงานให้เสร็จ แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับหาร 500 คือเราต้องส่งให้ขึ้นฝั่งให้ได้ และต้องไปข้างหน้า ส่วนจะข้ามฝั่งไปอีกฝั่งได้หรือไม่ เราไม่รู้ และเชื่อว่าจะไม่ต้องไปยึดร่างของ ครม. ที่เสนอมาเป็นสูตรหาร 100

“ชูวิทย์” โวกติกาไหน พท.ก็ชนะ

นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีไม่ชัดเจนของรัฐบาลเกี่ยวกับกติกาการเลือกตั้งในอนาคตว่า การเลือกตั้งหากเปรียบเทียบกับการแข่งกีฬา ผู้มีอำนาจในตอนนี้ก็เหมือนเป็นเจ้าภาพที่คอยคิดกติกา แต่หากเขาคิดจะชนะอย่างเดียวมันไม่ใช่การแข่งกีฬา วันหนึ่งบอกว่าเราจะเปิดแข่งวอลเลย์บอล พี่น้องประชาชนรอคอยให้ร่างกติกา พอร่างเสร็จทุกทีมเตรียมตัวลงแข่ง แต่คนร่างกติกาคิดไปคิดมาแล้วคงไม่ชนะเลยเปลี่ยนเป็นตะกร้อแทน พอมาดูแล้วไม่ชนะอีกอยากกลับไปเป็นวอลเลย์บอล เหมือนตอนนี้ที่สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อกลับไปกลับมาถึงขั้นพูดถึงกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ขอบอกให้ชัดไม่ว่าจะใช้สูตรไหนพรรคเพื่อไทยที่เป็นนักกีฬายินดีพร้อมสู้ทุกกติกา ขออย่างเดียวอย่าโกง ถ้าโกงถึงวันแข่งขันผู้ชมจะลงมาตีกรรมการ คุณคิดได้คิดไปแต่คนที่ยืนมองอยู่เขาดูว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่อายฟ้าอายดินก็อายตัวเองบ้าง ไม่ว่าจะใช้สูตรเลือกตั้งหรือกีฬาแบบไหน เป็นฟุตบอลใช้เท้าเตะ วอลเลย์บอลใช้มือตี หรือกีฬาแบบเดี่ยวแบบทีม พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าด้วยนโยบายประชาธิปไตยกินได้เราชนะแน่นอน ถ้าอยากชนะต้องไปทำนโยบายที่กินได้ ไม่ใช่แจกอย่างเดียว

ดักคอสู้ไม่ได้เดี๋ยวก็รัฐประหาร

นายชูวิทย์กล่าวต่อว่า สิ่งที่กังวลตอนนี้คือกลัวว่าถ้าผู้มีอำนาจคิดสูตรเลือกตั้งต่างๆนานาแล้วยังสู้ไม่ได้ อาจคิดว่าแบบนี้ก็ไม่ต้องเลือก รัฐประหารมันเสียเลย มีเรื่องเช่นนี้เข้าหูมาบ้าง อยากเตือนคนที่กำลังมีอำนาจว่า อย่าคิดแต่จะรักษาอำนาจให้สงสารคนไทยทั้งประเทศด้วยที่กำลังจะอดตาย กินข้าวกับน้ำปลาทุกวันแล้ว และหากเป็นเช่นนั้นอีกประเทศไทยจะถอยหลังไปมากกว่านี้

กลับไปกลับมา กลัวอะไรนักหนา

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แนวโน้มการร่างกฎหมายในปัจจุบันเห็นได้ชัดว่าผู้มีอำนาจคิดกติกาแต่จะเอาเปรียบกีดกันพรรคการเมืองฝ่ายตรงกันข้ามโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองชนะในการเลือกตั้ง แต่พอเดินหน้าไปแล้วกลัวไม่ชนะอีก เห็นได้จากข่าวการจะกลับมาใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหารด้วย 100 ทั้งที่เพิ่งเปลี่ยนไปหารด้วย 500 รวมทั้งไปไกลถึงจะแก้รัฐธรรมนูญมาใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว พยายามสกัดทุกวิถีทางเพื่อสกัดพรรคเพื่อไทย ไม่เข้าใจว่าจะกลัวอะไรนักหนากับพรรคเพื่อไทย ถ้าประชาชนเลือกมาต้องเคารพเสียงของประชาชน แต่ตอนนี้กลัวว่าหากเขาสกัดไม่อยู่ สิ่งที่เขาจะคิดต่อไปคืออาจจะไม่ให้เลือกตั้งโดยการยึดอำนาจอาจเกิดขึ้นได้ เพราะเราอยู่ในรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เขาทำได้ทุกอย่างอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เรื่องนี้ ส.ส.หลายคนได้พูดคุยวิเคราะห์สถานการณ์กัน แต่เป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย

บัตร 1 ใบประเทศนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้

นายสมคิดกล่าวอีกว่า กรณีกระแสข่าวที่จะมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อกลับไปใช้ระบบบัตรเลือกตั้งแบบใบเดียว เป็นเรื่องที่คิดง่าย แต่ทำไม่ง่าย เนื่องจากระยะเวลาเหลือน้อย และเพิ่งมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นระบบบัตรเลือกตั้งสองใบไปแล้ว อยู่ดีๆยังไม่ได้ใช้อะไรเลยแล้วจะย้อนกลับไปจุดเดิมจะตอบคำถามสังคมอย่างไร ที่สำคัญทั้งรัฐบาลและ ส.ว.ผู้ทรงเกียรติต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บัตรใบเดียวมีปัญหามันเขย่ง ถ้าจะย้อนกลับไปอีกไม่เห็นด้วย ส่วนเขาจะทำได้ไม่ได้ไม่ใช่หน้าที่ตน อยากทำอะไรก็ทำ เพียงแต่ว่าถ้าคิดและทำเช่นนี้แสดงว่ามีรัฐสภาไว้แค่ที่รองรับและสนองความต้องการของตนเองใช่หรือไม่ ไม่ใช่รัฐสภาของประชาชน เมื่อถามว่า การแก้ให้กลับไปเป็นระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียว มีโอกาสเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า อยู่ที่คนมีอำนาจ บ้านเมืองนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แต่เรายืนอยู่ในหลักการว่า เราไม่เห็นด้วย พรรคเพื่อไทยไม่ได้สนใจว่าจะบัตรกี่ใบ แต่อะไรที่ถูกต้องและเสียงส่วนมากว่าอย่างไร เราไปตามนั้น

ย้ำหาร 500 ขัด รธน.จ่อชงศาล รธน.

นายชูศักดิ์ ศิรินิล กรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กล่าวถึงกรณีรัฐสภาให้ กมธ.พิจารณากฎหมายลูก มาเพิ่มเติมร่างกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยการหาร 500 ว่า เสียงรัฐบาล ส.ว.ใน กมธ.เอียงไปทางหาร 500 เสียง การประชุมที่ผ่านมาดำเนินการไปตามมติรัฐสภา เพิ่มเติมกฎหมายเพื่อแก้ให้สอดคล้องกับการหาร 500 ให้จบสิ้นกระบวนความ ส่วนกลุ่มเห็นด้วยกับหาร 100 สงวนคำแปรญัตติไว้พูดในรัฐสภา ขึ้นอยู่กับรัฐสภาว่าจะเห็นอย่างไร แต่พวกตนกับพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เห็นด้วยกับการหาร 100 จะไปอภิปรายในรัฐสภาว่าไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มเติมบทบัญญัติในร่างกฎหมายที่สำคัญเกี่ยวกับมาตรา 23 เพื่อให้หาร 500 มันขัดรัฐธรรมนูญ จะเพิ่มอย่างไรขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 91 อยู่ดี แม้แนวโน้มหาร 500 จะผ่านรัฐสภาแต่ยังไม่ยุติ เมื่อส่งไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถ้า กกต.ตอบว่าไม่ขัดหรือปฏิบัติได้ พวกตนจะยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญต่อไป กมธ.พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นตรงกันหาร 500 ขัดมาตรา 91 ขอยืนยันต่อสู้จนถึงที่สุด

