มีผู้สื่อข่าวเอาคำถาม ข้อเสนอการทำสัตยาบันของพรรคร่วมรัฐบาลกันล่วงหน้า หลังเลือกตั้งไปแล้วจะได้จับมือกันตั้งรัฐบาลอีกรอบ ให้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยตอบคำถามนี้ โดย อนุทิน พยายามแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่เชื่อในผลของสัตยาบันทางการเมือง ที่ผ่านมาก็เคยเจ็บเนื้อเจ็บตัวมาแล้ว
คำตอบสั้นๆแต่ได้ใจความ เลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว เห็นผลคะแนน ส.ส.ของแต่ละพรรค แล้วค่อยมาว่ากัน เป็นสัญญาประชาคมว่าจะไม่เอา พรรคภูมิใจไทย ไปผูกมัดกับฝ่ายใดทั้งสิ้น
ทบทวนข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ เป็นเวลาที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ถูกขับจาก พลังประชารัฐ ไปอยู่ พรรคเศรษฐกิจไทย และเป็นช่วงเวลาที่ ฝ่ายค้าน ประกาศจองกฐิน อภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พอดี ทำให้เกิดความหวาดระแวงว่า จะมี เกมโค่นอำนาจนายกฯภาคสอง เกิดขึ้น
และก็มีข่าวจากวงสนทนาระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ อนุทิน ด้วยว่า อนุทิน ได้ให้ความมั่นใจกับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าสามารถควบคุมเสียงใน สภา ไม่น้อยกว่า 260 เสียง ถึงขนาดโชว์โพยรายชื่อ ของ ส.ส.งูเห่า ที่จะมาช่วยโหวตคะแนนไว้วางใจให้ พล.อ.ประยุทธ์
ซึ่งก็เป็นช่วงพอดีกับที่มีความขัดแย้ง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ระหว่าง กทม.มหาดไทยและกระทรวงคมนาคม ตอนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ สั่งให้นำข้อเสนอของ กระทรวงคมนาคม ที่มี ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็น รมว.คมนาคม ไปพิจารณาด้วย ให้ถอนเรื่องออกจาก ครม.ไปก่อน
จนแล้วจนเล่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวก็ยังไม่เข้า ครม.
กระทรวงคมนาคมที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของพรรคภูมิใจไทย คงหงุดหงิดกับเรื่องนี้พอสมควร แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดจาอะไร ความขัดแย้งในรัฐบาลระหว่างภูมิใจไทยกับพลังประชารัฐมีมาเป็นระยะๆพอหอมปากหอมคอ วอล์กเอาต์จาก ครม.ก็เคยทำมาแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ยังไม่อำนวยที่จะปะทะหรือตัดเชือกกันในช่วงนี้
...
ล่าสุด มีรายงานจากมหาดไทยว่า ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดมหาดไทย ได้ทำหนังสือเวียนไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด แจ้งขอความร่วมมือในฐานะที่กำกับดูแล องค์การบริหารส่วนจังหวัด ช่วยสกัดไม่ให้ตัวแทนผู้บริหาร อบจ.เข้าพบนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เพื่อจะขอให้ทบทวนมติ ครม.วันที่ 15 มี.ค. ประเด็นงบประมาณการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้ อบจ.เพียง 512 แห่ง จากที่สมัครจะถ่ายโอน 3 พันกว่าแห่ง โดยขอให้ผู้ว่าฯแต่ละจังหวัดรับฟังปัญหาแทน
เพราะถ้าให้มีการเข้ามาแสดงพลังกันในครั้งนี้ก็เท่ากับเป็นการรับหน้าเสื่อระหว่างมหาดไทยกับสาธารณสุขอีกระลอก ซึ่งอาจจะขยายความบานปลายเป็นเรื่องการเมืองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลได้
การเมืองคือเรื่องของผลประโยชน์ที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวรซะด้วย.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th