โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ เชื่อมั่นโอกาสการค้าไทย-ซาอุดีอาระเบีย ก้าวหน้า หลังหอการค้ามณฑลริยาด จัด คณะธุรกิจซาอุดีฯ เยือนไทย 4-8 ก.ค. สอดคล้องความร่วมมือ 9 ด้าน

วันที่ 6 ก.ค. 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้ทราบว่า หอการค้ามณฑลริยาด ได้จัดการเดินทางของนักธุรกิจซาอุดีอาระเบียจำนวน 80 คน ที่สนใจการค้า การลงทุนในประเทศไทย โดยมีกำหนดเดินทาง ระหว่างวันที่ 4-8 กรกฎาคม 2565 เพื่อเจรจาธุรกิจกับภาคเอกชนไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย อย่างเป็นรูปธรรม เชื่อมั่นว่ามีโอกาส ช่องทางเพิ่มการค้าการลงทุนระหว่างกัน ตลอดจนไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการลงทุน เชื่อมโยงระหว่างทั้งสองภูมิภาค

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อช่วงต้นปี 2565 นั้นได้ขยายโอกาสในการร่วมมือกันระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย อย่างต่อเนื่องในหลายมิติ โดยในวันที่ 4-8 กรกฎาคม 2565 หอการค้ามณฑลริยาด ซาอุดีอาระเบียได้นำคณะนักธุรกิจภาคเอกชนซาอุดีอาระเบีย จำนวน 80 คน เดินทางมาเยือนไทย เพื่อเจรจาธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทย และนักธุรกิจซาอุดีอาระเบีย ในงาน Thai-Saudi Business Forum และ Business Matching เยี่ยมชมศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล สินค้าสำคัญที่เหมาะสมกับตลาดซาอุดีอาระเบีย และเยือนยังจังหวัดภูเก็ตเพื่อเจรจาการค้าการท่องเที่ยว ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและบันเทิง

...

ทั้งนี้ สอดคล้องกับสาขาความร่วมมือ 9 ด้าน ที่นายกรัฐมนตรีได้หารือขณะเยือนซาอุดีอาระเบียไว้ ประกอบด้วย 1.การท่องเที่ยว 2.พลังงาน 3.แรงงาน 4.ความมั่นคงทางอาหาร 5.สุขภาพ 6.ความมั่นคง 7.การศึกษาและศาสนา 8.การค้าและการลงทุน และ 9.กีฬาและวัฒนธรรม โดยกลุ่มสินค้าเป้าหมายที่จะมีการเจรจาและลงทุน ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ การท่องเที่ยวและบันเทิง ทองคำและอัญมณี การเกษตร การแพทย์ และอาหาร ในด้านการส่งออกสินค้ากระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปยังซาอุดีอาระเบียในปี 2565 เพิ่มขึ้น 6.2% จากปี 2564 ที่มีการส่งออกมูลค่า 51,500 ล้านบาท โดยพุ่งเป้าสินค้าไทยที่มีศักยภาพในการส่งออก 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.เกษตร 2.อุตสาหกรรม และ 3.การบริการ

“การมาเยือนของกลุ่มนักธุรกิจซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นด้านการค้าระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย และเป็นการสร้างโอกาสที่ไทยจะเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการลงทุนให้กับซาอุดีอาระเบีย ส่งผลต่อยอดเชื่อมโยงถึงระดับภูมิภาคต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินงานสร้างความร่วมมืออย่างต่อเนื่องทั้ง 9 ด้าน ตามที่ได้หารือขณะเยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางด้านการค้าของทั้งสองฝ่าย” นายธนกร กล่าว.