“รัชดา” ดึงผู้ทรงคุณวุฒิคนนอกร่วมทีมสอบปมฉาวอดีตรองหัวหน้า ปชป. ขอสังคมมั่นใจ ไม่เข้าไปแทรกแซง หวังข้อสรุปเป็นโมเดลให้องค์กรอื่นขจัดผู้บริหารหื่น กลุ่มผู้ค้าหวยร้อง “เสรีพิศุทธ์” สอบ “แรมโบ้” กมธ.ป.ป.ช.จ่อเรียก “ทนายตั้ม-โบ้-จุรีพร” ชี้แจง ซัดนายกฯนิ่งดูดายอาจผิดด้วย “จุรีพร” รับเป็นคนเปิดสปีกเกอร์โฟนเอง แฉ “นายกิ๊ก” พฤติกรรมลับๆล่อๆ “ประเสริฐ” เย้ย “ลุงตู่” ประโลมใจตัวเองอยู่ครบเทอม ฟุ้งกวาด ส.ส. 250 เสียง เปิดตัวอลังการพรรคสองกุมาร “สร้างอนาคตไทย” “อุตตม” หัวหน้า “สนธิรัตน์” เลขาฯ ตามคาด ชู “สมคิด” แคนดิเดตนายกฯ ป.ป.ช.เต้นโดนมือดีดูดข้อมูล ศาลถอนประกัน “ทานตะวัน”

หลังจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีคำสั่งตั้งกรรมการ 2 คณะตรวจสอบประเด็นฉาวหลังนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค ถูกกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาว ล่าสุด น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมาร่วมสอบสวนด้วย

...

“รัชดา” ดึงคนนอกร่วมทีมสอบ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 เม.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการเพื่อกำหนดแนวทางในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ เพิ่มเติมจากข้อบังคับพรรคที่มีอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์การใช้ตำแหน่งไปแสวงประโยชน์ รวมถึงพิจารณาแนวทางการให้ การช่วยเหลือผู้เสียหายจากกรณีอดีตรองหัวหน้าพรรคด้วย ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการรวมทั้งตนเป็น 9 คน มีทั้งคนในพรรคและนอกพรรค คือ นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท น.ส.นริศา อดิเทพวรพันธุ์ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ น.ส.เสาวลักษณ์ ทองก๊วย สมาชิกคณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง ผอ.มูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม นางเรืองรวี พิชัยกุล ผอ.สถาบัน วิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนา น.ส.ธนวดี ท่าจีน ผอ.มูลนิธิเพื่อนหญิง

ขอสังคมมั่นใจจะไม่แทรกแซง

น.ส.รัชดากล่าวว่า ต้องการให้คณะกรรมการชุดนี้ทำงานเป็นอิสระ มีมุมมองที่ครอบคลุม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อสรุปที่ได้นอกจากจะนำไปสู่การแก้ไขข้อบกพร่องภายในพรรคแล้ว อาจเป็นประโยชน์กับองค์กรอื่นได้ เพราะพฤติกรรมการใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศ มีโอกาสเกิดขึ้นในองค์กรอื่นเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคในวันนี้ และความตั้งใจที่จะแก้ปัญหา น่าจะเป็นบทเรียนที่สังคมเรียนรู้ไปด้วยกัน และร่วมกันขจัดมันออกไป สำหรับกรรมการภายนอกทั้ง 4 ท่านที่เชิญมาร่วมงาน ล้วนมีบทบาทต่อต้านการคุกคามทางเพศ และการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศมายาวนาน เป็นที่รู้จักและไว้วางใจของสังคม ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมใดๆ

ผู้ค้าหวยร้อง “เสรีฯ” สอบ “แรมโบ้”

ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.30 น. กลุ่มผู้ค้าสลากเสรีแห่งประเทศไทย นำโดยนายประเทืองวุฒิ ลิ้มรสสุคนธ์ รองประธานผู้ค้าสลากเสรีแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ให้ช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคา และตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอ ขายหรือขายสลากเกินราคากว่ากำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีคลิปเสียงสนทนาเรื่องการนำเงินผู้ค้าสลากออนไลน์ไปใช้ในการเลือกตั้ง รวมถึงการเลือกปฏิบัติดำเนินคดีเอาผิดกับบริษัทมังกรฟ้า เพียงแพลต ฟอร์มเดียว นายประเทืองวุฒิกล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของนายเสกสกลถือว่าสนับสนุนนายทุน ไม่คำนึงถึงปากท้องประชาชนชัดเจน ขอให้เร่งแก้ไขระเบียบกองสลากที่เป็นสองมาตรฐาน ไม่โปร่งใสเป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงขอให้ยื่นญัตติด่วนตั้งคณะกรรมการแก้ไขสลากเกินราคาด้วย

เรียก “ทนายตั้ม–โบ้–จุรีพร” แจง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า จะนำเรื่องเข้า สู่ กมธ.ฯ เพื่อเชิญผู้เดือดร้อนมาร่วมรับฟังด้วย อาทิ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และคนอื่นๆ มาชี้แจงในวันที่ 27 เม.ย. กรณีมีคลิปสนทนาของนายเสกสกลระบุถึงการนำเงินผู้ค้าสลากออนไลน์ 15 ล้านบาทไปใช้หาเสียง และจะเรียกนายเสกสกล นางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่เป็นคู่สนทนาในคลิปมาให้ข้อมูลด้วย กรณีนี้ตรวจสอบง่าย จะรีบส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าการลาออกของนายเสกสกลเหมือนต้องการมาชนในชั้น กมธ.ฯเต็มที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า “จะมาชน อะไรกับผม ผมนักมวย คุณนักมวย ผมนักยูโดนะ แรมโบ้เป็นใคร ถึงผมจะอายุมาก แล้วบอกจะมาชนเดี๋ยวก็เจอหรอก”

ชี้เป้านายกฯนิ่งดูดายผิดด้วย

เมื่อถามว่านายกฯบ่นเสียดายนายเสกสกล และชมว่าการลาออกเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า ปกติระบบการบริหารเมื่อมีเหตุเกิดขึ้น นายกฯต้องตั้งกรรมการตรวจสอบโดยด่วนว่าเรื่องเป็นอย่างไร ถ้าเป็นระบบราชการต้องให้พักราชการไว้ก่อนเพื่อสอบสวน หากไม่ผิดก็กลับมาใหม่ แต่เท่าที่ติดตามนายกฯไม่ทำอะไรเลย จนกระทั่งฝ่ายเสธ.ของนายกฯเสนอมาว่าเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายจำเป็นต้องให้นายเสกสกลออกไปก่อน การที่นายเสกสกลลาออกไม่ใช่นายกฯ ให้ลาออก ถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ทำหน้าที่ไม่ได้ให้ลาออก ไม่ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ากระทำความผิดจริงหรือไม่ เรื่องนี้อาจผิดที่ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย

“จุรีพร” รับเปิดสปีกเกอร์โฟน

ด้านนางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รู้จักกับนายสุดสยาม มากแก้ว หรือนายกิ๊ก ผ่าน “นางน็อต” ที่ประสานเข้าพบเพื่อพูดคุยเรื่องโควตาจัดทำเสื้อ ซึ่งมีการพูดคุยถึงโควตาปุ๋ย และงานถนนลาดยางใน จ.ร้อยเอ็ด ที่ “นางน็อต” อ้างว่าสนิทกับรองปลัดกระทรวงคมนาคมคนหนึ่ง ไม่ขอเอ่ยชื่อ จากนั้นวันที่ 28 มี.ค.2565 “นายกิ๊ก” มาพบที่บ้านใน กทม. ได้ยินตนพูดกับนายเสกสกลว่าจะไปพบเพื่อคุยเรื่องเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด จึงขอติดตามไปด้วย แต่นายเสกสกลมีงานเยอะจึงนัดคุยกันวันหลัง จนมานั่งทานข้าวด้วยกัน ระหว่างนั้นนายเสกสกลโทร.เข้ามาจึงเปิดโฟนรับสาย ซึ่ง “นายกิ๊ก” นั่งอยู่ติดกับตน มีพฤติกรรมแปลกๆ ผุดลุกผุดนั่ง เหมือนจะลุกไปคุยโทรศัพท์บ่อยๆ แต่ไม่ได้เฉลียวใจ นอกจากนี้ยังมีการซื้อรองเท้าแบรนด์เนมมาฝาก ที่เปิดโฟนโทรศัพท์ เพราะมีปัญหาน้ำในหูไม่เท่ากันต้องเปิดลำโพงคุย ยืนยันไม่เคยมีความลับกับใคร ยินดีให้นำโทรศัพท์ไปตรวจสอบว่าใครกันแน่ที่ปล่อยคลิป ส่วน “นายกิ๊ก” หากบริสุทธิ์ใจให้นำโทรศัพท์ทุกเครื่องไปให้ตำรวจตรวจสอบด้วย

