โฆษกฯ เผย “นายกฯ” เชื่อมั่นพร้อมเดินหน้าประเทศสู่ความปกติใหม่ เข้าสู่โรคประจำถิ่น ขอทุกคนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Preventation ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงต้องปฏิบัติตนตามมาตรการ 5+5
วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอยู่ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน – สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ (ASEAN –U.S. Special Summit) ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา แต่ยังคงติดตามสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศอย่างใกล้ชิด รับทราบรายงานสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ และจำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ (12 พฤษภาคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 77,427 ราย ขณะที่มีจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,353 ราย และอัตราครองเตียงลดลง ชี้เริ่มเป็นสัญญาณที่ดีขึ้นในการเดินหน้าประเทศ จากความร่วมมือของทุกคนช่วยให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และมีสถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขอความร่วมมือทุกคนเฝ้าระวังตัวเองอย่างเคร่งครัด ตามมาตรการ Universal Preventation สำหรับผู้เสี่ยงสูง ยึดหลัก 5 + 5 กักตัวที่บ้าน 5 วัน ตรวจ ATK ในวันที่ 5 หลังสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยครั้งสุดท้าย หรือหากมีอาการให้ตรวจ ATK ทันที และสังเกตอาการตัวเองต่อเนื่องอีก 5 วัน โดยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ออกนอกพื้นที่ได้ แต่เฝ้าระวังตนเอง ไม่อยู่ร่วมกับคนหมู่มาก ทั้งนี้ ทุกคนต้องร่วมมือกันเฝ้าระวังและป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมเข้าสู่โรคประจำถิ่นต่อไป
สำหรับรายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 พบผู้ติดเชื้อรวม 8,019 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 8,016 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 3 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 2,129,802 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) โดยมีจำนวนผู้หายป่วยกลับบ้าน 8,807 ราย หายป่วยสะสม 2,078,005 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ในขณะที่มีผู้ป่วยกำลังรักษา 77,427 ราย และเสียชีวิต 59 ราย ส่วนรายงานจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลรวม 1,353 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 18 ราย อัตราครองเตียง ร้อยละ 17.4
...
ส่วนรายงานสรุปการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 (เวลา 18.18 น.) รวมทั้งสิ้น 135,222,806 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 56,471,030 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 51,824,924 โดส เข็มที่ 3 จำนวน 23,986,460โดส และเข็มที่ 4 จำนวน 2,940,392 โดส