“ทักษิณ ชินวัตร” ถวายความจงรักภักดี ในหลวง ร.10 ก่อนร่วมคุยใน Clubhouse เย้ย “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่มีทางทำคนไทยหายจนใน ก.ย. ได้ ฟุ้งถ้ายังเป็นนายกฯ แก้ปัญหายาเสพติดเอาอยู่หมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 พ.ค. 2565) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวใน Clubhouse ร่วมกับกลุ่ม Care คิด เคลื่อน ไทย ในหัวข้อ ระบอบทักษิณในมัลติเวิร์สของความจน โดยก่อนเริ่มเข้าสู่ประเด็นสนทนา นายทักษิณ กราบถวายความจงรักภักดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พ.ค. ที่ผ่านมา
จากนั้นกล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ภายในเดือน ก.ย. 2565 หรือสิ้นปีงบประมาณนี้ คนไทยจะหายจน ว่า รู้สึกตกใจมาก เพราะส่วนตัวหากให้ดำเนินการตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2565 ยังทำไม่ได้ เพราะเวลาสั้นมาก ถ้าจะให้หายจนได้ทันคงต้องเปลี่ยนชื่อจากบัตรคนจนที่แจกไป 20 ล้านใบ เป็นบัตรไม่จนแล้ว เป็นไปไม่ได้กับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะความจริงวันนี้คนลำบากมาก บางคนหันไปค้ายาเสพติด ทำหวยใต้ดิน ไปจนถึงเป็นนักใบ้หวย หรือมีเงินอยู่ก็เอาไปซื้อหวย เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไร เผื่อฟลุก จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีลงไปสัมผัสจริงๆ จะรู้ว่าคนลำบากมากจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศ
ทั้งนี้ หากระบอบประชาธิปไตยยังอยู่ ไม่ถูกปฏิวัติ และเป็นไปตามครรลอง ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ เชื่อว่าบ้านเมืองจะไม่แย่แบบนี้ ถ้ามีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาชน รัฐบาลเผด็จการ มาจากการยึดอำนาจ มีรัฐธรรมนูญที่ไม่เห็นหัวประชาชน มีไว้เพื่อรักษาอำนาจมากกว่ารักษาความมั่งคั่งของประเทศ แบบนี้ไปไม่ได้ โดยประเทศต้องมีทั้งฮาร์ดพาวเวอร์ และซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งทุกวันนี้ไม่ถูกพัฒนา ไม่เปิดโอกาส ทำให้คนเหล่านี้กลายเป็นแรงงานราคาถูก ทำให้บ้านเมืองและคนเหล่านี้ยังยากจนอยู่
...
“ประเทศยิ่งจนเท่าไร ยาเสพติดยิ่งเยอะ ด้วยทฤษฎีอาชญาวิทยา ระบุว่า ถ้าช่องทางที่ถูกกฎหมายไม่เปิด เขาก็จะไปหากินในทางที่ผิดกฎหมาย และถ้าผิดกฎหมายแล้วโอกาสถูกจับกุมต่ำ ก็จะยิ่งไปหากินทางนั้น แม้เป็นทฤษฎีที่นานมากแล้วแต่ยังเป็นความจริงอยู่ โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาอย่างเรา อย่าเพิ่งบอกว่าประเทศเราจะพัฒนาแล้ว ผมว่าอีกนาน และยิ่งเป็นรัฐบาลอย่างนี้ยิ่งแย่ ซึ่งถ้ายังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ปัญหายาเสพผมติดเอาอยู่หมด ลูกหลานต้องไม่ตกเป็นทาสเหมือนทุกวันนี้ และถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลยืนพื้นเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดแน่นอน เพราะเป็นเรื่องใหญ่”
นายทักษิณ ยังกล่าวด้วยว่า ถ้ายังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ในด้านการรักษาพยาบาล ทุกอำเภอจะมีโรงพยาบาลหรือคลินิก และจะมีเซ็นเตอร์เพื่อเช็ก DNA ของคนในพื้นที่ว่ามีแนวโน้มป่วยเป็นโรคอะไร เพื่อดูแลและวินิจฉัย ทำการวิเคราะห์วิจัยต่อเนื่อง กระจายให้ทุกโรงพยาบาลสามารถซื้อยาได้เอง รวมถึงการดูแลสุขภาพจิต จัดแพทย์เข้าไปเยี่ยม หรือฝึก อสม. เพื่อเป็นการป้องกันโรค เมื่อตรวจเจอจะสามารถรักษาได้ทันท่วงที ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต่อคนลงได้ ด้านกองทุนหมู่บ้าน จะมีการพัฒนาให้เป็นธนาคารประจำหมู่บ้าน เพื่อดูแลคนในหมู่บ้าน จะจัดให้มีงบประมาณหมู่บ้านเพื่อแก้ไขปัญหาของตัวเองเป็นการกระจายอำนาจ และสินค้าโอทอปจะผนวกกับเอสเอ็มอี โดยสร้างเป็นไทยแลนด์แบรนด์ ตั้งเป็นเอาต์เลตไว้ตามมหานครใหญ่ที่สำคัญของโลก อย่าง นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน เซี่ยงไฮ้ และโตเกียว เพื่อโปรโมตสินค้าไทย และใกล้เคียงสินค้าแบรนด์เนม รวมไปถึงมีการสนับสนุนครัวไทยสู่ครัวโลก ดังนั้น จึงเสียดายโอกาสของประเทศ.