พท.เย้ย “ลุงตู่” ประโลมใจตัวเอง

ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พูดย้ำในวงประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงวาระรัฐบาลที่จะอยู่ทำหน้าที่จนครบเทอมในวันที่ 23 มี.ค.2566ว่า ก็แค่การให้กำลังใจตัวเอง แต่ปัญหาที่รุมเร้ารัฐบาลมีอยู่หลายอย่าง อย่างกรณีนายวิเชียร ชวลิต ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ และบอกว่าจะมีคนลาออกตามมาอีก ความจริงไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์พรรคการเมืองอื่นๆ แต่เท่าที่เห็นเสถียรภาพภายในพรรค พปชร. ที่เป็นพรรคใหญ่ เป็นพรรคหลักจัดตั้งรัฐบาลนี้ ยังขาดความเป็นเอกภาพอยู่ นี่คือภาพสะท้อนความเข้มแข็งของรัฐบาลด้วย ส่วนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคยังไม่ตัดสินใจส่งผู้สมัคร เพราะเห็นว่าเวลาที่เหลือในสภามีไม่มาก และพรรคให้น้ำหนักไปที่การเลือกตั้งใหญ่ เนื่องจากเชื่อว่ารัฐบาลนี้อยู่ไม่ครบ 4 ปี

ฟุ้งตั้งเป้ากวาด ส.ส. 250 เสียง

นายประเสริฐยังกล่าวถึงการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ภายใต้ชื่องาน “แลนด์สไลด์ เพื่อไทย เพื่อคนไทยทุกคน” ว่า เรามุ่งหมายจะใช้เวทีนี้สื่อสารไปถึงพี่น้องประชาชนทุกคนที่กำลังเผชิญกับวิกฤติต่างๆที่เกิดจากความผิดพลาดของรัฐบาล เราเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยคือทางออกของประเทศ และพี่น้องประชาชน เรามุ่งมั่นจะคืนชีวิตใหม่ให้พี่น้องประชาชน จะร่วมกับพี่น้องประชาชนสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ ก้าวสู่เป้าหมายให้ได้ ส.ส. 250 ที่นั่งขึ้นไป เพื่อให้ได้เข้าไปผลักดันนโยบายที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ ทั้งนี้ การประชุมจะแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยเฉพาะภาคเช้าเป็นการบรรยายด้านการเมือง โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้าน นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง นายจาตุรนต์ ฉายแสง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม

