นายกฯ เผย รัฐบาลตั้งเป้า ลดใช้พลังงานให้ได้ 20% สั่งเตรียมแผนระยะยาว "พลังงาน-อาหาร" คาดสถานการณ์ไม่จบในเวลาอันใกล้ ขอ เอกชน ออกมาตรการเหมาะสมตนเอง ประหยัดใช้ไฟฟ้า
วันที่ 21 มิ.ย. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ประจำวันที่ 21 มิ.ย. 2565 นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึง กรณีการขอความร่วมมือกัน ช่วยประหยัดพลังงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง ขอให้ทุกหน่วยงาน เร่งออกนโยบายที่เหมาะสมตามสมรรถภาพของตนเอง ไม่ว่า จะเรื่องการ เปิดไฟ ปิดไฟ อุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้ ลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ส่งเสริมการใช้ขนส่งมวลชนสาธารณะ ลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น ใช้การประชุมออนไลน์ เป็นต้น ซึ่งในส่วนของภาครัฐได้กำหนดไปแล้ว ให้มีการลดใช้พลังงาน ลงร้อยละ 20 ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดของหน่วยงานด้วย นี่คือแนวทางที่รัฐบาล พยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า จากการประเมินสถานการณ์เรื่องนี้คงไม่สิ้นสุดในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่งจะให้มีการประชุมร่วมกันหารือในเรื่องการเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ตามสมมติฐาน หากสถานการณ์ยืดเยื้อไปเป็นระยะเวลาเท่านี้ๆ เราควรจะทำอะไรได้บ้าง ไม่อย่างนั้น เราจะมีปัญหาที่จะพอกพูนไปเรื่อยๆในเรื่องการดูแลการสมทบอะไรต่างๆ และจะมีปัญหาด้านงบประมาณการเงินการคลังต่อไปในอนาคต เราต้องเตรียมแผนความพร้อมไปเรื่อยๆ ทั้งมิติด้านพลังงาน อาหาร ซึ่งล้วนแต่มีผลกระทบทั้งสิ้น เราต้องวางแผนระยะยาว ผมได้แนะแนวทางนี้มาตลอดอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยืนยันว่า จะพยายามหาทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย และผู้ประกอบการบนพื้นฐานของวินัยการเงินการคลัง ที่มีความสมดุล และจะต้องไม่ก่อภาระในอนาคตจนมากเกินไป จึงขอให้เห็นใจรัฐบาลด้วย หลายอย่างเราก็ลดภาษีลงทำให้รายได้เราลดลง ฉะนั้นจำเป็นต้องใช้อย่างคุ้มค่าและประหยัดด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน
...
ขอความร่วมมือกันช่วยประหยัดพลังงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งออกนโยบายที่เหมาะสมตามสมรรถภาพของตนเอง ไม่ว่า จะเรื่องการเปิดไฟ ปิดไฟ อุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้ ลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ส่งเสริมการใช้ขนส่งมวลชนสาธารณะ ลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น ใช้การประชุมออนไลน์ เป็นต้น ซึ่งในส่วนของภาครัฐได้กำหนดไปแล้วให้มีการลดใช้พลังงานลงร้อยละ 20 ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดของหน่วยงานด้วย นี่คือแนวทางที่รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน