นายกฯ ย้อนฝ่ายค้าน แนะอ่านเอกสารในที่ประชุมเรื่องงบฯ ปี 66 บอกไม่โกรธถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ให้ไปดูพฤติกรรมของตนเองบ้าง ชี้ มีความอดทนพอ พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ใช้อารมณ์
เมื่อเวลา 13.44 น. วันที่ 31 พ.ค. 2565 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 4 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงในที่ประชุม กรณีฝ่ายค้านอ้างว่าจัดงบไม่เพียงพอ ว่า รัฐบาลจัดงบ 3.18 ล้านล้านบาท นำมาลงทุน 6.95 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 21.82 ซึ่งถือเป็นไปตามกฎหมาย โดยนอกจากนี้รัฐบาลยังมีการลงทุนอื่นๆ ด้วย เมื่อรวมกับงบประมาณ จะมีเม็ดเงินในการใช้จ่ายรวมในปี 2566 จำนวน 7.94 แสนล้านบาท จึงขอให้สมาชิกอ่านเอกสารของสำนักงบประมาณ ในที่ประชุมด้วย และขออ่านให้ครบ ว่าเอาไปใช้อะไรจำนวนเท่าใด
ส่วนเรื่องงบประมาณด้านเกษตร ที่อ้างว่าเป็นงบของอดีตและไม่ใช่งบของอนาคต จึงขอย้อนกลับไปว่า ในโครงการจำนำข้าวตั้งแต่ปี 2554 ขาดทุน 9.7 แสนล้านบาท เงินจำนวนนี้ถ้ามีอยู่สามารถเอาไปทำอะไรได้มาก จึงไม่อยากจะพูดหรือย้อนกลับเช่นเดียวกัน อีกทั้งรัฐบาลมีการทำหลายโครงการ อาทิ สมาร์ทฟาร์มเมอร์ แต่กลับไม่มีการพูดถึง และอยากบอกว่าเราต้องให้เบ็ดตกปลาและให้ปลาไปด้วยเพื่อให้เขาอยู่ได้ จึงขอให้คิดใหม่บ้าง ที่กล่าวหาว่าตนเองคิดเก่าๆ
...
นายกฯ ยังชี้แจง ถึงเรื่องข้อกล่าวหาว่าการจัดงบประมาณในปีนี้ ไม่มีการจัดลำดับความสำคัญ ว่าตนเองดูให้ทุกที่ ส่วนงบกลางที่ตั้งไว้มากๆ ก็ไม่ได้เอาไปใช้ส่วนตัว เพราะมีคณะกรรมการกลั่นกรอง และ ครม.ก็มี ซึ่งนอกจากงบกลางจะนำมาใช้เมื่อฉุกเฉินแล้ว ยังเติมให้กับทุกจังหวัดในการช่วยเหลือส่วนที่ขาด พร้อมยืนยันเรื่องโรคระบาด กำลังจัดหาเม็ดเงินให้เอกชนพัฒนา ปรับปรุง เพื่อให้รับนักท่องเที่ยวเข้ามา
ส่วนเรื่องงบประมาณขาดดุล อยากให้ทำความเข้าใจเรื่องภาษีว่ามาจากที่ใดบ้าง เพราะมีการเก็บภาษีต่างกัน ยืนยัน ข้าราชการก็เสียภาษี จึงขอให้ไปดูรายละเอียดเรื่องนี้ และใครไม่ถึงเกณฑ์การเสียภาษี ก็ไปเสียภาษี Vat 7% แทน และบางท้องถิ่น ยังเก็บภาษีไม่ได้ รัฐบาลก็เติมงบกลางไปให้
"ที่ผ่านมามีไหม มีอะไรใหม่ๆ ให้ผมดูไหม ถ้ามีก็บอกผมมา ไอ้วันนี้ที่ผมบอกว่าทำอะไรไว้บ้าง ผมก็บอกทุกวันๆ สื่อสารทุกวัน ท่านก็ไม่เคยฟัง ผมไม่ไปเถียงกับท่านอยู่แล้ว ผมก็ต้องพูดให้ฟัง เพราะมีประชาชนอยู่ทางบ้าน หาว่ารัฐบาลไม่สนใจเขา ถ้าไม่สนใจคงไม่ดูแลแบบนี้ ย้อนกลับไปดูพฤติกรรมตนเองบ้างแล้วกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ ยังกล่าวว่า เรื่องอื่นๆ เดี๋ยวรัฐมนตรีคงชี้แจง พร้อมกล่าวอีกว่า "ไม่ว่าจะอภิปรายอะไรก็เหมือนเดิม เพราะว่าถูกฝังชิปไปหมดแล้ว ผมก็ไม่อยากจะไปตอบรุนแรงอะไรกับท่าน พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ใช้อารมณ์ ผมอดทนพอ หลายเรื่องที่ท่านพูดมันไม่ใช่ข้อเท็จจริง ข้าราชการเขาทำงาน ดูแลเขาไหม ก็ต้องดูแล ประชาชนดูแลไหม ดูแล ประกันราคาข้าวให้ไหม ให้"
นอกจากนี้ นายกฯ ยังขอให้ไปดูรายละเอียดเรื่องน้ำมันว่าต่างประเทศและไทยขุดได้กี่หลุม และคุณภาพดีกว่าไทยหรือไม่ จึงขออย่าพูดแต่หลักการกว้างๆ ให้คนสับสน ซึ่งมันทำให้ยากต่อการบริหาร ในเมื่อทุกคนเป็น ส.ส. อย่าเอาแต่เรื่องร้องทุกข์อย่างเดียว ต้องเอาสิ่งที่รัฐบาลทำไปให้ประชาชนรู้ด้วย เพื่อให้เข้าถึงบริการภาครัฐ ไม่เช่นนั้นจะอยู่อย่างนี้ ยืนยันว่าตนเองฟังได้ทุกเรื่อง แต่บางอันก็ซ้ำแล้วซ้ำอีกแต่ไม่โกรธ จึงขอให้ไปอ่านรายละเอียดรายได้เงินนอกงบประมาณในเอกสาร สิ่งที่เป็นประโยชน์ อย่ามาโจมตีตนเองและรัฐบาลอย่างเดียว.