“ณัฐชา” เสี้ยม ครม.โหรงเหรง

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เห็นบรรยากาศการประชุม ครม.นัดล่าสุดแล้ว รู้สึกเหนื่อยใจแทนนายกฯ ที่รัฐมนตรีหลายคนดูเหมือนหมดใจทำงานกับท่าน อ้างติดภารกิจต่างๆนานา แม้แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ รองนายกฯ พี่ใหญ่ที่เคยอุ้มกระเตงกันมา ยังหลบหน้าลาไปพักผ่อนที่อังกฤษ สถานการณ์แบบนี้คงทำให้นายกฯใจคอไม่ดี บรรดามิตรที่เคยรักกลับปล่อยทิ้งให้โดดเดี่ยว ไม่รู้ว่ามีภารกิจอะไรในพื้นที่สำคัญไปกว่าการประชุม ครม. เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน หลังช่วงหยุดยาวที่มีวาระเร่งด่วนจ่อคิวอยู่มากมาย ไม่แน่ใจว่านี่คือการส่งสัญญาณของเหล่ารัฐมนตรี เพื่อบอกว่าพร้อมยุบสภาแล้วหรือไม่ พูดตรงๆหากจะยื้ออยู่ต่อไปจนถึงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้าย คงไม่ต่างกับการขุดหลุมฝังตัวเอง ไม่ใช่แค่แผล พล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น แต่แผลของพรรคร่วมรัฐบาลจะถูกประจานออกสู่สาธารณะจนหลายคนอาจหมดอนาคตการเมืองก็ได้ ยังมีประเด็นวาระ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 เป็นอีกเรื่องที่จะตามหลอกหลอน พล.อ.ประยุทธ์

“วิษณุ” แจงพยากรณ์อายุรัฐบาล

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังรายงานปฏิทินภารกิจรัฐบาล รัฐสภา ต่อที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 19 เม.ย. นายกฯได้ทวงถามรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ว่าแต่ละกระทรวงมีร่างกฎหมายค้างอยู่กี่ฉบับ โดยรวมแล้วมีอยู่ 20 ฉบับ ดังนั้น ถ้ากระทรวงไหนยืนยันร่างกฎหมายของตัวเองมาแล้ว จะรีบส่งเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เมื่อถามว่าชี้แจงไว้ชัดเจนใช่หรือไม่ว่ารัฐบาลจะครบเทอมวันที่ 23 มี.ค.2566 นายวิษณุตอบว่า ต้องทำตารางไปให้เห็นจนครบก่อน ส่วนจะครบหรือไม่ก็แล้วแต่อนาคต

เปิดตัวอลังการพรรค 2 กุมาร

วันเดียวกันเวลา 10.00 น. ที่ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพค ฟอรัม เมืองทองธานี พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี มีแกนนำ สมาชิกพรรคทั่วประเทศเข้าร่วมคึกคัก มีการเปิดโลโก้พรรคเป็นรูปหัวใจบวกลูกศร สื่อถึงความหวัง ความศรัทธา ความก้าวหน้าของประเทศ การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เดินหน้าไปอย่างมั่นคงมีเสถียรภาพ และเป็นประชาธิปไตย โดยใช้สีน้ำเงิน-เขียว เป็นสีประจำพรรค จากนั้นในที่ประชุมมีมติเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค 16 คน อาทิ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรคและเหรัญญิกพรรค นายนิทัศน์ ประทักษ์ใจ นายทะเบียนพรรค รองหัวหน้าพรรค ได้แก่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นายสุพล ฟองงาม นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ นายวิเชียร ชวลิต ควบเก้าอี้ ผอ.พรรค นายนริศ เชยกลิ่น นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค

ชู 5 นโยบายก้าวสู่อนาคตใหม่

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวเปิดใจบนเวทีว่า เป้าหมายสูงสุดอันดับแรก คือการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ทั้งเศรษฐกิจปากท้อง การเผชิญภาวะของแพง รายได้ตกต่ำ คนจนลง ขณะที่คนส่วนน้อยเพียงบางกลุ่มมีโอกาสรวยขึ้นจากภาวะวิกฤติซ้ำซ้อนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตอกย้ำเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน วันนี้มองไม่เห็นอนาคตดีๆ สำหรับลูกหลาน เราขอเสนอทางออกด้วยชุดนโยบาย 5 สร้าง คือ 1.สร้างเศรษฐกิจฐานรากไทยให้เข้มแข็งและทันสมัย 2.สร้างเศรษฐกิจใหม่ หรือโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต 3.สร้างคนและวิทยาการที่พร้อมที่จะก้าวสู่สังคมโลกแห่งอนาคต 4.สร้างสังคมที่เป็นธรรมและเกื้อกูล และ 5.สร้างการเมืองที่สร้างสรรค์ ที่ผ่านมาเราติดกับดักการแย่งชิงอำนาจ เมื่อเข้าสู่อำนาจแล้วก็ยึดติด และพยายามสืบทอดอำนาจ ก่อให้เกิดความร้าวฉาน แบ่งพรรคแบ่งพวก นำไปสู่ภาวะชะงักงัน