ซัด รบ.เอาแต่ได้ประเทศถึงวิบัติ

นายชูศักดิ์กล่าวอีกว่า กรณีข่าวรัฐบาลจะพลิกเกมให้กฎหมายตกไปแล้วกลับไปใช้บัตรใบเดียวที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงแปลว่ารัฐบาลคิดอย่างเดียวว่าใช้สูตรไหนจะได้เปรียบแล้วนำไปสู่สูตรนั้น ไม่ได้คิดโดยปรัชญาสร้างกฎหมาย เพราะปรัชญาของการสร้างกฎหมายต้องสร้างเพื่อเป็นธรรมเสมอภาคกันของทุกฝ่าย ไม่ใช่คิดจะเอาเปรียบว่ารัฐธรรมนูญดีไซน์มาเพื่อพวกเรา ถ้าประเทศเป็นเช่นนั้นก็ถึงกาลวิบัติ เพราะเพิ่งแก้รัฐธรรมนูญเมื่อปี 64 กฎหมายประกอบที่สร้างมาแล้วไม่พอใจก็ล้มเสีย คำถามคือพรรคที่เสนอแก้รัฐธรรมนูญมาเห็นดีกับวิธีแบบนี้หรือ เพราะขาดความชอบธรรม เสียเวลาประเทศ แสดงให้เห็นว่าประเทศขาดไร้ซึ่งนิติรัฐนิติธรรมแบบสุดๆ เมื่อถามว่ากังวลว่าจะนำไปสู่การยึดอำนาจหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่อยากประเมินไปถึงขนาดนั้น เพราะขณะนี้ประชาชนก็เห็นกันอยู่แล้วว่าผลพวงการรัฐประหารเป็นอย่างไร เข้าใจว่าคงจะเกิดความวุ่นวายโกลาหลแน่นอน

กก.ส่ายหัวหวั่นเกิดสุญญากาศ

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแกนนำรัฐบาลบางคนอยากให้แก้รัฐธรรมนูญกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวแบบปี 2562 ว่า จุดยืนพรรคก้าวไกลไม่ได้เห็นด้วยกับระบบเลือกตั้งปี 2562 อยากผลักดันระบบเลือกตั้งแบบเยอรมันมากกว่า แต่ไม่มีใครเอาด้วย พอมาแก้ไขกฎหมายลูกรอบนี้ เราเสนอสูตรของนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อก้าวไกล เป็นวิธีการไม่ทำให้เกิด ส.ส.ปัดเศษ ไม่เกิด ส.ส.ที่ได้คะแนนเสียงน้อยกว่าความเป็นจริง มาพยายามกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว เราก็ไม่เห็นด้วย แก้ไขกันมาขนาดนี้ควรจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง ถ้าเกิดอุบัติเหตุการเมือง และไม่มีกฎหมายลูกมารองรับการเลือกตั้งจะเป็นปัญหา

ฉะผู้มีอำนาจบ้าบอทำตัวน่าละอาย

นายพิจารณ์กล่าวอีกว่า บัตรใบเดียวเห็นกันแล้วว่าเลือกตั้งรอบที่แล้วมีปัญหา ทั้งหมดที่เคลื่อนไหวกันอยู่ไม่ได้แก้ไข โดยมองผลประโยชน์ประชาชน แต่จะทำอย่างไรเพื่อให้ใครได้ประโยชน์ พอยืนบนหลักการนี้เลยเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา น่าละอายมากที่ผู้มีอำนาจ ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเป็นแบบนี้ เมื่อถามว่ามีข่าวว่า พปชร. ภาคเหนือ และอีสานรับไม่ได้บัตรใบเดียว เพราะหวั่นกระแสของพรรคเพื่อไทย นายพิจารณ์ตอบว่า บ้าบอมากที่ระบบเลือกตั้งจะเปลี่ยนไปเรื่อย ประชาชนปวดหัวตายเลย เลือกตั้งแต่ละทีมาทำความเข้าใจกันอีกที ตกลงรอบนี้กาอย่างไร เลือกอย่างไร คะแนนคิดอย่างไร เป็นความจริงที่แย่มาก ควรออกแบบระบบเลือกตั้งที่ตอบโจทย์สถานการณ์การเมืองไทย ต้องเป็นหลักการสะท้อนเสียงออกมาได้ดีที่สุด แต่นี่พยายามจะออกแบบให้เขาได้ประโยชน์ เลยกลายเป็นการเถียงกันไปมา ไปยืนบนหลักการที่ตัวเองจะได้ประโยชน์ ไม่ได้มองว่าสะท้อนเสียงประชาชนจริงๆหรือไม่

โรยเกลือยื่น ป.ป.ช.-ป.ป.ท.สอยทุจริต

นายพิจารณ์กล่าวอีกว่า ปฏิบัติการโรยเกลือนำประเด็นซักฟอกยื่นองค์กรอิสระ ข้อมูลอยู่ที่นายชัยธรัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แต่เท่าที่ได้พูดคุยกับเจ้าของข้อมูล มี 2 ประเด็นที่ยื่นแน่สัปดาห์หน้า คือกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล เรื่องการทุจริตในกองบินตำรวจ (บ.ตร.) จะยื่นต่อ ป.ป.ช.เอาผิดนายกฯ อีกเรื่องกรณีนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล จะยื่น ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.เอาผิดนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมฯเรื่องทุจริตการเคหะแห่งชาติ ส่วนเรื่องอื่นๆยังอยู่ในกระบวนการร่างคำฟ้องด้วยความรัดกุม

“นิพนธ์” สวดไม่ใช่นึกจะแก้ก็แก้

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวว่าบิ๊กรัฐบาลอยากให้แก้รัฐธรรมนูญกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวแบบปี 2562 ว่า เรื่องจุดยืน ปชป.ต้องพูดคุยอีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยเป็นทางการ เพิ่งทราบจากข่าวว่ามีแนวคิดแบบนี้ แต่เราแก้เป็นบัตรสองใบ วันนี้ยังไม่ได้ใช้งานกันเลย อยู่ๆจะแก้เป็นบัตรใบเดียวอีก แล้วที่ผ่านมาเราใช้ตรรกะอะไรต้องรอบคอบในการตัดสินใจ กติกาทางการเมือง กฎหมายแม่บทต้องมีเหตุมีผล ตอนนี้หาร 500 กับหาร 100 ยังไม่ได้ข้อยุติเลย รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ นึกจะแก้ก็แก้ นึกจะไม่แก้ก็ไม่แก้ หรือนึกจะกลับไปเป็นของเดิมต้องมีหลักเกณฑ์ ไม่อย่างนั้นบ้านเมืองจะพูดคุยกันลำบาก ต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ สิ่งสำคัญขณะนี้ทุกคนใจจดใจจ่ออยู่กับเรื่องเศรษฐกิจ เราไม่ควรเอาเรื่องรัฐธรรมนูญที่ผ่าน คุยกันไปแล้ว ประชุมกันโดยชอบแล้ว จะวกกลับไปกลับมา จะทำให้ความ เชื่อมั่นทางการเมืองลดน้อยถอยไปอีก

เตือนไม่ควรลากการเมืองสู่ทางตัน

เมื่อถามว่าถ้าในพรรคร่วมรัฐบาลยังดึงดัน พรรค ปชป.จะเอาอย่างไร นายนิพนธ์ตอบว่าตอนนี้ยังไม่ได้คุยกัน ส่วนตัวคิดว่ามันไม่ควรถอยหลังกลับไปไกลถึงขนาดนั้น เมื่อถามว่ามีข่าว พปชร.ภาคอีสานรับไม่ได้บัตรใบเดียว หวั่นกระแสพรรค เพื่อไทย นายนิพนธ์ตอบว่า ตนไม่อยากได้บัตรใบเดียว แต่ไม่ใช่ว่าเพราะกลัวกระแสเพื่อไทย มีจริงหรือไม่มีจริงไปว่ากัน แต่รัฐสภาสถาบันหลักทางการเมือง ต้องมีหลักมีเหตุผล ไม่ใช่เป็นเรื่องความต้องการของใครคนใดคนหนึ่ง ชาวบ้านยังไม่ได้ใช้เลยแล้วเราด่วนตัดสินใจไปแก้ใช้บัตรใบเดียวอีก มันไม่ ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่ เมื่อถามย้ำว่า กลัวจะเกิดสุญญากาศทางกฎหมายหรือไม่ ไทม์ไลน์กฎหมายกระชั้นชิดขึ้น นายนิพนธ์กล่าวว่า มันเป็นไปได้ทั้งหมดว่าถ้าจะเอาอย่างนั้น จะทำให้การเมืองไปถึงทางตันหรืออย่างไร การเมืองถ้าเราเดินไม่ให้ตันก็ได้ แต่ถ้าเราจะเดินไปถึงจุดตันที่ต้องนำไปสู่การตัดสินใจอย่างอื่นขึ้นมาอีก มันไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น ความจริงการเมืองควรต้องทำให้มีทางเลือก ไม่ควรทำให้มีทางตัน

