พรรคก้าวไกล สรุป 3 ข้อ เอาผิด ส.ก.เขตวัฒนา คุกคามทางเพศ ชี้ เป็นการลงโทษขั้นเกือบสูงสุด หากกระทำผิดอีกพร้อมขับออกทันที พร้อมชวน ปชช.จับตาลงมติร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และสุราก้าวหน้า 8 มิ.ย.นี้

วันที่ 5 มิ.ย. 2565 น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา รองโฆษกพรรคก้าวไกล ร่วมแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของพรรคก้าวไกลในประเด็นสำคัญ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นในสภาผู้แทนราษฎรสัปดาห์หน้า และกรณีการลงโทษสมาชิกสภากรุงเทพมหานครฯ (ส.ก.) ของพรรคที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศต่อบุคคล โดยระบุว่า สำหรับกรณีที่มีผู้ร้องเรียนตรวจสอบพฤติกรรมของสมาชิกพรรค ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ส.ก.เขตวัฒนา เคยมีประวัติกระทำการคุกคาม ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญทางเพศต่อพนักงานในบริษัท ซึ่งทางพรรคก้าวไกลโดยคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณสมาชิกพรรค ได้แสวงหาข้อเท็จจริงและรับฟังพยานหลักฐานจากทั้งสองฝ่าย สามารถสรุปข้อเท็จจริงได้ว่า

(1) กรณีผู้ร้องระบุว่าผู้ถูกร้องมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม สัมผัสเป้ากางเกงของตนเองต่อหน้าผู้ร้อง จากการตรวจสอบพบว่าในวันดังกล่าวมีคนอยู่ในห้องหลายคน ผู้ร้องไม่มีพยานหลักฐานมาแสดง ขณะที่ฝ่ายผู้ถูกร้องมีพยานหลักฐาน มายืนยันว่าไม่มีพฤติกรรมเช่นนั้น พรรคจึงไม่อาจวินิจฉัยในกรณีนี้ได้

(2) กรณีผู้ร้อง ระบุว่าถูกผู้ถูกร้องเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมและไม่ได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย ผู้ถูกร้องยืนยันว่าเป็นการเลิกจ้างเพราะไม่ผ่านการทดลองงาน อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกร้องยังมีพันธะผูกพันตามกฎหมายต้องจ่ายค่าไม่บอกกล่าวการเลิกจ้างล่วงหน้า ซึ่งผู้ถูกร้องยินดีจ่ายให้ผู้ร้องและจำดำเนินการโดยเร็วที่สุด

(3) กรณีผู้ร้อง ระบุว่ามีการพูดคุยในไลน์เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2564 ว่าผู้ถูกร้องพิมพ์ข้อความมาชมว่าผู้ร้องสวย หุ่นดี ขอดูรูปถ่าย กรณีนี้มีหลักฐานที่ชัดเจน ว่าผู้ถูกร้องกระทำความเดือดร้อนรำคาญทางเพศด้วยวาจา กระทบต่อความรู้สึกและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ร้อง เข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรง เนื่องจากพฤติกรรมไม่สอดคล้องกับคุณค่าและอุดมการณ์ของพรรค

...

ซึ่งกรณีนี้ คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาความรับผิดทางวินัยของสมาชิก และตัดสินโทษผู้ถูกร้อง ด้วยการตัดสิทธิที่พึงมี โดยจะไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในพรรค และดำรงตำแหน่งสำคัญในสภา กทม. เป็นเวลา 1 ปี และหากยังมีการกระทำผิดแบบเดิมอีก จะมีการลงโทษให้พ้นสมาชิกภาพทันที พร้อมยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่เคยนิ่งเฉยต่อพฤติกรรมดังกล่าว และได้ทำการลงโทษที่ได้สัดส่วนกับการกระทำความผิด

ด้าน นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ได้ตอบคำถามจากทางบ้าน ที่ถามว่าการลงโทษนี้เป็นความผิดทางวินัยในขั้นสูงแล้วหรือไม่ โดยระบุว่าพรรคก้าวไกลไม่อดทนอดกลั้นต่อกรณีคุกคามทางเพศ และด้วยกรอบอำนาจในฐานะที่พรรคการเมืองมี ซึ่งมีสี่ขั้นด้วยกัน คือขั้นแรกการตักเตือน ขั้นที่สองการภาคทันฑ์ ขั้นที่สามการตัดสิทธิที่พึงมีบางประการในฐานะสมาชิกพรรค และขั้นสูงสุดคือการขับให้พ้นจากสมาชิกพรรค พรรคได้ลงโทษในขั้นที่สาม ซึ่งเป็นขั้นที่เกือบสูงที่สุดแล้ว

“คนที่จะเข้ามาทำงานต้องมีบรรทัดฐานที่เคารพต่ออุดมการณ์ด้านนี้ เราหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นบรรทัดฐานที่สำคัญ ว่าพรรคจะไม่อดทนอดกลั้นต่อการคุกคามทางเพศ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใด หลังจากที่เราทราบเรื่องนี้เราได้ดำเนินกระบวนการพิจารณาอย่างรวดเร็ว รอบคอบแล้ว เพื่อทำให้เกิดความกระจ่างมากที่สุด” นายรังสิมันต์ กล่าว

ด้าน น.ส.สุทธวรรณ ยังกล่าวว่า ในโอกาสที่เดือนมิถุนายนเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศ หรือ Pride Month และยังเป็นโอกาสเดียวกับที่ร่างแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม) และร่างแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิต (พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า) กำลังจะกลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาในอีก 3 วันข้างหน้า หรือในวันที่ 8 มิ.ย. หลังถูก ครม.นำไปศึกษาเป็นเวลา 60 วัน พรรคก้าวไกลจึงขอเชิญประชาชนร่วมกันติดตามการลงมติของผู้แทนราษฎรของทุกคน ว่าเป็นไปตามเจตจำนง และเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนหรือไม่.