“บิ๊กตู่” ชื่นชม หลังไทยเป็นหนึ่งในเจ้าภาพจัด MotoGP 2022 ยินดี ติดอันดับ 8 ของโลก ประเทศเดินทางท่องเที่ยวปลอดภัยจากชาวอเมริกัน ชวนทุกคนเป็นเจ้าบ้านที่ดี หลัง 1 พ.ค.นี้ เปิดประเทศเต็มรูปแบบ
วันที่ 30 เม.ย. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามและชื่นชมที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ โมโตจีพี (MotoGP) อีกครั้ง ถือเป็นโอกาสพัฒนาศักยภาพกีฬาไทยอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทย
ทั้งนี้ ประเทศไทยเคยประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน MotoGP เมื่อปี 2562 มาแล้ว ถือเป็นโอกาสกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงินหมุนเวียนใน จ.บุรีรัมย์ และจังหวัดภาคอีสานรวมกว่า 4,000 ล้านบาท มีผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดกว่า 2.2 แสนคน เป็นชาวไทย 1.6 แสนคน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5.9 หมื่นคน ทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่รวม 5,466 ตำแหน่ง เห็นได้ว่าการเป็นเจ้าภาพ MotoGP เป็นโอกาสสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม
รัฐบาลจึงผลักดันไทยให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ โมโตจีพี ด้วยแนวคิดสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) ดึงดูดเรดาร์ของโลกและนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านการเป็นโมเดลของการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับโลก ต่อยอดสนับสนุนกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “MotoGP 2022” สนามที่ 18 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ก.ย. - 2 ต.ค. 2565 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ และไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันต่อไปจนถึงปี 2569
...
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียินดีและเชื่อมั่นในศักยภาพและความพร้อมของประเทศ ตลอดจนเอกลักษณ์ความเป็นไทย ที่สามารถดึงดูดสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้อย่างดี รวมทั้งเป็นกำลังใจให้นักกีฬาชาวไทยที่เข้าร่วมการแข่งขัน ให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่มุ่งมั่นตั้งใจ พร้อมเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารงานภายใต้มาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และหากมีโอกาสให้สนับสนุนใช้ Soft Power ที่ไทยมีในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างความประทับใจ เป็นอีกแรงผลักดัน Soft Power ของไทยในเวทีโลก
ทางด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความยินดี หลังเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ทราเวล โพรเทกชัน (Berkshire Hathaway Travel Protection) เปิดเผยผลสำรวจรายงานสถานะการประกันภัยการเดินทาง (State of Travel Insurance Report) พบว่า ประเทศไทย ติดอันดับที่ 8 ของโลก เป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันให้คะแนนด้านความปลอดภัยในการเดินทางมากที่สุด และเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย รองจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ส่วนภูมิภาคอาเซียน ไทยเป็นอันดับ 1 นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มมิลเลนเนียล จัดให้ไทยอยู่ในอันดับ 2 ของโลก สำหรับจุดหมายปลายทางที่มีความปลอดภัยด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พัฒนามาตรฐานเกี่ยวกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักการว่า ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวมีผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศและการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยว จึงมีมาตรการความปลอดภัยทั้งทางน้ำ ทางถนน ความปลอดภัยจากการถูกหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เป็นต้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ยังเห็นว่าผลสำรวจล่าสุดของเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ทราเวล โพรเทกชัน จะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยในภาพรวม โดยเฉพาะที่รัฐบาลกำลังจะเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 พ.ค. นี้ จะเป็นการส่งเสริมบรรยากาศการเดินทางและท่องเที่ยวในประเทศไทยให้กลับมาอีกครั้ง ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวของไทยมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
“นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานราชการและประชาชน ที่ช่วยกันทำให้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทยเป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติมากขึ้น สิ่งนี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยเกิดความเชื่อมั่น ประทับใจ อยากกลับมาเยือนใหม่เมื่อมีโอกาส เพราะภาคการท่องเที่ยวถือเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ขอให้คนไทยทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยรอยยิ้ม ความเป็นมิตรของคนไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้รับคำชื่นชมเสมอมา”