ดัน “สมคิด” แคนดิเดตนายกฯ

นายอุตตมกล่าวว่า ต้องช่วยกันหยุดประชา ธิปไตยเทียม ที่ยึดอยู่กับการตอบสนองผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม บัตรประชารัฐที่ใช้อยู่ แอปพลิเคชันเป๋าตัง ระบบพร้อมเพย์ ที่ประสบความสำเร็จ และยังใช้เยียวยาประชาชนอยู่ โครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรืออีอีซี เราเป็นผู้ริเริ่ม แต่ด้วยเงื่อนไขการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่ได้ทำงานมาระยะหนึ่ง ไม่สอดคล้องกับความตั้งใจของเราจึงก้าวออกมา จากนี้ไปเป็นการนับหนึ่งอย่างเต็มอัตรา ขอเสนอนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะสามารถเป็นผู้นำประเทศในอนาคตได้ คำถามที่ว่าเราจะสู้พรรคการเมืองเก่าได้หรือไม่ เชื่อว่าตรงนั้นเป็นความคิดการเมืองแบบเก่า วันนี้ประชาชนเปลี่ยนไปแล้ว การเมืองติดหล่ม สังคมมีแต่ความขัดแย้ง วันนี้จึงเป็นหน้าที่ของเราเสนอชุดความคิดใหม่ เสนอนโยบายเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชนและโอกาสของประเทศ

แวดวงการเมืองแห่ร่วมยินดี

ต่อมานายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวแนะนำขุนพลเลือกตั้งทั้ง 5 ภาคได้แก่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เป็นประธานภาคใต้ นายสุพล ฟองงาม ประธานภาคอีสาน นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ประธาน กทม. นายวัชระ กรรณิการ์ ประธานภาคกลาง และนายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ประธานภาคเหนือ ทั้งนี้ มีตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ มาร่วมแสดงความยินดี อาทิ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวพรรคประชาธิปัตย์ นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี นายอัศนี เชิดชัย และนางลินดา เชิดชัย ตัวแทนพรรคเพื่อชาติ และนัดประชุม กก.บห.อีกครั้งในวันที่ 27 เม.ย. คาดจะมีการหารือและลงมติเลือกนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ

“สุรนันทน์” แจงเหตุไม่กลับ พท.

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสอท. กล่าวว่า หลายคนถามว่าทำไมไม่กลับไปเพื่อไทย ยืนยันว่ายังให้ความเคารพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯอยู่ แต่คิดว่าวันนี้เราต้องมาสร้างพาหนะใหม่และองค์กรใหม่ ที่ผ่านมาคู่ต่อสู้ของตนคือพรรคประชาธิปัตย์ เช่น นายนิพิฏฐ์ แต่เราต่อสู้กันในเชิงความคิดและเหตุผล หรือคนเคยเป่านกหวีดไล่ คือนายสันติ กีระนันทน์ ตอนนี้มาทำงานร่วมกัน เราต้องลดอีโก้ตัวเอง เพื่อประเทศชาติ วันนี้ถึงเวลาสลายขั้วการเมือง สลายความขัดแย้ง จับมือกันรวมตัวคนดีและคนเก่งมาช่วยเหลือประเทศ ถ้านายกฯไม่ชื่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประเทศนี้ไปไม่รอด ส่วนคดีโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศ ไทย Thailand 2022 วงเงิน 240 ล้านบาท ที่อยู่ในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เชื่อว่าไม่กระทบภาพลักษณ์พรรคสอท. อัยการไม่ได้เป็นฝ่ายฟ้อง แต่เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ฟ้องเอง พร้อมชี้แจงทุกข้อกล่าวหา

“ธรรมนัส” มายินดีเพราะรักกัน

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวว่า มาร่วมแสดงความยินดีเพราะได้รับเชิญจากนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ เรารักกันมานาน ให้เกียรติกันมาตลอด ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐมาตั้งแต่ยังเป็นวุ้น ฉะนั้นความผูกพันและการให้เกียรติกันยังดำรงอยู่ เมื่อถามว่าอนาคตจะร่วมงานการเมืองกันได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า การเมืองยังมีเวลาตัดสินใจ สมัยที่ร่วมงานใน ครม. นายสมคิดเป็นผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ เคยมีโอกาสทำงานเศรษฐกิจฐานรากร่วมกัน จนถึงช่วงที่ท่านลาออกไป ดังนั้นเรื่องเศรษฐกิจฐานรากก็ได้ความรู้มาจากท่าน สำหรับการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯของเศรษฐกิจไทย จะเปิดตัวหลังเดือน พ.ค.

พปชร.ไม่สน สอท.ชู “สมคิด”

ที่พรรคพลังประชารัฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวถึงการเปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย ที่มีบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนเข้าร่วมงานว่า ไม่มีความอ่อนไหวใดๆ เป็นเรื่องดีที่จะแข่งขันกันเพื่อพัฒนาบ้านเมือง ประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชน เราต้องทำงานของเราให้ดีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผอ.พรรค กล่าวว่า การประกาศชูนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ถือเป็นแนวคิดของแต่ละพรรคจะเสนอใคร ไม่ขอก้าวล่วง เมื่อถามว่าหากเปรียบเทียบแคนดิเดตนายกฯของ 2 พรรคใครจะดีกว่ากัน นายสุชาติตอบว่า “ก็ต้องบอกของเราดีกว่าสิ” นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า คุ้นเคยกันดีกับนายสมคิด นโยบายเป็นไปในทิศทางเดียวกันอยู่แล้ว เพราะเราเริ่มด้วยกัน การมองว่าพรรคใหม่มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ อาจไม่ใช่คำตอบที่ชัดเจนและถูกต้อง ต้องมองหลายๆด้าน แต่เราก็พร้อมจะทำงานกับทุกพรรค นายสมคิดและนายอุตตมเป็นคนที่คุ้นเคย ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับเรา

“เสรีพิศุทธ์” เหน็บ “เอ๋” ติ๊งต๊อง

อีกเรื่อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรค พปชร. ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. สอบจริยธรรมเรื่องบุกรุกลำน้ำสาธารณะว่า เป็นคนติ๊งต๊องไม่ค่อยเข้าใจประเด็น การถมที่ดินที่ทองผาภูมิ เกิดตั้งแต่ปี 2550 ตอนนั้นยังไม่ได้เป็น ส.ส. แต่ความผิดจริยธรรมใช้กับ ส.ส. มาเป็น ส.ส.เมื่อปี 2562 การกระทำของตนจึงไม่เกี่ยวกับจริยธรรมที่สำคัญโอนให้ลูกไปหมดแล้ว ถึงบอกว่าต๊ิงต๊องไม่เข้าใจเรื่องจึงเจ็บตัวเรื่อย เรื่องนี้ไม่กังวล เมื่อถามว่าดูเหมือน น.ส.ปารีณาจะแค้นที่ทำให้หลุดจาก ส.ส. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า ไม่เป็นไรห้ามไม่ได้ น.ส.ปารีณาจะไม่พอใจ โกรธ ก็สามารถทำได้ แต่ไม่ใช่หาเรื่องโดยไม่มีข้อเท็จจริง ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่ต้องดูทนายก่อน ไม่ต้องไปสั่งเดี๋ยวเขาจัดการเอง

