การไปเบตงกับเพื่อนนักข่าวนักเขียนโดยเจ้าภาพ ททท.เที่ยวนั้น เกือบยี่สิบปีที่แล้ว เราลงเครื่องบินที่หาดใหญ่ นั่งรถตู้ออกด่านปาดังเบซาร์ ไปนอนปีนังหนึ่งคืน แล้วจึงมุ่งเข้าหลังเบตง...

เที่ยวนี้เอง ผมถูกพาไปรู้จัก สวนดอกไม้เมืองหนาว ซึ่งกำลังถูกโปรโมตให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ผมยืนอยู่บนพื้นราบ มองผ่านมวลดอกไม้หลากสีที่เบียดเสียดกันชูช่อ สูงขึ้นๆจนสุดเชิงเขา

สภาพสังขาร...ตอนนั้นเกินหกสิบ ทักว่าไม่ไหว...แต่อีกใจ อุตส่าห์บินไกลมาสุดใต้ทั้งที เลยเนินเขาทิวนี้ออกไป เขาว่าเป็นช่องทางเดินจคม.ยุคที่ถือปืนทำศึกสองด้าน

ด้านหน้ารบทหารมาเลเซีย ด้านหลังรบกับทหารไทย ก่อนนโยบายการเมืองนำหน้าการทหารสวนดอกไม้สดใสสะพรั่ง ในถิ่นที่เคยเป็นฐานทหารป่า กว้างใหญ่ตรงหน้า...เร้าใจให้ตัดสินใจก้าว

ในทางเดินแคบๆ ผมก้าวไปทีละก้าว

ก้าวแรกๆ ยังมีอิฐหรือหินให้ย่ำ ก้าวต่อๆไปเจอดิน และหลายก้าวยังเปียกชื้นจากฝน จนเป็นโคลน

และบางก้าว...ก็ต้องชะงัก...เจอทางขาด น้ำหรือโคลนก็ไม่แน่...

มองอีกทีเป็นทางแยกที่ถูกย่ำมากๆ ใช้ความคิดจะไปทางไหน ที่จะเลี่ยงให้รองเท้าจมโคลนน้อยกว่า ตัดสินใจก้าวออกไปทางหนึ่ง... ไม่เลวร้าย รองเท้าแค่จมเลยพื้นเล็กน้อย...เดินต่อไปได้ง่ายสบายเท้าขึ้น

หันไปชมดอกไม้พรรณแปลกๆตา ข้างตัว บางดอกบางช่อ ไม่รู้จักชื่อ รู้แต่ว่าดอกไม้โตในเมืองหนาวสวยกว่าดอกไม้ที่เคยเห็น

นึกได้ เดินอยู่ในสวนดอกไม้ ไม่ได้เดินอยู่ในป่าลึกกลางภูเขา ที่มีเค้าเป็นถิ่นของเสือสางสักหน่อย

กำลังเริ่มเพลินๆก็สุดทาง หันหลังกลับ นี่ผมเดินจากพื้นราบ...บริเวณอาคารที่ทำการ...ขึ้นมาถึงได้อย่างไร...คะเนเอา คิดเป็นระยะทางตั้งแต่ก้าวแรก...มาถึง น่าจะราวครึ่ง กม.

...

เที่ยวลง...ไม่ต้องออกแรงนัก เพียงแต่ตั้งสติที่เท้า...ทีละก้าวๆ อีกไม่เท่าไหร่ ก็กลับถึงจุดเริ่มต้น

ระหว่างมื้ออาหารกลางวัน เจ้าภาพ...ตั้งใจเลี้ยงไก่เก้าชั่ง...เขาว่า อร่อยกว่าไก่เบตง ที่ขึ้นชื่อในตลาด

สหาย...อดีตนักรบในป่า แต่ละคนมีเรื่องเล่า...เช่น ถึงเทศกาลปืนใหญ่ ทหารไทยก็มักเอาปืนใหญ่มาระดมยิง...ยิง และยิง ยิงใส่จุดที่คาดหมาย

เรื่องเล่านี้ ย้อนไปจุดที่เราผ่านมาก่อน...อุโมงค์ ตอนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เรียกอุโมงค์โจรจีน พวกเขาเอาวิชามาจากไหน...ขุดเข้าในภูเขา ขุดเข้าไปๆ หาทางออกหรือทางหนีไว้มากกว่าหนึ่งทาง

เท่าที่ผมยังพอจำได้ อุโมงค์นั้น ขุดกันสี่เดือน ก็ใช้เป็นที่หลบเทศกาลปืนใหญ่...ตอนผมเข้าไปดูในอุโมงค์ ผมมีภาพจำ เป็นภาพพวกสหาย นอนฟังเพลง จากวิทยุทรานซิสเตอร์ข้างๆตัว ทหารไทยอยากยิงแค่ไหน ก็ยิงไป

ก่อนอำลาสวนดอกไม้เมืองหนาว...ผมตั้งใจมองสวนดอกไม้กว้างไกลไปถึงเชิงเขาสูงอีกที...นึกถึงตัวเอง สภาพสังขารตอนนั้น ยังไงๆ ก็ขึ้นไปไม่ถึง

แต่ความที่ผมตั้งหลัก...เดินทีละก้าว มองตรงเท้า เหนื่อยก็ชมดอกไม้สวยๆข้างตัว ไม่มองไปข้างหน้า

ปาฏิหาริย์การเดินทีละก้าว ผมแทบไม่เชื่อ ขึ้นสุดทางบนเชิงเขาสูงไปจนได้

เรื่องการเดินทีละก้าว ในสวนดอกไม้เมืองหนาว ผมตั้งใจเล่าให้เป็นแนวทาง...สำหรับเพื่อนพ้องน้องพี่...ที่กำลังเผชิญปัญหารอบด้าน...โลก...สงครามยูเครนรัสเซีย เพิ่มความร้อน พม่าเพื่อนบ้านก็ยังหาจุดลงตัวไม่เจอ

บ้านเราเจอโควิด-19 เข้าสามปี ก็อ่อนเปลี้ยเพลียแรงเต็มที เจอเศรษฐกิจซ้ำ การเมืองก็ย่ำแย่...หันมาหาตัวเอง...ก็เหลือแค่ มีหน้าที่อะไรแค่ไหน ก็ทำไป เอาตัวให้อยู่รอดไปได้ ในแต่ละวัน...

พะวักพะวนกับเรื่องไกลตัวไปทำไม? ทำใจให้สงบเย็นไว้ เราจะถึงจุดหมาย...ของเราได้ ไม่ช้าก็เร็ว.

กิเลน ประลองเชิง