รัฐบาลตีปีกร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 66 วาระแรกฉลุย ชนะท่วมท้น 278 ต่อ 194 เสียง งดออกเสียง 2 ศท.-กลุ่ม 16 ไม่แตกแถวเทเสียงครบ 12 งูเห่าแผลงฤทธิ์ 7 ส.ส.เพื่อไทย 4 ส.ส.ก้าวไกล และ 1 ส.ส.ประชาชาติโหวตช่วยรัฐบาล เสียงฝ่ายค้านไม่ปึ้กพอแต้มหาย 14 เสียง “ภูมิธรรม” โพสต์ประจานชื่อ 7 งูเห่า “วิสุทธิ์” ชงสอบ จริยธรรมเฉดหัว ลั่นพรรคจะได้สะอาดขึ้น “จักรพรรดิ” โต้มติพรรคขัดวัฒนธรรมโหวต พ.ร.บ.งบฯ อุบไต๋ จ่อซบ ทสท. “นิยม” พร้อมรับโทษ รอย้ายร่วมงาน ภท. “อุ๊งอิ๊ง” ปรับเกมยกทัพบุกสุรินทร์จับเข่าคุยชาวนา “ชัยวุฒิ” มองข้ามช็อตศึกซักฟอกไร้ปัญหา “สุชาติ” วางบิลกล่อมพรรคเล็กอยู่หมัด “อนุทิน” อ้างเอกสิทธิ์ ส.ส.เขินถูกมองผลงานดีล ภท. “วราวุธ” เตือนรัฐบาล ประมาทไม่ได้ งบฯกับไม่ไว้วางใจคนละเรื่อง แกนนำ ภท.-ชทพ.จูบปากเคลียร์จบ “ชาดา” ไม่ได้ตบ “ณัฐวุฒิ” แค่เหตุหงุดหงิดไร้รอยร้าว
รัฐบาลโล่งใจ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ผ่านความเห็นชอบในวาระแรกไปอย่างท่วมท้นด้วยคะแนน 278 ต่อ 194 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง โดยรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐชี้สะท้อนถึงความมั่นใจเสียงโหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก็จะไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน
เสียงท่วมท้นรับหลักการงบฯ ปี 66
เมื่อเวลา 01.15 น. วันที่ 3 มิ.ย. ที่รัฐสภาหลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท วาระแรก ตามที่ ครม. เป็นผู้เสนอเสร็จสิ้น โดยใช้เวลา 3 วัน 3 คืน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ประธานการประชุมให้ที่ประชุม ลงมติ ปรากฏว่ามี ส.ส.ลงมติเห็นด้วย 278 เสียง ไม่เห็นด้วย 194 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง จากนั้น ที่ประชุมสภาฯตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 66 จำนวน 72 คน แบ่งเป็นสัดส่วน ครม. 18 คน สัดส่วน ส.ส. 54 คน แยกเป็นพรรคเพื่อไทย 15 คน พรรคพลังประชารัฐ 11 คน พรรคภูมิใจไทย 7 คน พรรคก้าวไกล 6 คน พรรคประชา ธิปัตย์ 6 คน พรรคเศรษฐกิจไทย 2 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน พรรคเสรีรวมไทย 1 คน พรรคประชาชาติ 1 คน พรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 คน พรรค เพื่อชาติ 1 คน พรรครวมพลังประชาชาติไทย 1 คน พรรคพลังท้องถิ่นไท 1 คน กำหนดแปรญัตติ 30 วัน จะประชุม กมธ.นัดแรกวันที่ 6 มิ.ย. เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมงบประมาณ อาคารรัฐสภา
...
นายกฯฝาก กมธ.รับข้อเสนอแนะ
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวขอบคุณ ส.ส. ว่า แม้การจัดสรรงบฯปีนี้จะจัดทำภายใต้งบฯที่จำกัด แต่จะให้ความสำคัญกับประชาชนและประโยชน์สูงสุดของประเทศ ตลอดจนการพิจารณาสร้างโอกาสสร้างความเสมอภาคให้ประเทศ ขอฝากกรรมาธิการฯ นำสิ่งที่สมาชิกอภิปรายข้อเสนอแนะไปพิจารณาอย่างรอบคอบต่อไป ก่อนที่นายชวนจะสั่งปิดประชุมในเวลา 01.30 น.
