ปรากฏการณ์ “ชัชชาติ”...ต้นแบบ แน่นอนว่าการเข้าสู่ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อย่างเต็มตัวย่อมมีคำถามสำหรับประชาชนอีก 70 จังหวัด
ว่า...ทำไมพวกเขาไม่มีโอกาสได้เลือกบ้าง
ท่วงทำนองทางการเมืองหลังเริ่มทำงานในฐานะผู้ว่าฯ ของคนเมืองหลวงแต่ละฉากแต่ละบทล้วนสร้างคำถามแก่คนทั้งประเทศ
เพราะอะไรต่อมิอะไรดูดีไปหมด
อีก 4 ปีในฐานะผู้บริหารที่มาจากการเลือกตั้งด้วยการสร้างผลงานให้ปรากฏอย่างน้อยนโยบาย 214 ข้อ ได้รับการสะสางอย่างเป็นรูปธรรม
ทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองน่าอยู่ ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเป็นแบบอย่างการพัฒนาเมืองที่ได้รับการบริหารจัดการอย่างสุจริตและมีเป้าหมาย
ย่อมเป็นแบบอย่างที่ประชาชนทุกจังหวัดมีสิทธิที่จะได้รับโอกาสนั้นด้วยการเลือกตั้งด้วยมือของพวกเขาเอง
ผมว่านักการเมืองควรจะร่วมกันเปิดโอกาสนั้นด้วยการเสนอให้มีการเลือกผู้ว่าฯในแต่ละจังหวัดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
คือยังไม่เลือกทุกจังหวัดในขั้นเริ่มต้น แต่ในแต่ละภาคควรจะกำหนดจังหวัดที่มีความพร้อมแล้วเลือกให้เป็นจังหวัดทดลอง
อย่างเช่นเชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี ภูเก็ต เป็นต้น แล้วออกกฎหมายเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ในการปกครองรูปแบบพิเศษ
เพื่อเป็นการเปิดกว้างให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการปกครองตนเองและกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปยังภูมิภาค
ไม่ใช่รูปแบบอย่างทุกวันนี้ที่ส่วนกลางยังเข้าไปควบคุมและบริหารเองในทุกจังหวัดทำให้เกิดปัญหาในการเจริญเติบโต
ที่สำคัญคือข้าราชการยังเป็นใหญ่ไม่ใช่ประชาชนเป็นใหญ่
มีพรรคการเมืองบางพรรคที่เสนอความเห็นให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ควรที่จะรณรงค์อย่างเป็นเรื่องเป็นราว เพื่อให้สังคมยอมรับและช่วยกันผลักดัน
...
ปัญหาการปกครองของไทยอยู่ที่การกระจายอำนาจนี่แหละ...แม้ว่าผู้มีอำนาจจะยอมให้มีการดำเนินการไปบางส่วน
แต่ก็เป็นครึ่งๆกลางๆคือ เป็นแต่เพียงรูปแบบไม่ได้กระจายจริง
ทับซ้อนกันไปหมด มีนายก อบจ. แต่ก็ยังมีการแต่งตั้งผู้ว่าฯจากส่วนกลางไปประจำในจังหวัดต่างๆเหมือนเดิม
ปัญหาก็คืองบประมาณจากภาษีของประชาชนต้องเพิ่มขึ้นมาเพื่อใช้จ่ายในการปกครองที่เป็นเรื่องเดียวกัน
ถึงเวลาแล้วที่คนต่างจังหวัดจะได้ใช้สิทธิใช้เสียงของตนเองเพื่อเลือกผู้ปกครองที่ตนเองเห็นว่ามีความเหมาะสมมีความสามารถและมีความสุจริต
ไม่ได้ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมอย่างที่พยายามบิดเบือนกัน
“ชัชชาติ” คือต้นแบบของผู้บริหารที่มาจากการเลือกตั้งและสามารถที่จะทำให้แต่ละจังหวัดมีความเจริญก้าวไปข้างหน้า
เหล็กกำลังร้อนต้องตี
ก่อนที่กระแสผู้ว่าฯ กทม.จะจางหายไป.
“สายล่อฟ้า”