ป.ป.ช.เต้นโดนมือดีดูดข้อมูล

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า สำนักงาน ป.ป.ช.ออกประกาศแจ้งว่า ได้รับการประสานงานจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ตรวจพบข้อมูลสำคัญของหน่วยงานรั่วไหล ที่เว็บไซต์ https://raidforums.com/Thread-Thailand-Big-Data-Corruption-Leak-Query-System-DOX ที่นำข้อมูลที่เปิดเผยบนเว็บไซต์ ป.ป.ช. ปี 2562 จำนวน 2 รายการ คือ 1.ข้อมูลบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินปี 2562 จำนวน 780 บัญชี ไปเผยแพร่ที่เว็บไซต์ http:// 178.128.223.11:3000/nacc และ 2.ข้อมูลเรื่องกล่าวหาที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด 1,366 รายการ ไปเผยแพร่ที่ “http://178.128.223.11:3000/nacc-case” มีความเสี่ยงที่ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเปิดเผยซ้ำ ในลักษณะที่ทำให้ข้อมูลบัญชีทรัพย์สินยังคงถูกเปิดเผยหลังจากพ้นระยะเวลาเผยแพร่บัญชีฯที่ ป.ป.ช.กำหนด อีกทั้งจัดทำระบบให้แก้ไขข้อมูลได้อาจทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนไม่ตรงข้อเท็จจริงที่ ป.ป.ช.เผยแพร่ เว็บไซต์ทั้ง 2 รายการ มิใช่เว็บไซต์ทางการของสำนักงาน ป.ป.ช. หากต้องการข้อมูลข่าวสารจาก ป.ป.ช. ติดตามได้ที่ WWW.NACC.GO.TH เท่านั้น

กมธ.จ่อหั่นไพรมารีโหวต

ช่วงเช้าที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มีนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ประธาน กมธ. ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ต่อมานายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย โฆษก กมธ. แถลงว่า กมธ.เห็นชอบให้เพิ่มจำนวนคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เป็น 9 คน จากเดิม 7 คน เนื่องจากบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ภารกิจ กปน.จะมากขึ้น ส่วนการแบ่งเขตเลือกตั้ง กมธ.ส่วนใหญ่เห็นตรงกันกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เสนอแก้ไขเพิ่มคำว่า “และมีประชากรใกล้เคียงกัน ในสัดส่วนไม่เกิน 10%” ต่อจากข้อความเดิมที่ระบุว่า “เขตติดต่อกัน และมีประชากรใกล้เคียงกัน” เพื่อความเป็นธรรม ไม่ต้องการให้ กกต.ใช้ดุลพินิจแบ่งเขตตามใจชอบอีก และประเด็นไพรมารีโหวต คาดว่า กมธ.จะเห็นด้วยกับการให้สอบถามความคิดเห็นของสมาชิกพรรคในเขตเลือกตั้งใดเขตเลือกตั้งหนึ่งก็เพียงพอ ไม่ต้องโหวตทุกเขตทั้งจังหวัด

เพิ่มเวลาปั่นร่างอีก 3 ชั่วโมง

นายสาธิตกล่าวว่า กมธ.จะขยายช่วงเวลาประชุมเพื่อให้เสร็จก่อนเปิดสมัยประชุมสภาฯวันที่ 22 พ.ค. จากเดิมประชุมเวลา 09.30-13.30 น. เป็นเวลา 09.30- 16.30 น. ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี โดยเพิ่มเพียงเวลา ยังไม่เพิ่มวันประชุม ส่วนที่ ส.ว.ประเมินว่า ทันทีที่เปิดสมัยประชุมสภาฯ ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจจะทำให้การพิจารณากฎหมายลูกสะดุดนั้น คิดว่าไม่เป็นปัญหา เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้เสร็จภายใน 180 วัน ที่ กมธ.ตั้งเป้าให้เสร็จเร็วเพื่อให้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือสำคัญไม่เกิดเดดล็อก

พท.ไม่ฟันธงวันยื่นซักฟอก

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 22 พ.ค. เรื่องแรกจะพิจารณาร่างกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งว่า จะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯทันทีได้หรือไม่ รวมถึงร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 2566 ที่คาดว่าจะเข้าพิจารณาในสภาฯวันที่ 2 มิ.ย. ส่วนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีการหารือกำหนดประเด็น รัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย และวันยื่นญัตติที่จะยื่นในวันที่ 26 เม.ย.นี้หรือไม่ แต่จะยังไม่มีการสรุปใดๆ เพราะขณะนี้มีประเด็นและข้อมูลเข้ามาเรื่อยๆ ครั้งนี้เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย เราคาดหวังว่าจะสามารถสั่นคลอนรัฐบาลได้