ศท.-กลุ่ม 16 เห็นชอบครบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลโหวตการลงคะแนนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2566 ที่ผ่าน ในวาระรับหลักการ ด้วยคะแนน 278 ต่อ 194 งดออกเสียง 2 นั้น ในส่วนคะแนนให้ความเห็นชอบ 278 เสียง มาจากเสียง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรครวมพลัง ประชาชาติไทย พรรคชาติพัฒนา ที่ลงคะแนนให้ความเห็นชอบ ไม่มีแตกแถว รวมถึงเสียงของกลุ่ม ตัวแปรอย่างพรรคเศรษฐกิจไทย จำนวน 16 เสียง ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่มีปัญหาขัดแย้งกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ ส.ส.กลุ่ม 16 จำนวน 18 คน ที่ประกอบด้วย ส.ส.พรรคเล็กบางส่วน ได้แก่ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคไทรักธรรม พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคเพื่อชาติไทย พรรคพลังชาติไทย ที่ต่างเทคะแนนให้ความเห็นชอบ ครบทุกคน
12 งูเห่า 7 พท. 4 กก. 1 ปช. ช่วย รบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันยังได้เสียงสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทยมาร่วมด้วยอีก 7 คน จาก ส.ส.ศรีสะเกษ 3 คน ที่เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้แก่ นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ นายธีระ ไตรสรณกุล นางผ่องศรี แซ่จึง ส่วนอีก 4 คน ได้แก่ นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา รวมถึงกลุ่ม ส.ส.งูเห่าหน้าเก่า 4 คน จากพรรคก้าวไกล ที่โหวตสวนมติพรรคมาลงคะแนนเห็นชอบให้ฝ่ายรัฐบาล ได้แก่ นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย และนายเอกภพ เพียรวิเศษ ส.ส.เชียงราย นอกจากนี้ยังมีนายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ ที่เป็นอีกหนึ่งงูเห่าหน้าเดิม ที่ลงคะแนนให้ฝ่ายรัฐบาล
ฝ่ายค้านไม่ปึ้กเสียงหาย 14 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่คะแนนไม่เห็นชอบจำนวน 194 เสียง มาจากซีกฝ่ายค้าน ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 เสียง คือ นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล พรรคไทยศรีวิไลย์ของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พรรคพลังปวงชนไทย ส่วนคะแนนงดออกเสียง 2 คน คือ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ และนายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อีกหนึ่ง ส.ส.งูเห่าในพรรค ทั้งนี้ คะแนนของฝ่ายค้านถือว่าหายไป 14 เสียงจากยอด ส.ส.ฝ่ายค้านทั้งหมด 208 คน โดยหายไปจากงูเห่าพรรคเพื่อไทย 7 คน พรรคก้าวไกล 4 คน ส.ส.ประชาชาติ 1 คน และมี ส.ส.เพื่อไทยอีก 2 คน ที่ขาดการประชุม ได้แก่ นายคมเดช ไชยศิวามงคล ส.ส.กาฬสินธุ์ นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ
“ภูมิธรรม” โพสต์ประจานหรา
วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านทวิตเตอร์ถึงการลงมติของร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 66 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท ที่สภาฯลงมติรับหลักการ 278 ต่อ 194 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ว่า “7 ส.ส.เพื่อไทยสวนมติพรรคโหวตรับร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 66” พร้อมกับแนบไฟล์ภาพ 7 รายชื่อ ส.ส.ประกอบด้วย นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส. ศรีสะเกษ นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก นางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา
ชงตั้ง กก.จริยธรรมเฉดหัว 7 งูเห่า
