“จตุพร” พาแกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ขึ้นเวทีประกาศ 5 เจตนารมณ์ ทวงคืนพลังงาน ยัน จะดำเนินการทุกวิถีทางตามหลักนิติธรรมให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ
วันที่ 3 ก.ค. 2565 เวลา 18.30 น. แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขึ้นเวทีประกาศเจตนารมณ์ต่อการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า คณะหลอมรวมประชาชนเกิดจากประชาชนผู้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ความมั่นคงทุกมิติของประเทศไทย ภาวะทางเศรษฐกิจที่กระทบต่อการดำรงชีพของประชาชนอย่างรุนแรง นับจากช่วงเวลาที่ผ่านมาจะมีความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับไม่รู้เวลาสิ้นสุดหรือจุดฟื้นตัว ภาคประชาชนที่ถูกปฏิบัติการทางจิตวิทยามวลชนจากการเมืองกลุ่มทุน ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และต่างชาติ สร้างความขัดแย้งแตกแยกกระจัดกระจายออกเป็นกลุ่มต่างๆ จากความขัดแย้งแตกแยกถูกขยายเป็นความเกลียดชัง จนบางครั้งมีการเผชิญหน้ากันเอง จนไม่อาจร่วมมือกันได้ แม้มองเห็นปัญหาเหมือนกัน และรับรู้ว่าการแก้ไขทุกปัญหาของภาคประชาชน ประชาชนจะต้องเป็นผู้แก้ไขปัญหาเองบนพื้นฐานความสามัคคีของประชาชนรวมกันทั้งประเทศ จึงจะแก้ไขวิกฤติได้อย่างสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว
...
คณะหลอมรวมฯ จึงได้ปรึกษาหารือจัดกิจกรรม เพื่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่ประชาชนฟื้นคุณธรรมของแผ่นดินคืนความยุติธรรม ความเสมอภาค และความเท่าเทียมในทุกมิติให้กับประชาชนทุกคน โดยยึดถือร่วมกันว่าเป็นภารกิจแห่งจิตวิญญาณของประชาชน และขอประกาศว่า
1. บรรดากิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. กิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นการทำหน้าที่ของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดหลักนิติธรรมประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ
3. กิจกรรมจะถูกดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อฟื้นฟูพลังความสามัคคีของประชาชนในชาติ นำไปสู่การร่วมมือขจัดภัยกดขี่ประเทศชาติ และประชาชนจากต่างชาติตลอดทั้งกลุ่มการเมืองกลุ่มทุนทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และกลุ่มอิทธิพลต่างๆ ที่รวมกันขายชาติจนกว่าจะบรรลุภารกิจ
4. ต้องคืนความเป็นเจ้าของให้ประชาชนทุกคน เพื่อใช้สิทธิในการบริหารทรัพยากรของแผ่นดิน และแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม
5. คณะหลอมรวมฯ จะดำเนินการทุกวิถีทางตามหลักนิติธรรมโดยใช้อำนาจอธิปไตยเพื่อสร้างอิสรภาพความมั่นคง และยังยืนในทุกมิติให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น คณะหลอมรวมประชาชน อาทิ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว. และนายไทกร พลสุวรรณ พร้อมทั้งแกนนำคนอื่นๆ ได้สลับกันขึ้นเวทีปราศรัย โดยอภิปรายในทิศทางเดียวกัน เกี่ยวกับวิกฤติราคาพลังงานกับการบริหารที่ล้มเหลวของรัฐบาล ซึ่งกิจกรรมบนเวทีจะเสร็จสิ้นลงเวลาประมาณ 21.00 น.
ภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย