“สัณหพจน์” เตือน ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล อย่าเอาดีใส่ตัว หลังเสนอเปลี่ยนตัว รมต.ถูกซักฟอก ขู่ หากไม่เคารพมารยาททางการเมือง พร้อมขออภิปรายไม่ไว้วางใจ รมต.ทำประชาชนเดือดร้อนจากของแพง
วันที่ 23 มิ.ย. 65 นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เสนอให้พรรคร่วมฝ่ายค้านเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี ที่ถูกอภิปราย โดยพุ่งเป้าไปที่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ว่า ที่ผ่านมา พรรคดังกล่าวอ้างคำว่า “มารยาททางการเมือง” มาโดยตลอด มาวันนี้เมื่อรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคตัวเอง ทำงานไร้ประสิทธิภาพ ไม่สามารถดูแลปัญหาเรื่องสินค้าแพง ค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้นได้ จึงพยายามตีรวนกลบกระแสข่าว และโยนความผิดให้กับรัฐมนตรีคนอื่น
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า กระทรวงที่หัวหน้าพรรคดังกล่าวรับผิดชอบ ไม่มีนโยบายแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพงที่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด ทั้งเรื่อง ไข่ไก่ หมู ไก่ ผักราคาแพง สินค้าอุปโภค-บริโภค ทยอยจ่อขึ้นราคา มีแต่ผลงานจัดแถลงข่าวเดินโชว์ตัวตามห้างโมเดิร์นเทรด แล้วบอกว่า ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้จำหน่ายสินค้าราคาถูก หรือ ตรึงราคาสินค้าเอาไว้ โดยอ้างถึงประโยชน์ของประชาชน แต่ท่านเคยเดินตลาดไปตามข้อมูลตรงจากพี่น้องประชาชน หรือไม่ รู้หรือไม่ว่า ประชาชนต่างจังหวัดส่วนใหญ่ไม่ได้รับประโยชน์จากนโยบายดังกล่าวแต่อย่างใด
...
สำหรับที่ผ่านมา พรรคนี้มักชอบอ้างมารยาททางการเมือง เมื่อพรรคร่วมอื่นๆ เสนอแนะเรื่องการบริหารกระทรวงที่รับผิดชอบ และมักพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น มาวันนี้เตรียมแหกมติพรรคเสียเอง ทิ้งมารยาทการเมืองตามที่เคยกล่าวอ้าง โดยให้เหตุผลว่าพรรคมีความเป็นประชาธิปไตยและเคารพแนวคิดของส.ส.ในพรรค ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้โดยอิสระ ยกอ้างว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน
โดยหากไม่เคารพมารยาททางการเมืองแล้ว ผมเองก็พร้อมที่จะขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคนที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนจากราคาสินค้าแพงเช่นเดียวกัน
นายสัณหพจน์ กล่าวว่า วันนี้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลคนดังกล่าว ควรทำการบ้านเรื่อง ราคาสินค้าแพง ค่าครองชีพสูง เพื่อช่วยนำเสนอให้รัฐมนตรีของพรรคนำไปแก้ไขการบริหารงานที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า ผมยกตัวอย่าง เช่น “ราคาปุ๋ยแพง” ซึ่งหากไม่มีข้อมูลสามารถนำข้อมูลที่ผมมีอยู่ไปใช้ได้ เนื่องจากราคาปุ๋ยแพงไม่ได้แพงขึ้น เพราะช่วงวิกฤติสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่แพงมาก่อนหน้าช่วงดังกล่าวแล้ว และขยับราคาขึ้นแบบเท่าตัวมาโดยตลอด เรื่องนี้กระทบต่อพี่น้องเกษตรกร และส่งผลต่อเนื่องมาถึงราคาสินค้าแพงที่กระทบประชาชนทั่วประเทศ หากอ้างถึงผลประโยชน์ของประชาชนจริง ควรที่จะเสนอแนะเรื่องดังกล่าวต่อหัวหน้าพรรคของตนซึ่งรับผิดชอบกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง.