"นิพนธ์" ย้ำ ทีมมหาดไทย มอบนายอำเภอทั่วประเทศ ประสานทุกภาคส่วน ทำบุญใหญ่ ช่วยประชาชนลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน รักษาทรัพยากรบุคคลและทรัพย์สินของประเทศ

วันที่ 22 มิถุนายน 2565 ที่โรงแรมนภาลัย จังหวัดอุดรธานี นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดโครงการเพิ่มศักยภาพในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของผู้อำนวยการอำเภอ และหลักสูตรเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสำหรับปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แก่นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รองอธิบดีกรมการปกครอง นายอำเภอ และปลัดอำเภอ 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์สาธารณภัยทั้งสถานการณ์ของโลกและในประเทศ จะเห็นได้ว่าประชาชนต่างมีความเสี่ยงที่จะประสบสาธารณภัยต่างๆ หลายรูปแบบไม่ว่าภัยธรรมชาติ ภัยจากสิ่งแวดล้อม ภัยที่เกิดจากมนุษย์ และภัยจากการคมนาคม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ซึ่งถือเป็นองค์กรที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในงานด้านการป้องกันก่อนเกิดภัย โดยมีฝ่ายปกครองในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย ผ่านกลไกนายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดังนั้นฝ่ายปกครองจึงใกล้ชิดกับการปฏิบัติงานทุกหน่วยงานและใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่คือ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้แก่พี่น้องประชาชน

...

นอกจากนี้อุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินต่างๆ ของประชาชน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศเป็นจำนวนมาก โดยแต่ละปีมีคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากกว่า 22,000 คน วันนี้จึงมอบหมายและกำชับนายอำเภอ ในการมอบนโยบายและกำกับการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ดำเนินการปรับปรุงด้านกายภาพและด้านอื่นๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยบริเวณถนนในความรับผิดชอบให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายและถูกต้องตามหลักวิชาการ การมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนโยบายความปลอดภัยทางถนนไปด้วยกัน ช่วยกันลดความสูญเสียชีวิตบนท้องถนน เท่ากับทำบุญใหญ่เพราะถือเป็นการรักษาทรัพยากรบุคคลและทรัพย์สินของประเทศ

จากนั้นในเวลา 12.30 น. นายนิพนธ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขุดลอกและกำจัดวัชพืช ในลำห้วยเปรม ซึ่งอยู่ในพื้นที่บ้านดงยวด หมู่ที่ 9 ตำบลนาข่า อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยให้ประชาชนกว่า 750 ครัวเรือน 2,500 คนโดยประมาณได้มีน้ำอุปโภค บริโภค รวมถึงน้ำเพื่อการประกอบอาชีพต่างๆ