นายกฯ ติดตามความพร้อมผ่อนคลายมาตรการเข้าไทย 1 พ.ค.นี้ ชี้เป็นจุดเปลี่ยนการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่สำคัญ หากพบปัญหาติดขัดให้เร่งรายงานเพื่อแก้ไขได้ทันที ฝากเน้นย้ำมาตรการกับนักท่องเที่ยว

วันที่ 28 เม.ย. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือและมอบหมายหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการในด้านต่างๆ ให้พร้อมรับกับการยกเลิกข้อกำหนดการเข้าราชอาณาจักรแบบ Test & Go ตั้งแต่วันที่  1 พ.ค. 2565 เป็นต้นไปนั้น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ติดตามการเตรียมการของหน่วยงานต่างๆ อย่างใกล้ชิด ทั้งหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งดูแลศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) ณ ท่าอากาศยานทุกแห่ง กระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข ดูแลความเรียบร้อยในส่วนของกระบวนการและขั้นตอนการเข้าราชอาณาจักร การให้ข้อมูลข่าวสาร การอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางและนักท่องเที่ยว

“การผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนผ่านสำคัญที่รัฐบาลมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง หากภาคส่วนใดพบปัญหาติดขัดให้เร่งรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบเพื่อแก้ไขปัญหาทันที”

นอกจากนี้ ตามที่มีการประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้นหลังการผ่อนคลายมาตรการนั้น พล.อ.ประยุทธ์ มีข้อห่วงใยเกี่ยวกับการดูแลให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากหลายประเทศซึ่งอาจมีการปฏิบัติตามมาตรการที่เข้มงวดแตกต่างกัน ในส่วนนี้นายกรัฐมนตรีให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หารือพร้อมขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยเฉพาะโรงแรมที่พัก ให้มีการเน้นย้ำ ให้ความรู้ความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวเกี่ยวกับมาตรการและข้อปฏิบัติของประเทศไทย เนื่องจากโรงแรมที่พักเป็นจุดที่มีความใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวมากที่สุด  

...

สำหรับการดูแลสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในภาพรวม กระทรวงสาธารณสุขมีแผนงานเผชิญเหตุการแพร่ระบาดในแต่ละสถานการณ์ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการ รวมถึงเตรียมความพร้อมทั้งเวชภัณฑ์และบุคลากร ซึ่งมีการรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบเพื่อมีข้อสั่งการเพิ่มเติมต่อไป  

รองโฆษกรัฐบาล เผยในช่วงท้ายว่า “เพื่อให้การผ่อนคลายมาตรการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 ซึ่งเป็นการเปิดประเทศมากที่สุดนับแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นไปอย่างราบรื่น นายกรัฐมนตรีจึงได้ติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและให้มีการรายงานกรณีเกิดข้อติดขัดเพื่อให้การสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว เป็นการให้ความเชื่อมั่นพร้อมกับการเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ รัฐบาลได้มีแผนงานที่รัดกุมเพื่อดูแลตอบโต้กับสถานการณ์โรคระบาดซึ่งสำคัญอย่างยิ่งกับความปลอดภัยของประชาชน”