"ชูวิทย์" หัวหน้าพรรครักประเทศไทย สวน "เฉลิม" อย่าเลือกปฏิบัติ จับแต่บ่อนเตาปูน ตอกกลับเจ็บ เป็นลา ดีกว่าเป็นล่อ เตือนระวังคนใกล้ตัว ได้ฤกษ์ ส่งเรื่อง "ชัยวัฒน์" ให้ ป.ป.ช. 8 ก.พ.ย้ำของบฯ ผิด รธน.

วันที่ 7 ก.พ. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีระบุว่าตนเล่นเกินบท ที่ออกมาแฉถึงนายพลตำรวจที่เกี่ยวข้องกับบ่อนว่า ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้ใหญ่ที่ตนเคารพรัก เป็นนายตำรวจเก่า ตำรวจกับบ่อนย่อมไม่ถูกกัน แต่ตำรวจบางคนก็ชอบเล่น หรือบางคนก็ทำงานใกล้ชิดกับบ่อน ไปตีเมืองขึ้นก็มี ที่พูดแบบนี้เพราะรักกันชอบกันถึงเตือนกันได้ แต่ที่ท่านออกมาพูดนั้น อาจเป็นการเข้าใจผิดคิดว่าสั่งตนได้ เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม สั่งตนไม่ได้เพราะตนไม่ใช่ลูกน้องของ ร.ต.อ.เฉลิม ดังนั้นที่บอกว่า เล่นเกินบท

ร.ต.อ.เฉลิม อย่าเข้าใจผิด ถ้าจะหาลูกน้องก็ไปหาในพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็คงหายากเต็มทน เพราะคนในพรรคเพื่อไทยเอง ยังมานินทาให้ฟังว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยากเป็นฮีโร่ รู้ทุกอย่าง ตอบได้ทุกเรื่อง ตอนนี้บุญพาวาสนาส่ง ให้ได้เป็นรองนายกฯ ได้คุมตำรวจ ก็ขออย่าให้มีพฤติกรรมตาเล็กตาใหญ่ จะจับบ่อนการพนันก็ควรจับทั้งหมด อย่าเว้นวรรค จับเฉพาะบางบ่อน อย่างเช่น บ่อนเตาปูน เพราะเขาเป็นบ่อนเหลือง เห็นจับกี่ที ย้ำกี่ครั้งก็พูดแต่บ่อนเตาปูนหรือบ่อนบางซื่อ แต่ทีบ่อนแดงกลับไม่จับ เป็นตำรวจต้องทำหน้าที่ตรงไปตรงมา เพราะบ่อนมีจริงเป็นร้อยเป็นพันบ่อน ไม่เห็นจับ

“ส่วนข้อมูลเรื่องบ่อน ถ้าไม่มีขอให้บอกมา แต่ถ้ารู้แล้วก็ต้องทำหน้าที่ไปตามบท เพราะวันนี้สารวัตรเฉลิมทำหน้าที่คุมตำรวจ แต่เรื่องที่ชอบเล่นต้องเก็บไว้ในใจ แต่ถ้าวันไหนไม่ได้เป็นรองนายกฯ ไม่ได้คุมตำรวจแล้ว จะชวนผมไปเล่นบ่อนที่ปอยเปต หรือมาเก๊าก็บอกมา ผมบอกข้อมูลไป ก็ควรไปจับ ทำหน้าที่ตามบทเหมือนกันและที่มาบอกว่าผมเป็นลา ผู้ใหญ่ด่าเท่ากับว่าผู้ใหญ่รัก ผมก็อยากบอกว่าเป็นลา ก็ดีกว่าเป็นล่อ เพราะเดี๋ยวจะไปล่อเงินคนอื่นเขา และนิสัยเอาเงินคนอื่น ผมไม่มีเพราะไม่ได้เป็นตำรวจเก่า ใช้เงินจากกระเป๋าตัวเอง ถ้าเจอหน้าแล้วผมจะขอไหว้สารวัตรแกงามๆ แล้วจะกระซิบข้างหูว่า อย่าเอ็ดไป ขอให้ระวังคนใกล้ตัว ไม่เกิน 3 ก้าว เพราะเดี๋ยวนี้ในวงการมีข่าวคนชื่อย่อ “บ” ไปตีเมืองขึ้นอยู่ และเวลาให้สัมภาษณ์ก็อย่ามันส์ปาก ถ้าจะให้ดี ช่วยหาลูกน้องในพรรคให้ครบได้สัก 5 คนก่อน เพราะ ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยเขาต่างนินทาว่า ต่อสายตรงอย่างเดียว ถึงได้ขึ้นชั้นอย่างนี้” นายชูวิทย์กล่าว

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า มาถึงวันนี้ตนไม่อยากจะพูดเรื่องบ่อน และไม่ใช่มีใครขอ เพราะข้อมูลยังมีอีกเยอะ แม้กระทั่งข้อมูลในเขตบางบอน ตนก็มีไม่ใช่น้อย แต่ยังเกรงใจเพราะบ้านตนอยู่รัชดา ไม่ได้อยู่ที่เขตบางบอน ตนก็ขออยู่แบบพรรคเล็กๆ ที่วันนี้บุญวาสนายังไม่ถึง อีกทั้งยังมีศึกภายในพรรคที่ต้องสะสางให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยมาว่ากัน ส่วนตำรวจก็ขออยู่นิ่งๆ จะเชียร์ ผบ.ตร.ก็เชียร์กันไป เพราะรู้ว่าเป็นญาติใคร

...

สำหรับ กรณีนายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย ระบุจะฟ้องหมิ่นประมาท เพิ่มที่ สภ.อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 8 ก.พ.พร้อมทั้งขู่จะแฉลากไส้ตนนั้น นายชูวิทย์ กล่าวว่า ก็ว่าไป แต่ในวันที่ 8 ก.พ. เวลา 10.00 น. ตนก็จะไปมอบหลักฐานเอกสาร และให้ข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เช่นกัน และต่อจากนั้นตนจะให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ หากเขาจะพูดหรืออ้างอะไรก็ปล่อยให้เขาพูดไป แต่การที่อ้างว่า ประสานงานของบไปทำถนนเพื่อช่วยชาวบ้านเป็นการพูดความจริงครึ่งเดียว เพราะไม่ได้บอกว่าถนนที่ตัดผ่านนั้น ต้องตัดผ่านหน้าบ้านตัวเองด้วย และต้องถามว่า มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทที่เข้ามารับเหมาก่อสร้างทางด้วยหรือไม่ อย่างไร ซึ่งพฤติกรรมวิ่งเต้นของบประมาณ มันก็ผิดรัฐธรรมนูญชัดเจนอยู่แล้ว ตนจึงไม่เข้าใจว่า เมื่อเอาความจริงมาเปิดเผย โดยการปัดกวาดทำความสะอาดในพรรคตัวเองก่อนที่จะตรวจสอบคนอื่น มันผิดตรงไหน

"ส่วนที่เขาพาดพิงว่าคณะกรรมการบริหารพรรคก็ไปเอาลูกน้องในโรงแรมมาเป็นนั้น ก็ขอถามว่า ทุกคนเป็นคนไทยไม่ได้เป็นคนต่างด้าว ทำถูกต้องตามกฎหมายกำหนด แล้วมันผิดตรงไหน เรื่องนี้ขอให้เขาพูดมาก่อน และตนจะคอยฟังเพราะอยู่ที่พยานหลักฐาน" นายชูวิทย์ กล่าว