"สุพัฒนพงษ์" รองนายกฯและรมว.พลังงาน เชื่อ หากวิกฤติพลังงานมีสูงขึ้น เจรจาขอโรงกลั่นลดกำไรให้น้อยลงอาจทำได้ในอนาคต แจง โรงกลั่นกำไรแค่ 1-2 บาท หวั่น หยุดกลั่นจนต้องนำเข้า หากรัฐบาลเจรจาให้ลด
วันที่ 4 ก.ค. 65 รัฐสภาแยกเกียกกาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม วาระกระทู้ถามเป็นหนังสือและกระทู้ถามสด โดยมี พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ส.ว. และ นายสุรเดช จิรฐิติเจริญ ส.ว. ตั้งกระทู้เพื่อสอบถามถึงแนวทางการแก้ปัญหาพลังงานและสถานการณ์พลังงานในประเทศ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และแนวทางบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
โดย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แจงว่า วิกฤติที่เกิดขึ้นปัจจุบันเป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติ ซึ่งรัฐบาลหาทางแก้ปัญหาอยู่ สำหรับข้อเสนอเกี่ยวกับการลดค่ากลั่น ซึ่งมีอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังท่านหนึ่ง เสนอเกี่ยวการเจรจาลดค่ากลั่น ในข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ประกอบการมีกำไรในส่วนดังกล่าวมา 2-3 เดือน ไม่ใช่มีกำไรมาอย่างยาวนาน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผู้ประกอบการมีกำไรจากค่ากลั่นเพียง 1-2 บาทเท่านั้น หากจะเจรจาเพื่อลดค่ากลั่น ต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย หากโรงกลั่นยุติการกลั่น รัฐบาลจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมัน อาจทำให้ราคาน้ำมันมีราคาสูงขึ้น ตนเชื่อว่าหากวิกฤติพลังงานมีสูงขึ้น การเจรจาเพื่อขอโรงกลั่นในการลดกำไรน้อยลงอาจทำได้ในอนาคต.