ผู้ว่าฯ กทม. เล็งผ่อนมาตรการโควิด ให้ประชาชนถอดแมสก์ จ่อถกหน่วยงานเร่งด่วน หารือขยายเวลาเปิดผับ-บาร์-สวนสาธารณะ เชื่อเป็นผลดีกับทุกภาคส่วน พร้อมมองว่าถึงเวลาที่กรุงเทพฯ ต้องเดินหน้าต่อ

วันที่ 2 มิถุนายน 2565 ที่ศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า กำลังพิจารณาผ่อนคลาย มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ให้ประชาชนสามารถถอดหน้ากากอนามัยตามความสมัครใจและในสถานที่ต่างๆ ที่เหมาะสม หลังจังหวัดภูเก็ต ออกมาตรการให้ถอดหน้ากากอนามัย "ถอดแมสก์" ได้ ขณะรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม, ยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่รัฐ , ออกกำลังกาย, อยู่ในที่โล่งแจ้งที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก รวมถึงบริเวณชายหาด สวนสาธารณะหรือสนามกีฬาซึ่งห่างจากบุคคลอื่นไม่ต่ำกว่า 2 เมตร แต่ทั้งนี้ก็ยังคงให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าโดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานที่ปิดที่อากาศไม่ถ่ายเท และการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก 

ซึ่งส่วนตัวมองว่ามาตรการดังกล่าวน่าสนใจโดยบริบทและสถานการณ์ของภูเก็ตกับกรุงเทพฯ ไม่ต่างกัน และกรุงเทพฯ ต้องเดินหน้าต่อ จึงเตรียมผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวให้เร็วที่สุด ซึ่งจะต้องหารือกับผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักอนามัย กทม. และบุคลากรทางการแพทย์ กทม. เป็นหลัก

ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการประชาชนและนักเที่ยวท่องราตรีเรียกร้อง ขอให้กทม. ขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง ยาวออกไปถึงตี 2 ซึ่งตอนนี้อนุญาตให้เปิดถึงเที่ยงคืน เพราะจะส่งผลดีกับภาคประชาชน ผู้ประกอบการหลายฝ่าย มองว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ โดยเตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน ไม่ใช่เพียงแค่ผับบาร์เท่านั้น แต่ต้องครอบคลุมไปถึงสถานประกอบการต่างๆ และสวนสาธารณะ ที่จะต้องขยายเวลาด้วยเช่นกัน

...

ทั้งนี้บรรยากาศการสัมภาษณ์วันนี้ นายชัชชาติ ได้ตอบทุกคำถามของสื่อเพราะถือเป็นการประชุมครั้งแรกกับบอร์ดผู้บริหารกรุงเทพธนาคมและในวันนี้ตนเองได้มาถึงศาลาว่าการกทม.ตั้งแต่ตี 4 และวิ่งออกกำลัง ซิตี้รัน รอบเสาชิงช้า และกลับมาอาบน้ำทำงานต่อ และถือว่าเป็นการเปลี่ยนสถานที่วิ่งครั้งแรกและไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ขณะเดียวกันอยากไปวิ่งสำรวจวัดพระแก้วเพราะยังไม่เคยไปดูบรรยากาศตอนเช้า และถ้ามีเวลาจะไปสำรวจบรรยากาศการเปิดผับบาร์ตอนกลางคืน ตามนโยบายผู้ว่าเที่ยงคืนแต่ไม่ใช่วันนี้เพราะภารกิจแน่น

ภายหลังเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์นายชัชชาติได้พาสื่อมวลชนเดินชมห้อง CCTV ที่เชื่อมต่อกับระบบทราฟฟี่ฟองดูว์ แพลตฟอร์มสำคัญที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองเป็นช่องทางให้ประชาชนจากทุกเขตให้แจ้งปัญหาเมืองทั้งจราจร น้ำท่วม ฟุตปาทต่างๆ โดยมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องดำเนินการแก้ปัญหา และมีระบบตรวจสอบหลังแก้ปัญหาเป็นการกระจายอำนาจให้ประชาชนมีส่วนร่วม