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการจริยธรรม พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า คงต้องมีมาตรการอะไรบางอย่างดำเนินการ ส.ส. 7 คนที่โหวตสวนมติพรรครับร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 66 เป็นที่รู้กันในพรรคว่าช่วงหลังไม่ค่อยมาร่วมกิจกรรมพรรค ดูแนวโน้มไม่น่าจะอยู่ร่วมกับพรรคสมัยหน้า บางคนมีพฤติกรรมมาตั้งแต่โหวตซักฟอกรอบที่แล้ว บางคนไปเปิดตัวกับพรรคอื่นชัดเจน วันที่ 7 มิ.ย.จะประชุมพรรคหารือกันเรื่องการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 66 จะเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรมทั้ง 7 คนเพื่อลงมติขับออกจากพรรค คนเหล่านี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ถ้าอยากจะไปให้ไปเลย วันที่ยังไม่ได้เป็น ส.ส.มาขออยู่ร่วมกับพรรค ใช้โลโก้ ใช้เงินพรรคหาเสียง แต่พอได้เป็น ส.ส. ในวันที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน หนีไปหาพรรคอื่นที่อุดมสมบูรณ์ อย่าเป็นนักการเมืองที่หวังแต่ลาภยศ มากกว่าอุดมการณ์ทางการเมือง ขอให้รีบไป พรรคเพื่อไทยจะได้สะอาดขึ้น
มั่นใจไม่มีเลือดไหลออกอีก
นายวิสุทธิ์กล่าวว่า เชื่อว่าหลังจากนี้ไม่น่าจะมี ส.ส.ไหลออกจากพรรคอีก คงสิ้นสุดแค่ 7 คนนี้ พรรคไม่ได้มีแต่เลือดไหลออก แต่ที่ไหลเข้ามีเยอะแยะ เพียงแต่ขอให้เข้ามาช่วงยุบสภาฯแล้ว ส่วน ส.ส.อีก 2 คนที่ไม่ได้มาร่วมประชุมพรรคคือ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ ติดโควิดตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว พรรครับทราบเรียบร้อย ส่วนนายคมเดช ไชยศิวามงคล ส.ส.กาฬสินธุ์ แจ้งเบื้องต้นว่าน่าจะกดปุ่มลงคะแนนผิด ฟังดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องจริง ไม่โกหก เพราะพฤติกรรมนายคมเดชทำงานกับพรรคด้วยดีมาตลอด ไม่เคยมีพฤติกรรมโหวตสวนมติพรรคเลย
“สมคิด” แฉเพิ่ม กมธ.โบนัสพรรคเล็ก
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐมนตรีตอบแบบข้าราชการเขียนงบฯ เช่นนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม โปรโมตกระทรวง ตอบในสิ่งไม่ได้ถามคืองบฯกระจุกตัว จ.บุรีรัมย์ และ จ.ศรีสะเกษ เหมือนเอางบฯลงไปเป็นเหยื่อล่อดูด ส.ส.เพื่อไทย ใช้อำนาจหน้าที่เหมือนให้รางวัลและโบนัสคนที่จะไปอยู่ด้วย สร้างระบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา ผลโหวตมีงูเห่า พท.โหวตสวน จะส่งผลต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตราบใดรัฐบาลยังใช้การเมืองจ่ายในห้องน้ำ เกิดงูเห่าและลิงกินกล้วย ทำให้ภาพลักษณ์การเมืองเสียหาย รายชื่อ กมธ.ที่เพิ่มขึ้นจาก 64 คนเป็น 72 คน เพราะตำแหน่งมีไม่พอจะให้โบนัสพรรคเล็กที่มาต่อรอง เดิมวิปฯตกลงกันที่ 64 คน แต่วันที่ 2 มิ.ย. 15.00น. วิปรัฐบาลมาแจ้งว่ารัฐบาลขอเพิ่มจำนวน กมธ. เราทำอะไรไม่ได้ จึงเพิ่มอย่างที่เห็น
“นิยม” ยืดอกรับไปอยู่ภูมิใจไทย
นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับมติพรรคให้โหวตไม่รับหลักการ เพราะงบประมาณเกี่ยวกับประโยชน์ของประชาชน สมควรโหวตให้ หรือเต็มที่งดออกเสียง ที่ผ่านมาพรรค เพื่อไทยโหวตงดออกเสียงมาตลอด แต่เที่ยวนี้ให้ไม่รับ หลักการ จึงจำเป็นต้องโหวตสวนมติพรรค ส่วนอนาคตทางการเมืองคงไม่ได้อยู่กับพรรคเพื่อไทยอีก จะไปอยู่ กับพรรคภูมิใจไทย เป็น ส.ส.อยากทำงานให้ประชาชน แต่การเป็นฝ่ายค้านไม่มีงบฯ ลงพื้นที่ไปช่วยแก้ปัญหา ให้ชาวบ้านได้ ถ้าเป็นรัฐบาลอย่างน้อยช่วยประสานของบฯไปแก้ไขปัญหาได้ จึงตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย ถ้าพรรคจะมีมติขับออกจาก ส.ส. พร้อมรับมติพรรค
“จักรพรรดิ” อุบไต๋ย้ายซบ ทสท.
นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานีพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่โหวตรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 66 สวนมติพรรค เป็นเอกสิทธิ์ ส.ส. ปกติแล้วการโหวต พ.ร.บ.งบฯฝ่ายค้านจะงดออกเสียง ไม่เคยลงมติไม่เห็นด้วย แต่เที่ยวนี้ตั้งเป้าไม่เห็นด้วย ขัดกับวัฒนธรรมการลงมติในอดีต ไม่น่าจะถูกต้อง จึงโหวตสวน น่าแปลกที่พรรคโหวตไม่รับหลักการ แต่กลับไปร่วมเป็น กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 66 ในวาระสอง ดูไม่ค่อยดี ไม่เคยปรากฏมาก่อน พร้อมไปชี้แจงพรรคจะตั้งคำถามกลับว่าเหตุใดถึงให้โหวตไม่รับหลักการขัดกับวัฒนธรรมการโหวตกฎหมายงบประมาณ พรรคต้องตอบคำถามข้อสงสัยของประชาชนให้ได้ ไม่ใช่แค่ตอบตน ไม่ใช่พนักงานบริษัทใครจะมาสั่งอะไรได้ แต่มาจากประชาชนมีเอกสิทธิ์การโหวต ส่วนที่มองว่าจะไปอยู่พรรคไทยสร้างไทย ยังตอบไม่ได้ เป็นเรื่องอนาคต ขอให้เป็นไปตามเวลา รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีก็ไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้เช่นกันว่า จะโหวตทางใด ยังไม่ถึงเวลา หากพรรคจะมีมติขับยินดีรับบทลงโทษ แต่พรรคต้องตอบคำถามข้อสงสัยของตนให้ได้
“อุ๊งอิ๊ง” บุกสุรินทร์จับเข่าคุยชาวนา
วันเดียวกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยกำหนดจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม ครั้งต่อไปที่มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน จ.สุรินทร์ วันที่ 5 มิ.ย.2565 เป็นการลงพื้นที่ของแกนนำพรรคและ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เพื่อพบปะประชาชนรับฟังปัญหาจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ กลุ่มปศุสัตว์ หม่อนไหม และกลุ่มนวัตกรรมต่างๆ นำปัญหาและความต้องการประชาชนมาประมวลผลจัดทำนโยบายพรรค แก้ปัญหาความยากจนได้ตรงจุดที่สุด ในงานดังกล่าวจะเปิดเวทีครอบครัวเพื่อไทย นำโดย น.ส.แพทองธารเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง คืนประชาธิปไตย คืนอนาคตและโอกาสให้ประชาชนกลับมากินดีอยู่ดีอีกครั้ง โดยตั้งเป้าการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะต้องไม่ใช่แค่ชนะ แต่ต้องชนะให้ขาด ต้องแลนด์สไลด์ ได้ ส.ส.ในสภามากกว่า 250 ที่นั่ง
“อนุทิน” ชี้เป็นสิทธิ ส.ส.โหวตรับ
เมื่อเวลา 07.45 น. ที่ท้องสนามหลวง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว. สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ว่า คะแนนเสียงโหวตร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 66 ไม่ได้เป็นเรื่องฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ส.ส.ท่านใดจังหวัดไหน แต่อาจเห็นว่ามีงบฯไปพัฒนาพื้นที่จังหวัดตนเองก็เห็นชอบ เป็นประโยชน์กับประชาชนและบ้านเมืองมากกว่า เมื่อถามว่า มีข่าวเสียงที่เกินมา ภท.ดีลสำเร็จ นายอนุทินหัวเราะกล่าวว่า โอ้โห ให้ราคาขนาดนั้นเลยหรือ ภท.พูดเสมอว่าสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบฯฉบับนี้ เมื่อถามว่า เป็นไปตามที่เคยการันตีว่าเสียงในสภาจะผ่านฉลุยและรัฐบาลอยู่ครบเทอม นายอนุทินกล่าวว่า เสียงที่ห่างกัน 84 เสียง เพราะเห็นว่าเนื้อหาเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี
“ชัยวุฒิ” ข้ามช็อตซักฟอกก็ไร้ปัญหา
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพปชร.กล่าวว่า เสียงโหวตสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 66 และเสียงที่เกินมา มีกระแสข่าวมาจาก ภท.ไปดีลให้รัฐบาลนั้นไม่ทราบ ต้องถาม ภท.แต่งบฯเป็นกฎหมายสำคัญใช้บริหารราชการแผ่นดิน ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนก็เห็นด้วยรับร่างไม่ได้เป็นไปตามมติฝ่ายค้านทั้งหมด เพราะคิดถึงประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่การล็อบบี้ทางการเมือง เมื่อถามว่าเสียงที่เพิ่มขึ้นจะทำให้รัฐบาลมั่นใจในเสียงสนับสนุนการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งหน้าหรือไม่ นายชัยวุฒิ ตอบว่า เคยพูดมาหลายครั้งแล้ว ประเมินเสียง ส.ส.ในสภา เชื่อรัฐบาลจะผ่านอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้ ไม่มีปัญหา
“สุชาติ” ปลื้มพรรคเล็กไม่แตกแถว
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ. พรรค พปชร.และผู้ประสานงานพรรคเล็ก กล่าวว่าเสียงที่ออกมาเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้วส่วนหนึ่งจากที่ตนได้รับมอบหมายให้ประสานงาน เมื่อถามว่าเสียงฝ่ายค้านหายไปมากจะทำให้เกมในสภาฯ และการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ดูจากภาพก็เห็นแล้วว่าเป็นอย่างไร บอกเบื้องต้นอยู่แล้วว่าทำเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่มีอะไรที่ทำผิดระเบียบหรือมีข่าวคราวไม่ดี เมื่อถามว่าเสียงส่วนหนึ่งของฝ่ายค้านเพราะจะมาร่วมงานกับพรรค พปชร.และพรรค ภท.ในอนาคตใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า อาจเป็นช่วงที่นับถอยหลังการเลือกตั้ง ส.ส.บางท่านพยายามจะหมุนเวียนไปอยู่พรรคใหม่ หรือที่อยู่ฝ่ายค้านอยากมาอยู่รัฐบาลต้องมีบ้าง เราไม่รู้ใครเป็นใคร แต่ต้องคิดว่าเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส.มากกว่า
“วราวุธ” เตือนซักฟอกประมาทไม่ได้
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ว่า เสียงรัฐบาลชนะขาด แต่กรณีงูเห่าพรรคอื่นคงตอบแทนไม่ได้ ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน หรือว่ามีความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่มั่นใจไปถึงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องดูเป็นกรณีไป จบการอภิปรายงบฯแล้วสมาชิกแต่ละคนอาจเห็นแตกต่างกันไประหว่างงบฯกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่สามารถวัดกันได้ ต้องคอยติดตามดูกันไป แต่อย่างน้อยก็อุ่นใจว่ามี ส.ส.จำนวนหนึ่ง ที่สนับสนุนและเห็นคล้องกับรัฐบาล น่ายินดี การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ฝ่ายค้านคงระดมสรรพกำลังที่มี ตั้งข้อสังเกตและอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อฝ่ายค้านทำการบ้านหนัก รัฐบาลเองคงต้องทำการบ้านหนักไม่แพ้กัน ประมาทไม่ได้ เพราะมีการลงคะแนน การอภิปรายทุกครั้งเป็นความสุ่มเสี่ยง ประมาทเมื่อไหร่ร่วงเมื่อนั้น
