“ศิธา-ประภัสร์” นำทีมแยก 3 สาย ขึ้นรถสาธารณะประชันความเร็ว และค่าโดยสาร พบทั้งความยุ่งยากและราคาแพง แจงปมไลน์หลุดในกลุ่มเพื่อไทย แค่ต้องการถามเพื่อให้พูดให้ชัด จะได้แจงถูก
วันที่ 17 เมษายน 2565 น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคไทยสร้างไทย หมายเลข 11 พร้อมด้วย นายประภัสร์ จงสงวน ผู้อำนวยการเลือกตั้ง กทม. นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ รองโฆษกพรรค และทีมไทยสร้างไทย ลงพื้นที่สำรวจการเดินทางรถสาธารณะผ่านบริการสาธารณะจากสถานีรถไฟฟ้าดอนเมืองไปยังสถานีรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
น.ต.ศิธา กล่าวว่า การเดินทางของพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ มีค่าใช้จ่ายสูงมาก เมื่อเทียบกับรายได้ โดยเฉพาะระบบรางสาธารณะรถไฟฟ้าที่ควรจะเป็นทางเลือกที่ประชาชนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ แต่ผู้มาใช้บริการกลับเป็นคนเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป อีกทั้งการใช้บริการรถไฟฟ้ามีความยุ่งยาก เพราะต้องต่อถึง 3 สายจากดอนเมือง เพื่อเข้าไปสู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ต้องเสียค่าบริการรวมทั้งสิ้นกว่า 85 บาท/คน โดยพรรคเตรียมเปิดนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าถึงการบริการรถไฟฟ้าอีกครั้งในเร็วๆนี้
นอกจากนี้ ทางทีมไทยสร้างไทย ยังได้แยกไปขึ้นรถแท็กซี่จากดอนเมืองมาอนุสาวรีย์ชัย พบว่าใช้เวลา 30 นาที มีค่าบริการ 170 บาท และเดินทางโดยรถเมล์สาธารณะ ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง มีค่าบริการรวมทั้งสิ้น 30 บาท/คน
...
ทั้งนี้ น.ต.ศิธา ยังให้สัมภาษณ์กรณีการกระทบกระทั่งกันในไลน์กลุ่ม ECOMA ที่เป็นกลุ่มไลน์อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนถูกดีดออกจากกลุ่มไลน์ว่า กรณีที่มีการส่งข่าวซึ่งระบุว่ามีบางพรรคโหนกระแสพรรคเพื่อไทย ตนเองไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะไม่มีการระบุชื่อ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการใช้รูปแบบเก่าที่มีคนเขียนข่าวแล้วให้คนรุ่นใหม่ไปเสนอข่าว โดยอาจลืมไปว่าตนเองอยู่ในกลุ่มด้วย เมื่อมีการส่งข่าวดังกล่าวเข้ามาในกลุ่ม ตนก็ให้ทีมงานตรวจสอบว่าข่าวดังกล่าวมีออกมาหรือยัง ซึ่งยังไม่มีการเสนอข่าว แต่ผู้บริหารเพื่อไทยมีรายละเอียดข่าวดังกล่าวแล้ว ตนจึงถามไปในกลุ่มว่า เพื่อไทยควรทำตัวเป็นพี่ใหญ่ ชนะเลือกตั้งแต่ไม่ได้เป็นรัฐบาลไม่ได้รับความเป็นธรรมเราก็เห็นใจ แต่การทำแบบนี้พวกตนจึงต้องออกมา เพราะอยากให้ลงรายละเอียดขอให้ระบุชื่อจะได้ชี้แจง ตนเพียงถามว่าอยากให้ระบุว่าใคร แต่เขาไม่ยอมพูดแล้วเจ้าตัวจะอธิบายอย่างไร พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำของพรรคฝ่ายประชาธิปไตย แทนที่จะไปสู้กับฝ่ายเผด็จการ แต่ทุกพรรคที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตยโดนแขวะแบบนี้หมดแล้วจะชนะฝ่ายเผด็จการได้อย่างไร
เมื่อถามว่า หลังถูกดีดออกมาจากกลุ่มไลน์ได้โทรเคลียร์กันหรือไม่ น.ต.ศิธา ตอบว่า ตั้งแต่ตนออกมาไม่ได้เคยคุยกันเลย แต่ที่ถามไปก็ควรตอบ แต่นี่ไม่ตอบแล้วแตะออกจากกลุ่มเลยก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็อยากให้บอกมาว่าใครเป็นคนเอาพรรคเพื่อไทยไปอ้างเรื่องอะไรจะได้ชี้แจง.