เคราะห์ซ้ำกรรมซัด สารพัดวิกฤติที่โถมทะลักเข้ามา บั่นทอนความสุขของชาวโลกไม่น้อย  ถัดจาก  โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ยังคาราคาซังก็จะมาเจอกับ กาฬโรคปอด ชนิดเป็นปุ๊บตายปั๊บ

คุณภาพชีวิตถดถอยลงทุกที

แค่วิกฤติเศรษฐกิจอย่างเดียวก็จะอดตายอยู่แล้ว  โรคภัย

ไข้เจ็บมาเยือนอีก ดัชนีวัดความเจริญเติบโตด้วยความสุข น่าจะเป็นเรื่องขำๆมากกว่า นักเศรษฐศาสตร์เตือนแล้วเตือนอีก ว่า เศรษฐกิจจะถึงจุดต่ำสุดในปีหน้าโน่น บ้านเราผ่าไปบอกว่า เริ่มจะเห็นแสงสว่างที่ปลายท่อฉิบ

นอกจากจะต้องใช้จ่ายอย่างรอบคอบแล้ว  การหาเงินเข้าประเทศก็สำคัญ  เพราะเม็ดเงินจากการลงทุนหดหายไปเป็นจำนวนมหาศาล แถมเม็ดเงินลงทุนที่เคยมีอยู่ก็ย้ายฐานออกไปอีก

ผมอ่านข่าว บริษัทล็อกซเล่ย์และบริษัทร่วมทุนที่ได้รับดำเนิน  โครงการหวยออนไลน์  จากภาครัฐ  ร่ำๆที่จะฟ้องรัฐบาลเรียกร้องค่าเสียหาย เพราะรัฐบาลไม่ได้ยึดข้อกฎหมายและสัญญา แต่อยู่ที่การตัดสินใจของนายกฯ  อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  เพียงคนเดียว จะนิติรัฐไม่นิติรัฐ คงไม่ต้องพูดอะไรกันมาก

วงในคงจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร  ระหว่างผู้ค้าหวยใต้ดินกับเหตุผลทางการเมือง  เช่นเดียวกับเหตุผลที่นายกฯอภิสิทธิ์ ตั้งอกตั้งใจที่จะให้  ผบ.ตร.หลุดจากตำแหน่งให้ได้

ไม่อยากให้นายกฯของประเทศถูกชี้นำจากคนบางกลุ่มซึ่งคนกลุ่มนั้นยังอยู่ในฐานะผู้ต้องหาคดีอาญาแผ่นดินด้วยซ้ำ ความสัมพันธ์ส่วนตัวก็อีกเรื่อง แต่การบริหารงานบ้านเมืองก็ต้องเป็นอีกเรื่อง

จะมาเล่นสองหน้าไม่ได้

วิกฤติที่ซ้ำซ้อนอยู่ในเวลานี้อาการน่าเป็นห่วง  ที่แนะจับตาให้ดีคือ วิกฤติน้ำมัน ที่จะพ่นพิษอีกกระทอก จากข้อมูลปริมาณน้ำมันของโลก มีจำนวนลดน้อยลงทุกที  และในอนาคตจะมีปัญหาการขาดแคลนน้ำมันที่มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นทุกวัน

เป็นผลให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ปัจจุบันสูงกว่า  70  ดอลลาร์ สหรัฐฯต่อบาร์เรลไปแล้ว  ในขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ ต้องเจอกับสารพัดภาษี จากราคาต้นทุนอยู่ที่ 17 บาทต่อลิตร ไปถึงมือผู้บริโภคกลายเป็นลิตรละ 40 บาทกว่า

คนที่รับกรรมก็คือชาวบ้าน

นี่ผมยังไม่รู้ว่า รัฐบาลชุดนี้จะรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจ ที่เกิดจากราคาน้ำมันในอนาคตอย่างไร ถ้าขืนทำกันแบบเช้าชามเย็นชาม พอจวนตัวก็โยนความรับผิดชอบ  อ้างมาจากปัญหาการเมืองที่ยังไม่นิ่ง

โถ   ก็รัฐบาลเองยังไม่นิ่ง   พับผ่า.

หมัดเหล็ก

...