ลุ้นออกหน้าไหนหาร 100 หรือ 500

นายนิพนธ์กล่าวอีกว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนแกนนำพรรค ปชป.ได้หารือร่วมกัน ได้พูดคุยเพื่อเตรียมพร้อมการเลือกตั้งครั้งหน้า หัวหน้าพรรคมอบการบ้านให้รองหัวหน้าแต่ละภาค วางแผนปรับยุทธศาสตร์การวางตัวผู้สมัคร ส.ส.แต่ละเขต อีก 2 สัปดาห์จะนัดอีกครั้ง ให้หัวหน้าภาคแต่ละภาครายงานให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรครับทราบผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวงหารือนายจุรินทร์ระบุตอนหนึ่งว่า ต้องรอดูการแก้ไขกฎหมายหมวดเลือกตั้งก่อนว่าจะออกหน้าไหน จะใช้สูตรใดคำนวณหา ส.ส.บัญชีรายชื่อว่าจะใช้สูตรหาร 100 หรือหาร 500

ปชป.ทำการบ้านลุยเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค นัดนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคพร้อมแกนนำพรรคระดับรองหัวหน้าพรรคภาคต่างๆและรองหัวหน้าพรรคด้านภารกิจ ทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารจีนแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี หารือถึงสถานการณ์การเมืองที่ปรับเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง โดยนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคภารกิจ ได้กล่าวถึงปัญหาความไม่เป็นเอกภาพในภาคต่างๆ ยังมีการแบ่งคนของผู้บริหารพรรคเป็นก๊กก๊วน อาทิ ภาคอีสานมีหลายกลุ่ม ขณะที่นายไชยยศดูแลพื้นที่ภาคอีสานเห็นด้วย กล่าวเสริมว่าหลายคนทำอะไรไม่แจ้งรองหัวหน้าภาคที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ นายเฉลิมชัยจึงกำชับขอให้ความเป็นเอกภาพในพื้นที่ต้องมาก่อน รัฐมนตรีพรรค หรือรองหัวหน้าพรรคภาคอื่นหรือรองหัวหน้าพรรคภารกิจจะลงพื้นที่ภาคใด ต้องแจ้งให้รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคนั้นๆทราบทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นเหนื่อย อีก 2 สัปดาห์ให้มารายงานการวางตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตที่พร้อม ส่วนนายจุรินทร์ย้ำว่า รัฐมนตรีหรือรองหัวหน้าพรรคด้านภารกิจจะลงไปช่วยภาคไหน เขตใดขอให้แจ้งรองหัวหน้าภาคนั้น ไม่ต้องกลัวว่าไม่มีผลงาน หากเขตใดจังหวัดใดชนะเลือกตั้งถือเป็นเครดิตของคนนั้นๆ

“นิพิฏฐ์” ฟันธงบัตร ลต. 2 ใบมาแน่

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง ในฐานะรองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า กลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวหรือมีความเห็นเยอะว่ารัฐสภาจะกลับไปใช้การเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัตรใบเดียวอีกหรือ ถ้าจะอธิบายต้องเขียนเยอะและเข้าใจยาก เอาง่ายๆสั้นๆ ถ้ารัฐสภาจะกลับไปกลับมา ไม่มีหลักการ วิธีการเริ่มแรกคือสมาชิกรัฐสภาต้องคว่ำร่างกฎหมายเลือกตั้งที่จะพิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า แต่เชื่อเถอะไม่กล้าคว่ำ ด้วยเหตุผล 2 ข้อ 1.เวลาของรัฐสภามีไม่พอที่จะแก้รัฐธรรมนูญและแก้กฎหมายเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง 2.พรรคการเมืองบางพรรคที่อ้างว่าเข้ามาเป็นรัฐบาล เพราะต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย จะกลายเป็นการแหกตาประชาชน และจะเป็นการฆ่าตัวตายกลางสภาฯ กล่าวโดยสรุปจะใช้บัตร 2 ใบในการเลือกตั้งแน่นอน แต่จะหาร 500 หรือหาร 100 ให้สมาชิกหายเมากัญชาก่อนค่อยถาม อย่าเพิ่งถามตอนเมากัญชา