รองโฆษก ภท.โต้ “ชาดา” ตบไม่จริง
ส่วนควันหลงระหว่างการประชุมสภาฯพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 66 กรณีมีการรายงานข่าวว่าเกิดเหตุการณ์นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตบหน้านายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กลางห้องประชุมสภาฯ โดยนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย ได้รีบลงมาชี้แจงทันทีว่า อยู่ใกล้และอยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันไม่มีการทำร้ายร่างกายกันตามที่มีกระแสข่าว ไม่มีถึงเนื้อถึงตัวไม่มีปัดแย่งโทรศัพท์ตามที่มีการเสนอข่าว ที่ ส.ส.คนอื่นเล่าว่ามีการตบหน้า ตบหัว เชื่อว่าเล่าไปคนละทิศละทาง เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ นายชาดาเดินไปเพื่อสอบถามว่าติดใจอะไรหรือมีปัญหาอะไร เคลียร์กันพักหนึ่ง มีผู้ใหญ่ของพรรค ชทพ.พยายามทำความเข้าใจและให้นายณัฐวุฒินั่งลง แต่ยอมรับว่านายชาดาเดินไปด้วยอารมณ์โมโหและนายณัฐวุฒิพูดว่าจะเข้าข่ายทำผิดจริยธรรมได้ เข้าใจว่าอาจมาจากอารมณ์กลัวการข่มขู่คุกคาม หลังจากนั้นนายชาดาเดินออกไป เชื่อคงไม่มีปัญหา เพราะนายชาดาและนายณัฐวุฒิเคยอยู่พรรคเดียวกัน
“อนุทิน” สวมกอด “ท็อป” โชว์สื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการลงโหวตเวลา 01.15 น. วันที่ 3 มิ.ย. ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. กำลังเดินทางกลับ ได้เจอกับนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค ชทพ. นายอนุทินได้เข้าสวมกอดนายวราวุธ โดยนายอนุทินบอกสั้นๆว่าได้พูดคุยแล้ว ไม่มีอะไร
“ท็อป” ยันไม่มีกระทบกระทั่งถึงตัว
ด้านนายวราวุธบอกว่า ตนอยู่บนบัลลังก์ยืนยันว่าไม่มีการกระทบกระทั่งกัน เป็นเพียงการผิดคิวเวลากันเล็กน้อย และไม่มีถึงเนื้อถึงตัวกัน ซึ่งบางคนรายงานเหตุการณ์เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ ตนอยู่บนบัลลังก์ยังมองไม่เห็นเลย ไม่มีอะไร เพราะคุยกันเรียบร้อยแล้ว คนกันเองทั้งนั้น และไม่เป็นรอยร้าวของพรรคร่วม เมื่อถามว่าให้กำลังใจนายณัฐวุฒิอย่างไรบ้าง นายวราวุธบอกว่า ไม่มีอะไรก็แยกย้ายกันไปแค่เรื่องขี้ปะติ๋วยันไร้รอยร้าว ต่อมาเมื่อเวลา 07.45 น. ที่ท้องสนามหลวง นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ได้เชิญนายชาดามานั่งทานข้าวต้มร่วมกัน มีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ร่วมด้วย นายชาดายืนยันไม่มีการผลักอก ไม่ได้มีเรื่องกระทบกระทั่งกัน นายณัฐวุฒิไม่ทราบว่านายชาดาได้รับโอนคิวมาจากสมาชิกคนหนึ่ง เอกสารในมือของรองประธานสุชาติ ตันเจริญ มีชื่อนายชาดาอยู่แล้ว ไม่มีอะไร ไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพรรค ภท.กับ ชทพ. แค่บังเอิญถูกคู่พอดี มีคนส่งคลิปมาให้ตนดู ไม่มีการโวยวายกันนิดๆหน่อยๆ ไม่มีอะไร ตนก็ได้กอดกับนายวราวุธแล้ว คนเราบางทีมีอะไรกึกกักๆนิดหน่อย ทุกคนต่างมีเหตุมีผล แต่ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ดูไม่ดี เวลาโดนฝ่ายค้านวิพากษ์วิจารณ์หนักกว่ามาก เรื่องนี้ขี้ปะติ๋ว นายกฯก็ไม่ได้สอบถาม
“ท็อป” ย้ำแค่หงุดหงิดเคลียร์แยกจบ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค ชทพ. ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสีสันระหว่างการประชุมสภา เมื่อประชุมยาวนาน สมาชิกบางคนอาจรอนาน เหนื่อยล้า ทำให้หงุดหงิดเป็นปกติ แต่ต้องขอเรียนว่า ส.ส.ทุกคนเป็นพี่น้องกัน นายชาดาเอง เคยอยู่พรรคชาติไทยมาในอดีต กับนายณัฐวุฒิเองก็คุ้นเคยกัน มีเข้าใจผิดกันบ้างนิดๆหน่อยๆ กระทบ กระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องปกติ ที่สำคัญเมื่อจบก็แยกย้ายกันไป ไม่ได้มีติดใจอะไรกัน ได้คุยกับพี่ทั้งสอง ตอนอยู่ในห้องประชุมคงมีอาการหงุดหงิดกันทั้งคู่ มีขึ้นเสียงบ้างอะไรกันบ้าง แต่จบแล้วเลิกรากันไปไม่มีอะไร และพูดคุยกับหัวหน้าอนุทินแล้วทุกอย่างปกติ ไม่ได้มีอะไรเลย แค่เหตุการณ์หนึ่ง ไม่ได้จะนำไปสู่ความมีปัญหาการเมือง ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง เท่าที่ทราบไม่ได้มีทำร้ายร่างกายกัน ที่คนไปรุมกันเยอะคล้ายกับว่าไปกันเอาไว้ มีอะไรจะได้แยกกันออกมา เพราะกลัวว่าจะอารมณ์ร้อนกันทั้งคู่ จึงเข้าไปห้ามปรามกัน
“ชัยวุฒิ” เชื่อไม่กระทบพรรคร่วมฯ
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า โอ้ย...มันไม่เกี่ยวอะไรกับการเมือง เรื่องแค่นี้ ไม่มีอะไร ไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาล เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องรุนแรงหรือโกรธแค้นอะไรกันมากมาย อาจมีหงุดหงิดกันบ้าง เพราะนั่งอภิปรายนานและรอคิวกันอยู่ เขาเคลียร์กันจบแล้ว มันไม่ใช่เรื่องถึงขนาดเอาเป็นเอาตาย ส.ส.ทุกคนรู้จักกันทั้งนั้น และนายชาดามาจากอดีตพรรคชาติไทย ส่วนที่มีข่าวว่านายชาดาไปตบนายณัฐวุฒิไม่ทราบ เพราะไม่เห็น คงไม่ถึงกับตบ ไม่มีอะไรหรอก นิดๆหน่อยๆ ไม่กระทบกับความสัมพันธ์รัฐบาล ถ้าแค่นี้กระทบ รัฐบาลก็อยู่ยากแล้ว
“ชัชชาติ” ร่วมงานสนามหลวง
ที่บริเวณท้องสนามหลวง ก่อนเริ่มพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2565 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหมพร้อมภริยา เป็นประธาน มี ครม. ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และผู้ว่าฯ กทม. ร่วมพิธี ผู้ร่วมงานต่างทยอยเดินทางมาถึง ขณะที่เวลา 06.50 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. มาถึง ได้รับความสนใจจากเพื่อนข้าราชการระดับสูง อย่างนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ามาพูดคุยแสดงความยินดีและถ่ายภาพร่วมกันแค่เฉียดยังไม่ได้พบนายกฯ จากนั้นเวลา 07.00 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เดินทางมาถึงนายชัชชาติได้เดินเข้าไปสวัสดีพูดคุยแนะนำตัวกันครั้งแรก โดยนายชัชชาติกล่าวกับ พล.