ศาลถอนประกัน “ทานตะวัน”

ที่ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำสั่งคดีที่พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักเคลื่อนไหวอิสระ อดีตสมาชิกกลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องหาคดีดูหมิ่นแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตาม ป.อาญามาตรา 112 กรณีวันที่ 5 มี.ค.2565 ผู้ต้องหาโพสต์เฟซบุ๊กมีเจตนาพิเศษด้อยค่าสถาบันฯ ตาม ป.อาญามาตรา 112, มาตรา 138 วรรค 2 ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน มาตรา 368 ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยศาลพิจารณาคำร้องแล้ว ถือว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์เข้าร่วมกิจกรรมใดๆที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จึงให้เพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัว นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า จะรีบเขียนอุทธรณ์ยื่นในวันเดียวกัน ถ้ายื่นไม่ทันจะรีบดำเนินการโดยเร็ว น.ส.ทานตะวันเตรียมใจไว้แล้ว ทำใจได้ แต่มีผลกระทบกับการใช้ชีวิตการเรียนอย่างแน่นอน

“สุรพล” ดีใจศาลคืนเป็นธรรม

นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ (20 เม.ย.) ศาลจังหวัดฮอดได้พิพากษาคดีที่ตนฟ้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้ กกต.เยียวยา กรณีวินิจฉัยโดยไม่ให้ความเป็นธรรม รวบรัด เร่งรีบ ไม่ได้ไตร่ตรองวินิจฉัยอย่างรอบคอบ แล้วให้ใบส้มกับตนในการเลือกตั้งปี 2562 จนในที่สุดศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้วินิจฉัยว่าไม่มีความผิด ในคำฟ้องแพ่งได้เรียกค่าเสียหายจาก กกต. ที่ทำให้เสื่อมเสียเกียรติในฐานะ ส.ส. 8 สมัยไปจำนวนเงิน 86 ล้านบาท โดยศาลวินิจฉัยให้ กกต.ชดใช้เป็นวงเงิน 64.1 ล้านบาท ถือว่าเรื่องถึงที่สุด คดีนี้ถือเป็นบรรทัดฐานต่อไปให้กับนักการเมืองว่า กกต.จะเอาผิดกับนักการเมืองต้องมีความรอบคอบวินิจฉัยให้ชัดเจน ต้องขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม วันนี้ดีใจมากที่สามารถเรียกร้องศักดิ์ศรีคืนมาให้ตัวเอง และพรรคเพื่อไทยได้ ว่าเราไม่เคยใช้เงินซื้อเสียง ได้คะแนนมาอย่างยุติธรรมขาวสะอาด และการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย ในพื้นที่เดิมแน่นอน

“เจ๊หน่อย” ลุยช่วย “ศิธา” หาเสียง

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่คันนายาวช่วย น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 11 น.ส.ปวริศา คุณาวรนนท์ ผู้สมัคร ส.ก.เขตคันนายาว พรรคไทยสร้างไทย เดินหาเสียง คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า พรรคให้ความสำคัญกับการสร้างอำนาจให้ประชาชน (Empower) และปลดปล่อยประชาชน (Liberate) ให้ทำมาหากินได้เร็วที่สุด เป็นทางเลือกใหม่ และทางรอดให้กับประเทศ ยุติทุกความขัดแย้ง มุ่งสร้างเศรษฐกิจไทย น.ต.ศิธาจะให้โอกาสประชาชนคนตัวเล็ก สามารถเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำที่เป็นธรรม สามารถล้างหนี้นอกระบบ จากนั้นช่วงเย็น น.ต.ศิธาพร้อมด้วยนายสรเทพ โรจน์พจนารัช ผู้สมัคร ส.ก.เขตพระนคร และนายวีรยุทธ ว่องศิริพร ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางกอกน้อย ลงพื้นที่พบปะประชาชนริมฝั่ง แม่น้ำเจ้าพระยา พูดกับพ่อค้าแม่ขายย่านท่าพระจันทร์