“บิ๊กตู่–สุพัฒนพงษ์” ถกราคาพลังงาน

ที่สนามหลวง ภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เสร็จสิ้นภารกิจเป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2565 ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นรถรางเพื่อไปทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ได้ใช้โอกาสนี้หารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงาน ที่ร่วมนั่งรถรางมาคันเดียวกันถึงภาพรวมการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงราคาพลังงานที่สูงในปัจจุบัน นอกจากนี้นายกฯได้กล่าวทักทายประชาชนที่มาร่วมพิธีว่า “ขอให้มีความสุขกันนะจ๊ะ”

อนุ กมธ.หั่นงบฯกองทัพ 3 พันล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียนใน กมธ. วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ที่มีนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานอนุ กมธ. เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ได้พิจารณางบประมาณกระทรวงกลาโหมทุกหน่วยงานที่ขอรับงบประมาณด้านครุภัณฑ์ปี 2566 เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยอนุ กมธ.ปรับลดงบเหล่าทัพรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบฯของกองทัพบก 2,000ล้านบาท บางรายการเป็นจัดซื้อรถบัสไฟฟ้าจำนวน 300 ล้านบาท โดยอนุ กมธ.ตั้งข้อสังเกตรถบัสของกองทัพบกส่วนใหญ่ปฏิบัติภารกิจสมบุกสมบัน เป็นภารกิจต่างจังหวัดระยะทางไกล การใช้รถบัสไฟฟ้าอาจไม่เหมาะสมภารกิจ ส่วนอีก 1,700 ล้านบาท เป็นงบฯผูกพันต่อเนื่องจากปีก่อน อาทิ งบฯจัดหาเฮลิคอปเตอร์บางโครงการยังทำทีโออาร์ไม่เสร็จ บางโครงการงบฯปีก่อนยังเหลืออยู่ อนุ กมธ.เห็นว่าหากได้งบฯปี 2566 อีก จะไม่สามารถนำไปใช้ได้ มีมติให้เลื่อนงวดการรับงบฯดังกล่าวไปก่อน

เฉือนงบฯอบรมเรือดำน้ำ–เอฟ 35A

ผู้สื่อข่าวรายงาน ขณะที่กองทัพเรือถูกลดงบฯไป 200 ล้านบาท เป็นงบฯโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ในส่วนการส่งเจ้าหน้าที่ไปฝึกอบรมการใช้เรือดำน้ำ เนื่องจากการจัดหาเรือดำน้ำยังมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์อยู่ ส่วนกองทัพอากาศปรับลดงบ 700 ล้านบาทเป็นโครงการจัดหาเครื่องบินรบ F-35A 2 ลำ วงเงินกว่า 700 ล้านบาท เนื่องจากกองทัพอากาศยังไม่ได้รับคำยืนยันจากสหรัฐฯจะขายให้หรือไม่ อย่างไรก็ตามอนุ กมธ.จะนำรายงานการพิจารณาเสนอต่อ กมธ.ชุดใหญ่ วันที่ 2 ส.ค. หน่วยงานที่ถูกปรับลดงบฯยังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อ กมธ.ชุดใหญ่ได้

“บิ๊กป้อม” เร่งแก้ปัญหาน้ำรับมรสุม

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เปิดเผยว่า ได้รับทราบรายงานสภาพอากาศจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และร่องมรสุมพาดผ่านลาวตอนบนและเมียนมา ระหว่าง 27 ก.ค.- 1 ส.ค.65 ส่งผลให้ฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ โดยสั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และฝ่ายปกครอง ประสานกับทหาร ตำรวจและจิตอาสาในพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เตรียมแจ้งเตือนและให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทันที สำหรับพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังใน จ.ระยอง จันทบุรี ตราด อุตรดิตถ์ น่าน เลยพิจิตร โคราช ระนอง ตรังและนครศรีธรรมราช ให้บูรณาการเครื่องมือ เครื่องจักรเปิดทางเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็วและให้ติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงและการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่มีมากขึ้นช่วงวันที่ 28 ก.ค.-1 ส.ค.อย่างใกล้ชิด เพราะจะส่งผลให้ระดับน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น 1.9-2 เมตรอาจกระทบชุมชนริมเจ้าพระยา นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว และขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานความร่วมมือกับจิตอาสาเข้าไปช่วยสนับสนุนและเสริมการช่วยเหลือกันและกัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและผลกระทบประชาชนที่อาจเกิดขึ้น