อ.อนุพงษ์ว่า “ช่วยกันครับท่าน เดี๋ยวจะไปหารือ มีอะไรให้รับใช้ได้ครับ” ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ได้กล่าวว่า “โอเค” จากนั้นนายชัชชาติ พล.อ.อนุพงษ์ และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ถ่ายภาพร่วมกัน นอกจากนี้นายชัชชาติยังไปสวัสดีทักทายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา โดยนายชัชชาติกล่าวสั้นๆว่า “สวัสดีครับ เดี๋ยวไว้ไปหารือกันครับ” แต่นายชัชชาติยังไม่ได้เจอกับนายกฯ ซึ่งหลังเสร็จสิ้นพิธีนายกฯได้เดินทางกลับทันที
ปั้นรายได้วิสาหกิจชุมชนเพาะกล้าไม้
ต่อมาเวลา 09.30 น. ที่สวนสาธารณะป้อมมหากาฬ เขตพระนคร นายชัชชาติไปเป็นประธานกิจกรรมปลูกต้นไม้ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนม พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี มีคณะผู้บริหารกรุงเทพฯร่วมปลูกต้นไม้ที่มีสีม่วง อาทิ ต้นตะแบก เสลาอินทนิล 90 ต้น โดยนายชัชชาติปลูกต้นอินทนิล กทม.จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ในโอกาสนี้ 2,594 ต้น อาทิ กระถินเทพา แคนาชมพูพันธุ์ทิพย์ ตะเคียน เต็ง นนทรี ประดู่ พะยูง มะค่า โมง แดง ยางนา เหลืองปรีดิยาธร ฯลฯ หน่วยงานของ กทม.ได้ปลูกต้นไม้ทั้งสิ้น 2,684 ต้น นายชัชชาติกล่าวว่า จะพยายามปลูกต้นไม้ให้ครบ 1 ล้านต้น นโยบายนี้เริ่มขยับแล้ว กล้าไม้ราคา 20 บาท ได้หารือกับสำนักสิ่งแวดล้อมให้วิสาหกิจชุมชนย่านหนองจอก มีนบุรี ช่วยปลูกกล้าไม้เป็นรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตทุกวันอาทิตย์ตอนเช้าให้ทุกเขตปลูกเขตละ 100 ต้น รวมอาทิตย์ละ 5,000 ต้น 1 ปี 250,000 ต้น 4 ปี ครบ 1 ล้านต้นพอดี ส่วนป้อมมหากาฬมีประวัติยาวนาน เป็น 1 ใน 2 ป้อมที่เหลือของกรุงรัตนโกสินทร์ อีกแห่งคือป้อมพระสุเมรุ อนาคตต้องปรับให้เกิดพื้นที่สาธารณะใช้ประโยชน์ มีคุณค่าทางวัฒนธรรม มอบให้ปลัด กทม.ดำเนินการ
ปัดไม่เข้าหานายกฯ 6 มิ.ย. ถก มท.1
เมื่อถามว่าได้คุยอะไรกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย บ้างหรือยัง นายชัชชาติ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับ รมว.มหาดไทย ช่วงเช้าได้เจอแค่ทักทาย วันที่ 6 มิ.ย. จะไปพบเพื่อเรียนว่ามีโครงการอะไรที่จะร่วมมือกันได้บ้าง ส่วนนายกฯได้สวัสดีท่าน ท่านไม่ได้ว่าอะไรเพราะอยู่ห่างกัน “ข่าวผิดนะที่ว่าผมไม่ยอมไปหานายกฯ ไม่ใช่นะ เราเป็นผู้น้อยจะไปพบท่านได้อย่างไร ถ้าจะไปพบท่านต้องสั่งให้ไปหา ตามไลน์ต้องไปหา รมว.มหาดไทย ถ้านายกฯสั่งให้ไปหาก็ไปได้ตลอด เพราะเป็นผู้บังคับบัญชา จู่ๆจะไปพบนายกฯมันไม่ใช่เรื่อง” นอกจากนี้ได้คุยกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ทักทายสวัสดี ขอหารือรถไฟฟ้าสายสีเขียว