“ประเสริฐพงษ์” แฉ “นิพนธ์” ใช้โมเดล ส.ป.ก. 4-01 เวอร์ชั่นอัปเกรด ออกโฉนดที่ดินภาคใต้เอื้อเครือข่ายพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเปิดคลิปเสียงแฉ ปูดมีอดีตอัยการสูงสุดช่วยยืดคดีให้นั่งเก้าอี้ รมช. ต่อ

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 20 ก.ค. 2565 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 4 ครั้งที่ 13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน” นายนิพนธ์ อ้างว่าจะมาช่วยแก้ปัญหาความล่าช้าในการออกโฉนดและกระจายการถือครองที่ดินให้ประชาชนและเกษตรกร กลายเป็นโครงการที่ออกโฉนดที่ดินผืนงาม เพื่อให้นายทุนเครือข่ายของตัวเองแสวงหาประโยชน์ คล้ายกับนโยบาย “ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม” หรือ ส.ป.ก.4-01 ในปี 2537

ซึ่งก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เคยเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการออกโฉนดที่เกาะนุ้ยนอก จังหวัดกระบี่ จนกลายเป็นข่าวดัง มีแรงกดดันให้สอบสวน จนต้องเพิกถอนโฉนดที่ดิน แต่ นายนิพนธ์ กลับไม่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ได้เพียงแต่ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยกรณีที่เกาะนุ้ยนอกที่เดียว ไม่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินทั้งหมด เพื่อระงับยับยั้งไม่ให้เกิดกรณีคล้ายกันในที่อื่นๆ

นายประเสริฐพงษ์ ยังอภิปรายต่อว่า เมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา มีการออกโฉนดที่ดินเกาะนุ้ยนอก เกาะกลางทะเลเล็กๆ ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะที่ชาวบ้านใช้หลบฝนหรือแวะแกะอวนกัน ไม่มีการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างการเพาะปลูก จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการออกโฉนด ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ.2537) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ข้อ 14 (3) แต่ผู้ใหญ่บ้านหมู่อื่นที่ไม่อยู่ในพื้นที่ ได้มาลงนามรับรองรังวัดร่วมกับ ชัยยุทธ ไชยทองรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดกระบี่-พังงา โดยหนึ่งในผู้ที่ได้โฉนดไปคือผู้อำนวยการ ใน DSI ที่ดูแลด้านแผนที่โดยเฉพาะ ที่สร้างหลักฐานเท็จ สร้างร่องรอยการใช้ประโยชน์ปลอมๆ และมีการใช้หลักฐานปลอมเป็นเอกสาร ส.ค. 1 ในการขอโฉนด

...

“ทั้งที่มีข่าวดัง และพรรคก้าวไกลก็อภิปรายเรื่องเกาะนุ้ยนอกไปเมื่อกุมภาพันธ์ 2565 ชัยยุทธ คนเดียวกันนี้ก็ยังเดินหน้าออกโฉนดให้นายทุนต่อได้อีก ในเดือนมีนาคม 2565 มีการออกโฉนดที่ดินผืนใหญ่ที่เกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงาให้บริษัทเดียว ถึง 20 แปลง ในคราวเดียว”

นายประเสริฐพงษ์ กล่าวต่อว่า เมื่อสิงหาคม 2564 นายชัยยุทธ ยังได้ออกโฉนดในพื้นที่หาดนาใต้รวม 27 ฉบับภายในวันเดียว ทั้งที่ไม่มีการแนบหลักฐานการใช้ประโยชน์ที่ดิน อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวยังเคยมีคดีความพื้นที่บุกรุก เมื่อตรวจสอบรายชื่อเจ้าของที่ดิน 27 แปลงที่หาดนาใต้แล้ว พบว่ามีทั้งนายทุนธุรกิจท่องเที่ยว ก่อสร้าง และพัฒนาที่ดิน หลายคนก็ไม่ใช่คนพื้นที่พังงาด้วย และยังมีที่ดินถึง 4 แปลงที่เป็นของนายทุนนามสกุลเดียวกัน และ นายประเสริฐพงษ์ ยังได้เปิดคลิปเสียงแฉว่า ในจำนวนนี้มีนอมินีถือที่ดินแทน อดีตนายก อบจ.พังงา ที่อาจเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พังงา พรรคประชาธิปัตย์ สมัยหน้า

“อีกหนึ่งคนที่มีชื่อถือครองที่ดินหาดนาใต้ คือคนนามสกุล กิตติพรหมวงศ์ นามสกุลเดียวกับ ส.จ. อำเภอท้ายเหมือง ซึ่งลงเลือกตั้งทีม อบจ. เดียวกับ อดีตนายก อบจ.พังงา นอกจากนี้ เจ้าของที่ดินแปลงนี้ยังเป็นน้องสาวของ อดีตอัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้องคดี ‘บอส อยู่วิทยา’ ด้วย”

ซึ่งในช่วงที่มีการออกโฉนดนี้ให้กับน้องสาวของ อดีตอัยการสูงสุด นั้น ป.ป.ช. อยากจะฟ้อง นายนิพนธ์ จากกรณีละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่าซื้อรถอเนกประสงค์ 2 คัน 50 ล้านบาท สมัยที่เป็นนายก อบจ. สงขลา ซึ่งทำให้ อบจ. ต้องจ่ายดอกเบี้ยอีก 30 ล้านบาท แต่ อสส. กลับแจ้งว่ามีข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดี จนกระบวนการยืดออกไป ถ่วงเวลาออกไปจนครบกำหนดเกษียณตำแหน่งของ อดีตอัยการสูงสุดคนดังกล่าว พอดี ช่วยรั้งให้ นายนิพนธ์ ยังนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีต่อได้ กว่ากระบวนการจะไปถึงศาล นายนิพนธ์ก็อาจจะอยู่ในตำแหน่งครบวาระ

นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า โครงการเดินสำรวจรังวัดที่ดินนี้เป็นเพียงการปรับปรุงแผนทุจริตให้แนบเนียนขึ้นจาก โครงการ ส.ป.ก.4-01 เพราะโครงการนี้แจกโฉนดโดยไม่ต้องพิสูจน์ว่าเป็นเกษตรกรหรือไม่ และตัดตอนกระบวนการไม่ให้รัฐมนตรีต้องมาเกี่ยวข้องเหมือนคราว ส.ป.ก. แต่ให้จบที่ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจ เมื่อเกิดเรื่อง รัฐมนตรีก็เพียงปิดตาข้างเดียว สั่งสอบเป็นรายๆ ไป

“น่าเศร้าที่จนถึงวันนี้ ไม่มีคำขอโทษใดๆ กับนโยบาย ส.ป.ก. ตอนนั้นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง จนวันนี้มาเจอการทุจริตอีกแบบ จากรัฐมนตรีของพรรคเดิม แต่คราวนี้มาอย่างแนบเนียนขึ้น” นายประเสริฐพงษ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่มีการเปิดคลิปเสียง นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส. นครศรีธรรมราช และ รองเลขาฯ ปชป. ได้ลุกประท้วงตลอดเวลา ขอให้อย่ากล่าวถึงบุคคลที่ 3 เพราะอาจถูกฟ้องได้ และยืนยันว่าเรื่องนี้จะมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นนอกสภา